
สาววัย 28 หมดสติคาออฟฟิศ หมออึ้งนิสัย "ดื่มน้ำ" ไม่แปลกใจที่เกือบตาย
สาววัย 28 เลือดเป็นกรด หมดสติคาออฟฟิศ หมออึ้งพฤติกรรม "ดื่มน้ำ" ทำร้ายตัวเองทุกวัน จบที่ไอซียู
เกิดเหตุฉุกเฉินเมื่อสาวออฟฟิศวัย 28 ปี ที่ประเทศจีน ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน หลังจากมีภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน แพทย์ระบุว่าอาการรุนแรงมีความเชื่อมโยงกับการดื่มเครื่องดื่มยอดนิยม 2 ประเภท
อาการวิกฤติของผู้ป่วย
ผู้ป่วยเป็นพนักงานออฟฟิศชื่อ "เหมียวเหมียว" มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และหายใจลำบาก ในขณะทำงานเกิดอาการหมดสติ เพื่อนร่วมงานจึงรีบนำส่งโรงพยาบาล
ผลตรวจเลือดพบระดับน้ำตาลในเลือดสูงถึง 33 mmol/L สูงกว่าปกติถึง 5 เท่า ซึ่งผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น ภาวะเลือดเป็นกรดจากเบาหวานชนิดที่ 2 (Diabetic Ketoacidosis: DKA) หลังการรักษาฉุกเฉิน ผู้ป่วยปลอดภัยและอยู่ภายใต้การดูแลในห้อง ICU
สาเหตุจากเครื่องดื่ม
แพทย์ระบุว่าผู้ป่วยมักดื่มชานมและน้ำอัดลมวันละ 4–5 ขวดแทนน้ำเปล่า ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และภาวะแทรกซ้อนคีโตนซีส
การบริโภคน้ำตาลสูงอย่างต่อเนื่อง เพิ่มความเสี่ยงต่อการอักเสบ น้ำหนักเกิน และความดื้ออินซูลิน ทำให้ระดับน้ำตาลพุ่งสูง ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2
สัญญาณเตือนภาวะแทรกซ้อน
เมื่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เกิดภาวะแทรกซ้อนเลือดเป็นกรด ผู้ป่วยอาจมีอาการดังนี้:
- กระหายน้ำผิดปกติ
- หงุดหงิด สับสน
- หายใจเร็วลึก
- ลมหายใจมีกลิ่นผลไม้
- ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน
- หมดสติหรือสับสนรุนแรง
คำแนะนำในการป้องกัน
แพทย์แนะนำให้ผู้ป่วยหรือประชาชนทั่วไปรับประทานอาหารที่สมดุล ลดการบริโภคน้ำตาลและเครื่องดื่มหวาน พร้อมออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และภาวะแทรกซ้อนรุนแรง
ควรสังเกตสัญญาณผิดปกติของร่างกาย และไปพบแพทย์ทันที เพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง