
สาวพ้อแต่ง "สามีทะเยอทะยาน" ภายนอกดูชีวิตดี แต่ต้องตอบ 2 คำถามซ้ำๆ ทุกวันตลอด 6 ปี
สาวขอระบาย ความทุกข์จากการแต่งงาน 6 ปี ทุกวันต้องตอบ 2 คำถามเดิมจาก "สามี" กลายเป็นชีวิตคู่ที่ไม่เคยได้พักใจ
หญิงเวียดนามคนหนึ่งได้ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตแต่งงานที่ดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบ แต่แท้จริงกลับเต็มไปด้วยความกดดันและความเหนื่อยล้าอย่างเงียบๆ จาก "คำถามเดิมๆ" ที่สามีถามทุกวันตลอด 6 ปีที่ผ่านมา
เธอเล่าว่า ช่วงแรกรู้สึกโชคดีที่ได้แต่งงานกับผู้ชายที่ "มีความทะเยอทะยานและเป้าหมายชีวิตชัดเจน" แต่เมื่อเวลาผ่านไป เธอกลับรู้สึกว่าความทะเยอทะยานนั้นกำลังกัดกินหัวใจของเธอช้าๆ ปัจจุบันทั้งคู่แต่งงานกันมา 6 ปีแล้ว มีลูกสาววัย 4 ขวบ และอาศัยอยู่ในห้องชุดเล็กๆ สามีมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการบริษัทเอกชน ขณะที่ตัวเธอเองทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศทั่วไป รายได้พออยู่ได้ ไม่ลำบาก แต่ก็ไม่ได้ร่ำรวย
แม้ภายนอกจะดูเหมือนครอบครัวอบอุ่น แต่ในความเป็นจริง เธอบอกว่าไม่เคยรู้สึก "มีความสุข" เลย เพราะทุกวันหลังเลิกงาน เธอจะต้องเจอกับคำถามซ้ำเดิม 2 ข้อจากสามีที่ทำให้รู้สึกเหมือนถูกกดดันตลอดเวลา ได้แก่
"วันนี้คุณทำอะไรสำเร็จบ้าง?"
"คุณวางแผนอีก 5 ปีข้างหน้าไว้หรือยัง?"
2 คำถามที่ฟังดูเหมือนใส่ใจ แต่ในสายตาเธอ มันกลับกลายเป็นสิ่งที่กดดันจิตใจอย่างหนัก บางวันเธอถึงขั้นไม่อยากกลับบ้านหลังเลิกงาน เพราะรู้ว่าจะต้องถูกถามเหมือนเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า หากเธอตอบว่าเพียงแค่มีประชุม ทำรายงาน หรือไปรับลูก ก็จะถูกมองว่า "ทำไมทำได้น้อยจัง" แต่หากเธอพูดว่าอยากพักผ่อนบ้าง อ่านหนังสือเงียบๆ เขาก็จะตำหนิว่าเธอขี้เกียจ และ "ผู้หญิงที่อยากประสบความสำเร็จ ไม่ควรปล่อยวันเวลาให้สูญเปล่า"
คำถามเรื่อง “แผนอีก 5 ปีข้างหน้า” ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเหนื่อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเงิน อาชีพ การเรียนต่อ หรือการลงทุนอะไรใหม่ๆ เธอถูกถามซ้ำๆ ราวกับชีวิตต้องเป็นโปรเจกต์ที่ต้องรายงานผลลัพธ์ตลอดเวลา เธอเปิดใจถึงความอึดอัดว่า “ฉันแค่อยากมีชีวิตเรียบง่าย แค่ได้พาลูกไปโรงเรียน กลับมาทำอาหารเย็น และดูซีรีส์สักตอน ไม่ต้องคิดเรื่อง KPI หรือความฝันใหญ่โตอะไรอีกแล้ว”
แต่เมื่อเธอลองถามกลับสามีว่า “แล้ววันนี้คุณทำอะไรได้บ้าง?” เขากลับตอบอย่างสั้นๆ ว่า “งานของผมอยู่ในอีกระดับแล้ว ไม่ต้องพูดถึง” ซึ่งทำให้เธอยิ่งรู้สึกโดดเดี่ยว และไม่เข้าใจว่า “ระดับ” ที่เขาหมายถึงนั้นคืออะไร ทุกค่ำคืน เธอต้องนอนหันหลังให้สามี ด้วยความรู้สึกกดดัน เสมือนคำถาม 2 ข้อนั้นไม่ใช่แค่คำพูด แต่เป็นเหมือนก้อนหินกดทับอยู่บนหน้าอกทุกวัน
เธอปิดท้ายด้วยคำถามที่สะท้อนความรู้สึกของภรรยาหลายคนในสังคมว่า “มีใครบ้างไหม ที่เคยรู้สึกกลัวเวลาโดนสามีถามไถ่ด้วยความหวังดี? ใครเคยเหนื่อยกับการต้องคิดคำตอบให้สามีสบายใจบ้าง? ฉันไม่รู้ว่าจะทนได้นานแค่ไหนอีกแล้ว”
- เห็นเมียพาลูกไปโรงเรียน "ทุกวัน" ผ่านมา 5 ปี ผัวรู้ข่าวขนลุก เด็กไม่เคยได้เรียนแม้แต่วันเดียว!
- ครูอ่านไปลุ้นไป ป.3 เรียงความเรื่อง "คนรักของพ่อ" ไม่ใช่แม่แล้วคือใคร เฉลยบรรทัดสุดท้าย
ทั้งนี้ หากคุณหรือคนใกล้ชิดเคยเผชิญกับความรู้สึกแบบนี้ ความเหนื่อยล้าจากความคาดหวังที่มากเกินไป ความกดดันที่แฝงมาในรูปแบบของ "ความห่วงใย" หรือความรู้สึกว่าต้อง "พัฒนา" อยู่ตลอดเวลาโดยไม่มีที่ว่างให้พักใจ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาที่ควรเปิดใจพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา ความรักและชีวิตคู่ควรเป็นพื้นที่ปลอดภัย ที่ทั้งสองคนสามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่สนามสอบ หรือเวทีแข่งขันของความสำเร็จในสายตาใครคนหนึ่ง เพราะแม้ความฝันจะสำคัญ แต่ความสุขก็ไม่ควรถูกลดทอนลงเพื่อไปให้ถึงฝันนั้นเพียงฝ่ายเดียว
หากการสื่อสารภายในบ้านเริ่มกลายเป็นความเครียด แทนที่จะเป็นความเข้าใจ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ หรือการเข้ารับคำแนะนำจากนักจิตวิทยาครอบครัว อาจช่วยให้คุณกลับมาเห็นภาพรวมของชีวิตคู่ชัดเจนขึ้นอีกครั้ง และสร้างสมดุลระหว่าง "การเติบโต" กับ "การอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข" ได้อย่างยั่งยืน เพราะความรักที่ดี ไม่ควรทำให้คุณรู้สึกว่าทุกวันคือการสอบ… แต่ควรทำให้คุณรู้สึกว่า ไม่ว่าเหนื่อยล้าแค่ไหน…ก็ยังมีคนเข้าใจและอยู่ข้างคุณเสมอ