.jpg)
แม่เอะใจ ลูกกลัวการนอนกลางวัน ปรี๊ดแตก! เห็นรูปที่โรงเรียน ก่อนครูเฉลยเหตุผล
ุภาพถ่ายลูกนอนกลางวันที่โรงเรียนอนุบาล ทำแม่เดือดปุด ๆ เรียกร้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด แต่พอฟังคำอธิบายจากครูถึงเข้าใจ ที่แท้ทำไปเพื่อเด็ก ๆ
โรงเรียนอนุบาลคือจุดเริ่มต้นที่เด็กได้ก้าวเข้าสู่สังคมส่วนรวมเป็นครั้งแรก ที่นี่เด็ก ๆ ไม่เพียงแต่ได้เรียนรู้ความรู้พื้นฐาน แต่ยังฝึกฝนการช่วยเหลือตัวเอง มีวินัย รู้จักปรับตัว และเรียนรู้การอยู่ร่วมกับเพื่อน ๆ อย่างกลมกลืน รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวันล้วนมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเด็กอย่างรอบด้าน
เพื่อให้ผู้ปกครองเข้าใจชีวิตในห้องเรียนมากขึ้น ครูมักส่งภาพกิจกรรมต่าง ๆ ของเด็ก ไม่ว่าจะเป็นตอนรับประทานอาหาร เล่น หรือนอนหลับ เพื่อให้พ่อแม่ได้เห็นพัฒนาการและความเป็นอยู่ของลูก
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองบางคนอาจยังไม่เข้าใจวิถีชีวิตและระเบียบของโรงเรียนอนุบาล จึงอาจเกิดความเข้าใจผิดจากรายละเอียดเล็ก ๆ เช่นภาพถ่ายเพียงใบเดียว
เช่นกรณีของคุณแม่ชาวจีนคนหนึ่ง “คุณเจ้า” ซึ่งเพิ่งให้ลูกสาวเข้าเรียนอนุบาลได้ไม่นาน ก็สังเกตว่าลูกเริ่มงอแง ไม่อยากไปโรงเรียน โดยเฉพาะช่วงเวลานอนกลางวันที่ดูจะหวาดกลัวเป็นพิเศษ เธอคิดว่าลูกยังปรับตัวไม่ได้ จนกระทั่งได้รับภาพจากครูที่ถ่ายไว้ตอนเด็ก ๆ นอนหลับในห้องเรียน เธอจึงเริ่มเข้าใจบางอย่าง
ในภาพเด็ก ๆ นอนเรียงกันบนเตียงเล็กที่ตั้งชิดกัน และลูกสาวของเธอนอนโดยที่ศีรษะหันไปทางเท้าของเพื่อนข้าง ๆ คุณเจ้าเห็นแล้วรู้สึกไม่สบายใจ มองว่าเป็นเรื่องไม่ถูกสุขลักษณะ กลัวว่าเพื่อนอาจเผลอถีบโดนหน้าลูกขณะพลิกตัว จึงไปสอบถามและโต้เถียงกับคุณครู
แต่เมื่อได้ฟังคำอธิบายจากครู เธอก็เข้าใจว่า การจัดให้นอนแบบ “หัวสลับเท้า” นั้นไม่ได้เกิดจากความบังเอิญ แต่เป็นการจัดวางอย่างมีเจตนา เพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัยของเด็ก ๆ เอง
ทำไมครูถึงจัดให้เด็กนอนแบบ “หัวสลับเท้า”?
ในความเป็นจริง การจัดท่านอนแบบ “หัว-เท้าสลับกัน” นี้ถูกนำมาใช้ในโรงเรียนอนุบาลหลายแห่ง เพราะให้ประโยชน์สำคัญถึง 3 ด้านต่อสุขภาพและวินัยในการใช้ชีวิตของเด็ก ๆ ดังนี้
1. ลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อทางเดินหายใจ
ในห้องนอนกลางวัน เด็ก ๆ มักนอนใกล้กันมาก หากทุกคนหันหัวไปทางเดียวกัน การหายใจในพื้นที่จำกัดอาจทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายง่าย โดยเฉพาะไข้หวัดหรือโรคติดต่อทางเดินหายใจ
เด็กเล็กมีภูมิคุ้มกันต่ำ แค่คนหนึ่งไอหรือจาม ก็สามารถแพร่เชื้อให้เพื่อนข้างๆ ได้แล้ว การจัดให้นอนสลับหัว-เท้าจะช่วยให้ลมหายใจไม่พัดใส่ใบหน้าของเพื่อนโดยตรง จึงลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้มาก
2. ป้องกันไม่ให้เด็กแอบคุยหรือเล่นกันตอนนอน
เด็ก ๆ ไม่ใช่ทุกคนจะยอมนอนอย่างสงบ หากนอนหัวติดหัวกัน พวกเขาอาจแอบกระซิบ พูดคุย หรือเล่นกัน ทำให้เกิดความวุ่นวายและรบกวนการนอนของทั้งห้อง
การจัดให้นอนแบบหัวสลับเท้าจะลดโอกาสที่เด็กจะสบตาหรือพูดคุยกัน ทำให้เด็กเข้าสู่โหมดพักผ่อนได้เร็วขึ้น และช่วยฝึกให้มีวินัยในการนอนกลางวันอย่างเงียบสงบ ถือเป็นเทคนิคเล็ก ๆ ที่ได้ผลดีในการสร้างนิสัยที่ดีให้กับเด็ก
3. ลดปัญหาใส่เสื้อผิดหลังตื่นนอน
ที่โรงเรียนอนุบาล ครูจะฝึกให้เด็ก ๆ รู้จักช่วยเหลือตัวเอง เช่น ถอดเสื้อก่อนนอน พอตื่นก็ใส่เอง และเก็บของให้เรียบร้อย
โดยทั่วไป เสื้อผ้าจะถูกวางไว้ที่หัวหรือปลายเตียง หากเด็ก ๆ นอนหันหัวไปทางเดียวกันทั้งหมด เสื้อผ้าที่วางเรียงกันจะดูคล้ายกันไปหมด เด็กอาจหยิบผิดตัวได้ง่าย
แต่เมื่อจัดให้นอนสลับหัว–เท้า ตำแหน่งของเสื้อผ้าแต่ละคนจะชัดเจน ไม่ซ้อนกัน ลดโอกาสหยิบผิด และยังช่วยปลูกฝังนิสัยรักความเป็นระเบียบให้เด็ก ๆ อีกด้วย
เมื่อเข้าใจก็จะเห็นว่า “ประโยชน์มากกว่าความกังวล”
เมื่อรู้เหตุผลเบื้องหลัง หลายคนจะรู้สึกสบายใจขึ้น แม้ตอนแรกการนอนแบบ “หัวสลับเท้า” อาจดูไม่คุ้นตา หรือดูไม่ถูกสุขลักษณะ แต่จริงๆ แล้ว วิธีนี้มีข้อดีมากมาย ทั้งในด้านสุขภาพ วินัย และการฝึกความรับผิดชอบให้กับเด็กในสังคมหมู่คณะ
การส่งลูกเข้าอนุบาลคือการฝากความไว้วางใจไว้กับโรงเรียน พ่อแม่ทุกคนย่อมห่วงลูก กลัวลูกลำบาก จึงอาจมีความเข้าใจผิดหรือกังวลเกินเหตุ หากมีอะไรไม่แน่ใจ ควรพูดคุยกับครูด้วยความสุภาพและเปิดใจ เพราะทุกแนวทางที่โรงเรียนเลือกใช้ ล้วนมีพื้นฐานจากประสบการณ์ และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ