
ชอบดื่มเครื่องดื่ม 1 ชนิด! ทำหญิงตั้งครรภ์วัย 28 เข้าห้อง ICU 3 ครั้ง-ลูกคลอดก่อนกำหนด
ชอบดื่มเครื่องดื่ม 1 ชนิด! ทำหญิงตั้งครรภ์วัย 28 เข้าห้องไอซียู 3 ครั้ง ลูกคลอดก่อนกำหนด และต้องเข้าไอซียูเด็ก
หญิงวัย 28 ปีจากเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ตั้งครรภ์ได้ 32 สัปดาห์ ต้องผ่าคลอดฉุกเฉิน หลังมีอาการครรภ์เป็นพิษจากการกินดื่มไม่เหมาะสม โดยเฉพาะการดื่มชานมแทนน้ำเกือบทุกวัน ส่งผลให้ทารกคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักเพียง 1,600 กรัม และต้องเข้ารับการรักษาในห้องไอซียูสำหรับทารกแรกเกิด
ตามรายงานจากสถานีโทรทัศน์เหอหนาน หญิงรายนี้ไม่ชอบดื่มน้ำ แต่กลับดื่มชานมวันละ 1-2 แก้วเป็นประจำ ระหว่างตั้งครรภ์ไม่นานก็เริ่มมีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ และหมดสติในบ้าน สามีรีบนำส่งโรงพยาบาล แพทย์ตรวจพบว่าเธอเป็นโรคความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ แถมยังพบว่าการแลกเปลี่ยนเลือดและสารอาหารของทารกถูกรบกวน จึงต้องรีบผ่าคลอดเพื่อรักษาชีวิตทั้งแม่และลูกไว้ทันเวลา
แพทย์เจ้าของไข้ ระบุว่า อาการของหญิงรายนี้เกี่ยวข้องกับการบริโภคกรดไขมันทรานส์ในชานมอย่างต่อเนื่อง ด้าน คุณหมอซินเหยียนเหยียน ผอ.แผนกสูติ-นรีเวช โรงพยาบาลแพทย์แผนจีนประจำมณฑลเหอหนาน อธิบายว่า วิปครีมและครีมนมในชานมมีกรดไขมันทรานส์ในปริมาณสูง ซึ่งร่างกายย่อยสลายได้ยาก เมื่อละลายเข้าสู่กระแสเลือดจะสะสมในหลอดเลือดและก่อให้เกิดการอุดตัน
แพทย์กล่าวว่า “เมื่อหลอดเลือดของแม่อุดตัน ลูกก็เหมือนถูกตัดน้ำ ตัดอาหาร และตัดอากาศ สุดท้ายจึงต้องผ่าคลอดก่อนกำหนดเพื่อรักษาชีวิตไว้”
นี่ถือเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่หญิงรายนี้ต้องเข้ารับการรักษาฉุกเฉินจากการกินดื่มไม่เหมาะสมระหว่างตั้งครรภ์ โดยทั้งสองครั้งก่อนก็เคยถูกส่งเข้า ICU จากสาเหตุเดียวกัน แม้แพทย์จะเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าชานมเสี่ยงทำให้เกิดความดันสูง ทารกขาดออกซิเจน และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตในครรภ์ แต่เธอก็ยังไม่สามารถควบคุมการบริโภคชานมได้อย่างจริงจัง
หลังเหตุการณ์ถูกเปิดเผย สังคมให้ความสนใจอย่างกว้างขวาง พร้อมกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตจำนวนมาก หลายคนออกมาแบ่งปันประสบการณ์ พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการควบคุมอาหารและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ระหว่างตั้งครรภ์ อาทิ
- “ตอนท้องฉันไม่กล้าดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเลย เพราะคิดถึงสุขภาพของลูก”
- “อดทนแค่ 10 เดือน เพื่อให้ลูกมีสุขภาพดีตลอดชีวิตก็คุ้ม”
- “เข้าโรงพยาบาลมาแล้ว ยังกล้าดื่มแบบนี้อีกเหรอ?”
แพทย์เตือนว่า อาหารระหว่างตั้งครรภ์ควรเน้นความสมดุลและปลอดภัย ไม่ใช่ห้ามกินอาหารบางชนิดโดยเด็ดขาด แต่ควรปรับให้เหมาะกับสภาพร่างกายและภาวะการตั้งครรภ์ของแต่ละคน
พร้อมย้ำว่า “สภาพร่างกายของคุณแม่แต่ละคนไม่เหมือนกัน ไม่ควรลอกเลียนแบบคนอื่นอย่างไม่ลืมหูลืมตา และไม่ควรเชื่อคำแนะนำในอินเทอร์เน็ตแบบผิดๆ ควรยึดคำแนะนำของแพทย์เป็นหลัก”