.jpg)
แพทย์ผิวหนังเตือน สัญญาณเล็กๆ บนผิวหนังที่ถูกมองข้าม อาจบ่งบอกถึงโรคมะเร็งได้
แพทย์ผิวหนัง เตือน สัญญาณเล็ก ๆ บนผิวหนังที่หลายคนมองข้าม อาจบ่งบอกถึงโรคมะเร็งได้
แดเนียล ซูไก แพทย์ผิวหนังผู้ผ่านการฝึกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เตือนว่า รอยตำหนิบนผิวหนังที่ดูเหมือนไม่มีพิษภัยบางอย่าง อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งได้
เขาแนะนำว่า หากมีสิวหรือตุ่มที่ไม่หายภายใน 1 เดือน ควรรีบพบแพทย์ผิวหนัง
“ถ้าคุณมีสิวที่ไม่ยอมหายภายใน 4 สัปดาห์ กรุณาไปพบแพทย์ผิวหนังนะครับ” เขากล่าวผ่าน TikTok
อีก 1 สัญญาณที่ควรรีบไปตรวจ คือจุดที่มีเลือดออก
“หลายคนมักบอกผมว่า แค่ล้างหน้าแล้วตรงนี้ก็เลือดออกอีกแล้ว เป็นแบบนี้วนไป ระหว่างเลือดออกกับตกสะเก็ด” ดร.ซูไก แพทย์ผิวหนัง กล่าว
“ถ้ามีจุดใดจุดหนึ่งบนผิวที่ไม่ยอมหายสนิท หรือเปราะบางจนแค่สัมผัสเบา ๆ เช่นตอนล้างหน้าก็เลือดออกแล้ว แบบนี้ควรไปพบแพทย์ผิวหนังทันทีครับ”
ดร.ซูไก เผยว่า อาการทั้งสองอย่างนี้อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งผิวหนังชนิดเซลล์ฐาน (Basal Cell Carcinoma หรือ BCC) ซึ่งเป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุด โดยในแต่ละปีมีชาวอเมริกันราว 3.6 ล้านคน ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งผิวหนังชนิดเซลล์ฐานในแต่ละปีตามข้อมูลของมูลนิธิโรคมะเร็งผิวหนัง
ตามชื่อของมัน มะเร็งผิวหนังชนิดนี้เริ่มต้นจากเซลล์ฐาน ซึ่งสร้างเซลล์ผิวหนังใหม่ในขณะที่เซลล์เก่าตายไป ตามข้อมูลจาก Mayo Clinic
“ผมวินิจฉัยโรคนี้ทุกวัน และผ่าตัดรักษาทุกวันจริง ๆ” ดร.ซูไก กล่าว
มะเร็ง BCC มักสร้างเส้นเลือดเล็ก ๆ คล้ายกิ่งไม้เพื่อช่วยในการเจริญเติบโต ทำให้มีแนวโน้มที่จะเกิดเลือดออกได้ง่ายเป็นพิเศษ
มะเร็งชนิด BCC อาจปรากฏเป็นสิวที่ไม่ยอมหาย ก้อนนูนสีผิวที่เงางาม จุดขาวหรือเหมือนขี้ผึ้ง แผ่นราบมีสะเก็ด หรือรอยโรคที่มีสีดำ น้ำตาล หรือฟ้า
สำหรับผู้ที่มีผิวสี ดร.ซูไก ชี้ว่า BCC มักมีลักษณะเป็นจุดด่างสีเข้ม
“มักจะมีสีเข้มเกินปกติผสมแดงบ้าง และเมื่อเวลาผ่านไปจะกลายเป็นแผ่นผิวที่ถูกกัดกร่อนและเลือดออกง่าย” เขากล่าว
ดร.ซูไก ยังเตือนว่า 20 ปีแรกของชีวิตเป็นช่วงเวลาสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องผิวจากแสงแดด
“การโดนแดดเผาในวัยเด็กจะส่งผลต่อความแข็งแรงของ DNA และสุขภาพผิวในระยะยาวอย่างแน่นอน”
แต่เขากล่าวว่า ดีกว่าเริ่มช้า ดีกว่าไม่เริ่มเลยเมื่อต้องป้องกันตัวเอง
“ถ้าคุณเพิ่งเริ่มใช้ครีมกันแดด ก็ไม่สายเกินไปหรอก” ดร.ซูไก แนะนำ “ทาครีมกันแดดต่อไป เพราะเราไม่อยากให้ผิวของเรามีการกลายพันธุ์ของ DNA ที่เกิดจากแสงแดด”
เช่นเดียวกับมะเร็งผิวหนังชนิดอื่น ๆ BCC อาจเกิดขึ้นในวัยที่มากขึ้น หลังจากได้รับแสงแดดสะสมหลายปี และการรักษาส่วนใหญ่คือการผ่าตัดเอาบริเวณที่เป็นออกทั้งหมด
มะเร็งชนิดนี้มักพบในจุดที่โดนแสงแดดบ่อย ๆ เช่น คอ แขน หน้า และศีรษะ แต่ไม่ได้หมายความว่าส่วนอื่นของร่างกายจะปลอดภัยเสมอไป
“คุณสามารถเป็นมะเร็งผิวหนังในบริเวณที่แสงแดดส่องไม่ถึงได้เช่นกัน เช่น บริเวณช่องคลอดหรือองคชาต” ดร.ฟาติมา ฟาห์ส แพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ เคยบอกกับ The Post
“แม้อาจฟังดูเขินอาย แต่ถ้ามีสิวหรือแผลใหม่ที่ไม่ยอมหาย ควรรีบไปพบแพทย์”
นอกจากนี้ ดร.ฟาห์ส ยังเสริมว่า มือและเล็บของคุณก็ไม่ได้ปลอดภัยเสมอไปเช่นกัน
“ควรตรวจดูรอยดำหรือการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อใหม่รอบๆ เล็บด้วย” เธอกล่าว “เนื้องอกสีดำที่โคนเล็บอาจเกิดขึ้นได้ และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้”
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่าง ดร.ซูไก และ ดร.ฟาห์ส แนะนำให้ตรวจคัดกรองมะเร็งผิวหนังอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือบ่อยกว่านั้นหากมีความเสี่ยงสูง