.jpg)
รวม 5+2 นาฬิกา "Rolex" รุ่นฮิต ซื้อมาขายไป ราคาไม่ตก แถมหรูหราดูแพง
รวมรุ่นฮิต Rolex ซื้อมาขายไป ราคาไม่ตก แถมหรูหราดูแพง
เมื่อพูดถึงนาฬิกาหรูที่ครองใจทั้งนักสะสมและนักลงทุนทั่วโลก Rolex คือชื่อแรกที่หลายคนนึกถึง ด้วยดีไซน์เหนือกาลเวลา คุณภาพระดับโลก และสิ่งสำคัญคือ “ราคาไม่ตก” ซื้อมาขายไปยังไงก็คุ้มค่า แถมใส่แล้วดูดีมีระดับ มาดูกันว่ามีรุ่นใดบ้างที่ติดโผ Rolex รุ่นฮิต สำหรับคนที่อยากลงทุน
5 รุ่น Rolex ยอดนิยม ซื้อมาขายไป ยังไงก็คุ้ม
1. Rolex Submariner
- จุดเด่น: นาฬิกาดำน้ำสุดคลาสสิก ผลิตด้วยวัสดุคุณภาพสูง กันน้ำได้ลึก
- เหตุผลที่ราคาไม่ตก: ตลาดต้องการสูง เหมาะทั้งใส่ใช้งานและสะสม มีสีให้เลือกหลากหลาย เช่น ดำ น้ำเงิน เขียว (Hulk)
2. Rolex Daytona
- จุดเด่น: นาฬิกาโครโนกราฟสไตล์สปอร์ต ผลิตจำกัดในแต่ละปี
- เหตุผลที่ราคาไม่ตก: นักสะสมทั่วโลกแย่งกันซื้อ ราคามือสองมักสูงกว่าราคาป้าย
3. Rolex GMT-Master II
- จุดเด่น: บอกเวลาได้สองไทม์โซน เหมาะกับนักเดินทาง ดีไซน์ขอบหน้าปัดโดดเด่น เช่น "Pepsi" และ "Batman"
- เหตุผลที่ราคาไม่ตก: ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ ผลิตน้อย และมีความต้องการสูงในตลาดโลก
4. Rolex Datejust
- จุดเด่น: ดีไซน์เรียบหรู ใส่ได้ทุกโอกาส ตัวเรือนและสายมีให้เลือกหลากหลายวัสดุ
- เหตุผลที่ราคาไม่ตก: เป็นรุ่นอมตะของ Rolex ที่คนต้องการตลอด
5. Rolex Explorer / Explorer II
- จุดเด่น: แข็งแรงทนทาน ดีไซน์เรียบ ใส่ง่ายกับทุกลุค
- เหตุผลที่ราคาไม่ตก: ผลิตน้อย เหมาะกับนักสะสม ราคาขึ้นต่อเนื่อง
Rolex สำหรับผู้หญิง ที่น่าลงทุน
- Day-Date 36 mm: หน้าปัดประดับเพชร ทองคำ 18 กะรัต หรูหรา สไตล์คลาสสิก
- Datejust 31 mm: ทองคำขาวหรือทองชมพู หน้าปัดประดับเพชร ใส่ได้ทุกโอกาส
Rolex ยังคงเป็นหนึ่งในแบรนด์นาฬิกาหรูที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทยและทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นนักสะสมนาฬิกามือเก๋า นักลงทุน หรือผู้ซื้อเพื่อสวมใส่จริง ต่างก็ให้ความสนใจในมูลค่าทางการตลาดของ Rolex อยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงความต่างระหว่าง ราคามือหนึ่ง กับ ราคามือสอง ซึ่งมักจะมีช่องว่างที่สะท้อนถึงดีมานด์ในตลาดได้อย่างชัดเจน
ราคามือหนึ่งและมือสองของ Rolex รุ่นยอดนิยมในไทย (ปี 2025)
หมายเหตุ: ราคามือหนึ่งเป็นราคาประมาณจากเว็บไซต์ทางการและดีลเลอร์ในไทย ราคามือสองเป็นราคาตลาดนาฬิกามือสองในไทย ณ ปี 2025 ทั้งนี้ ราคาขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย สี สภาพ และอุปกรณ์ที่มากับตัวเรือน
รุ่น | ราคามือหนึ่ง (บาท, โดยประมาณ) | ราคามือสอง (บาท, โดยประมาณ) | หมายเหตุ |
---|---|---|---|
Submariner | 347,000 ขึ้นไป | 290,000–650,000 | รุ่น/สีพิเศษ (Hulk, Kermit) ราคาสูงกว่าปกติ |
Daytona | 690,000 ขึ้นไป | 930,000–1,500,000 | ราคามือสองสูงกว่ามือหนึ่งในหลายรุ่น/สี |
GMT-Master II | 418,000 ขึ้นไป | 340,000–530,000 (Pepsi/Batman) | รุ่น/สีพิเศษราคาสูง (Batman มือหนึ่ง 575,000) |
Datejust 36mm | 188,000 ขึ้นไป | 150,000–250,000 | ขึ้นกับวัสดุ/หน้าปัด/ขนาด |
Datejust 41mm | 299,000 ขึ้นไป | 220,000–350,000 | |
Lady-Datejust | 135,000 ขึ้นไป | 110,000–180,000 | |
Day-Date | 739,000 ขึ้นไป | 600,000–1,200,000 | ทองคำ/เพชร ราคาสูงกว่าปกติ |
Explorer | 267,000 ขึ้นไป | 270,000–320,000 | Explorer II ราคาใกล้เคียงกัน |
สรุปจุดเด่นราคา
- Submariner: มือหนึ่งเริ่ม 347,000 บาท มือสองขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย (Hulk/Kermit อาจแตะ 600,000+)
- Daytona: มือหนึ่ง 690,000 บาทขึ้นไป มือสองสูงมาก (900,000–1,500,000) เพราะดีมานด์สูง
- GMT-Master II: มือหนึ่ง 418,000–575,000 บาท (ขึ้นกับสี เช่น Batman) มือสอง 340,000–530,000 บาท
- Datejust: มือหนึ่ง 135,000–299,000 บาท มือสอง 110,000–350,000 บาท
- Day-Date: มือหนึ่ง 739,000 บาทขึ้นไป มือสอง 600,000–1,200,000 บาท
- Explorer: มือหนึ่ง 267,000 บาทขึ้นไป มือสอง 270,000–320,000 บาท
หมายเหตุเพิ่มเติม
- ราคามือหนึ่งขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย สี และวัสดุ (เช่น ทองคำ เพชร ราคาสูงกว่าสแตนเลส)
- ราคามือสองขึ้นกับสภาพ ปีผลิต อุปกรณ์ครบ และความนิยมของสี/รุ่น
- Rolex บางรุ่น (เช่น Daytona, GMT-Master II สีพิเศษ) ราคามือสองสูงกว่ามือหนึ่ง เพราะหายากและเป็นที่ต้องการในตลาด