
นักโภชนาการญี่ปุ่น ลดน้ำหนักด้วย "ชาบู" ทดลองเอง 3 เดือน ลดไป 10 กก.
นักโภชนาการญี่ปุ่น ลดน้ำหนักด้วยเมนู "ชาบู" อิ่มอร่อยไม่ต้องทรมานตัวเอง ลดไป 10 กก. ภายใน 3 เดือน
ช่วงฤดูร้อน หลายคนอาจเบื่ออาหารเพราะอากาศร้อน แต่ก็ยังกังวลว่าจะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อการเผาผลาญพื้นฐานของร่างกาย ล่าสุดในญี่ปุ่นมีรายงานว่า “วิธีลดน้ำหนักด้วยชาบูชาบู” กลายเป็นกระแส เพราะสามารถนำมาปรับเป็นเมนูคลายร้อนในหน้าร้อน ช่วยควบคุมน้ำหนักและน้ำตาลในเลือด
นิตยสาร Women's Health Japan เปิดเผยว่า นักโภชนาการชื่อดัง เรมิ อาโซ (Reimi Aso) ทดลองวิธีนี้ด้วยตัวเอง และสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 10 กิโลกรัมใน 3 เดือน โดยเธออธิบายว่านี่ไม่ใช่วิธีลดน้ำหนักแบบอดอาหารหรือทรมานตัวเอง แต่เป็นวิถีชีวิตแบบ “กินเพื่อลด” อย่างสมดุลและยั่งยืน
จุดเด่นของชาบูชาบูลดน้ำหนัก
เรมิ อาโซ อธิบายว่า ชาบูชาบูเป็นอาหารที่เน้นเนื้อสัตว์โปรตีนสูง น้ำตาลต่ำ และมีผักหลากชนิด ซึ่งช่วยให้อิ่มท้องโดยไม่ต้องกลัวแคลอรีเกิน เธอยังระบุว่า การลดน้ำหนักที่ได้ผลไม่จำเป็นต้องตัดคาร์โบไฮเดรตทั้งหมด หรือออกกำลังกายหนัก แต่ให้โฟกัสที่ลำดับและเวลาในการกิน รวมถึงเลือกวิธีทำอาหารที่เรียบง่าย เช่น การต้มแบบชาบู
ชาบูชาบูเป็นการนำเนื้อและผักหั่นบางๆ ลงไปลวกในน้ำซุป กินคู่กับน้ำจิ้ม ซึ่ง Reimi Aso ให้เหตุผลว่า ชาบูชาบูมีจุดเด่น 5 ข้อที่ช่วยลดน้ำหนักได้ผล:
ไขมันจากเนื้อสัตว์จะละลายออกในน้ำซุปเมื่อผ่านการต้ม ช่วยลดปริมาณไขมันที่ร่างกายได้รับ
ปริมาณผักหลากหลาย เช่น กะหล่ำปลี เห็ด สาหร่าย ช่วยเพิ่มใยอาหารและความอิ่ม
อาหารโดยรวมมีน้ำตาลต่ำ สามารถใช้บุกหรือเต้าหู้แทนข้าวหรือเส้น
การกินแบบค่อยๆ ลวก ค่อยๆ กิน ทำให้เคี้ยวนานขึ้น กระตุ้นสมองรับรู้ความอิ่ม ป้องกันการกินเร็วเกินไป
เปลี่ยนรสชาติได้หลากหลาย เช่น น้ำจิ้มยูซุ น้ำส้มสายชู มะนาว หรือเครื่องปรุงจากสมุนไพร ทำให้ไม่เบื่อง่าย
เทคนิคและลำดับการกิน
-
ควรกินมื้อเย็นไม่เกิน 18:00–20:00 น. เพื่อเลี่ยงการสะสมไขมัน
-
ใช้หลัก “Carbo Last” คือเริ่มด้วยผัก จากนั้นบุกหรือเต้าหู้ แล้วค่อยตามด้วยเนื้อสัตว์
-
หากต้องการเพิ่มเส้นหรือของอิ่มท้ายมื้อ ให้เลือกเส้นบุกหรือเต้าหู้แห้งแทนข้าวหรือเส้นอุด้ง
-
ปริมาณเนื้อสัตว์สำหรับผู้หญิงไม่เกิน 150 กรัม ผู้ชายไม่เกิน 200 กรัม ต่อมื้อ
-
ปริมาณผักควรเป็น “สองมือพูนๆ” ก่อนนำไปลวก เพื่อให้ได้ใยอาหารและวิตามินครบถ้วน
ข้อควรระวังเพิ่มเติม
เวลาทานชาบูตามร้าน แนะนำให้หลีกเลี่ยงน้ำจิ้มที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำจิ้มงาหวาน หรือซอสหวาน ให้เลือกซอสแบบญี่ปุ่นหรือน้ำส้มสายชูดีกว่า โดย อาหารหลักสามารถใช้เต้าหู้แผ่นแทนข้าวขาวและอุด้งเพื่อหลีกเลี่ยงน้ำตาลเกินเกณฑ์
สุดท้ายนี้ ถึงแม้วิธีนี้จะเหมาะกับฤดูร้อนที่หลายคนไม่อยากเข้าครัว แต่ควรระวังให้ได้รับสารอาหารครบถ้วน โดยเฉพาะวิตามินและแร่ธาตุจากผัก ใบเขียว เห็ด และสาหร่าย และควรใช้ซอสหรือเครื่องจิ้มในปริมาณพอดี ไม่มากเกินไปจนเสี่ยงน้ำตาลและไขมันแฝง