
พาลูกสาว ป.5 ไปย้อมผม จู่ๆ ครูส่งข้อความมา "อยากให้ย้อมกลับเป็นสีดำ" ผปค.ถึงกับงง
พาลูกสาว ป.5 ไปย้อมผม ผู้ปกครองถึงกับงง จู่ ๆ ได้รับข้อความจากครูว่า "อยากให้ย้อมกลับเป็นสีดำ" ชาวเน็ตถกเสียงแตกเป็นสองฝั่ง
เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป หลายโรงเรียนก็เริ่มยกเลิกกฎเข้มงวดเรื่องทรงผม แต่มีผู้ปกครองรายหนึ่งเผยว่า หลังพาลูกสาว ป.5 ไปย้อมผม กลับได้รับข้อความจากครูว่า "อยากให้ย้อมกลับเป็นสีดำ" ทำเอาเธอไม่รู้จะจัดการอย่างไร สุดท้ายต้องโพสต์ถามความคิดเห็นในโลกออนไลน์ ซึ่งก็กลายเป็นประเด็นถกเถียงสองฝ่ายทันที
ผู้ปกครองชาวไต้หวันรายหนึ่ง โพสต์ใน Threads ว่า ลูกสาวที่เรียนอยู่ ป.5 อยากย้อมผมมานาน พอเห็นว่าทางโรงเรียนยกเลิกกฎห้ามเรื่องทรงผมแล้ว จึงตัดสินใจพาไปทำ “ไฮไลต์เฉพาะตรงหู” ที่ร้านทำผมช่วงปิดเทอมฤดูหนาว
แต่พอเปิดเทอมได้ 2 สัปดาห์ คุณครูกลับส่งข้อความมาบอกว่า "หากให้เด็กย้อมผมช่วงปิดเทอม อยากให้ย้อมกลับเป็นสีดำเมื่อต้องมาโรงเรียน เพราะกลัวเพื่อนๆ จะทำตาม"
เจ้าของโพสต์มองว่า ในเมื่อโรงเรียนยกเลิกกฎห้ามเรื่องทรงผมแล้ว ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมยังต้องให้เด็กไว้ผมสีธรรมชาติ
"ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมต้องย้อมกลับเป็นสีดำ ลูกสาวนั่งที่ร้านทำผมตั้ง 5 ชั่วโมง ทั้งกัดสี รอให้สีจาง แล้วย้อมสี กว่าจะได้ผมมีสีตรงเล็ก ๆ ข้างหู เธอก็ไม่ได้ปล่อยให้การเรียนเสียเลยสักนิด"
เจ้าของโพสต์ยังบอกตรง ๆ ว่า หากโรงเรียนยังมีกฎห้ามเรื่องทรงผม ในฐานะผู้ปกครองเธอก็จะไม่ฝ่าฝืนแน่นอน แต่ตอนนี้กลับรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก พร้อมกับถามอย่างจนใจว่า "ตอนนี้ไม่รู้จะอธิบายเรื่องนี้กับลูกยังไงดี มีใครพอจะแนะนำได้บ้างไหม?"
หลังโพสต์ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นต่างกัน
บางคนมองว่า “ควรบอกคุณครูไปว่า ตอนนี้ไม่มีการห้ามย้อมผมแล้ว อยากให้เคารพการตัดสินใจของผู้ปกครองและเด็กด้วย”
บางคนก็เสริมว่า “ไม่เห็นว่าการย้อมผมจะผิดตรงไหน ถ้าต้องย้อมกลับเพียงเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา แบบนั้นเด็กคงรู้สึกเสียใจ…”
อีกความเห็นบอกว่า “ระบบการศึกษาของไต้หวันให้ความสำคัญกับความเป็นหนึ่งเดียว ใครที่พยายามเป็นตัวของตัวเอง ก็มักจะกลายเป็นคนนอก หากในกฎโรงเรียนไม่ได้ห้าม ก็ไม่ใช่ความผิดของคุณเลย”
แต่อีกด้านก็มีเสียงไม่เห็นด้วย เช่น
“เราไม่ให้ลูกย้อมผม เพราะนอกจากครูจะบอกให้ย้อมกลับ ยังอาจเกิดปัญหาในกลุ่มเพื่อน เช่น ถูกเกลียดหรือโดนกลั่นแกล้งเพราะเรื่องนี้”
บางคนแสดงความเห็นว่า “เราเป็นคนค่อนข้างอนุรักษ์นิยม ยังเชื่อว่าเด็กควรมีภาพลักษณ์แบบนักเรียน ประถม มัธยมก็ควรมีความเป็นระเบียบเหมือนกันทุกคน ไม่งั้นคนนี้ย้อม อีกคนก็ตาม ย้อมกันจนสีสันเลอะเทอะ แล้วก็เจาะหู สักลาย พอบอกไม่ผิดกฎหมายก็ทำกันหมด สุดท้ายก็อ้างว่าไม่กระทบการเรียน แต่ถ้าไม่มีวินัย ไม่มีความเป็นหนึ่งเดียว ต่างคนต่างอยากเด่น โรงเรียนก็คงวุ่นวายไปหมด โตแล้วจะทำอะไรก็เรื่องของเขา แต่ตอนยังเป็นนักเรียนก็ยังไม่ควร”
อีกความคิดเห็นบอกว่า “เราไม่ให้ลูกย้อมผมเพราะเหตุผลด้านสุขภาพ ใครที่เคยอยู่กับผู้ป่วยมะเร็งจะเข้าใจว่ามันเสี่ยงและเหนื่อยแค่ไหน”
และบางคนก็กล่าวอย่างเข้าใจครูว่า “เราพอเข้าใจที่ครูเป็นห่วง เพราะไม่ใช่เด็กทุกคนจะมีวินัยและควบคุมตัวเองได้เหมือนลูกของคุณ”