
หนุ่มวัย 19 ป่วยเบาหวานรุนแรง หมอเตือน 4 อาหาร "ระเบิดน้ำตาล" ที่คนเลิกกินไม่ได้
หนุ่มวัย 19 ป่วยเบาหวานรุนแรง หมอเตือน 4 อาหารยอดฮิตที่เป็น "ระเบิดน้ำตาล" หลายคนเลิกกินไม่ได้
แพทย์เฉพาะทางด้านต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิซึม ดร.โจว เจี้ยนอัน จากไต้หวัน เปิดเผยว่า “ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โรคเบาหวานไม่ใช่แค่โรคของคนวัยกลางคนหรือผู้สูงอายุอีกต่อไป สิ่งที่น่ากังวลคือแนวโน้มของผู้ป่วยที่อายุน้อยลงเรื่อย ๆ แถมยังมีความรุนแรงและลุกลามรวดเร็ว สาเหตุสำคัญมาจากพฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสม”
ในบรรดาผู้ป่วยเบาหวานที่เขารักษาในปี 2025 รายหนึ่งคือเด็กหนุ่มวัยเพียง 19 ปี สูง 173 ซม. หนักถึง 110 กก. เดิมมาพบแพทย์เพราะต้องการลดน้ำหนัก แต่ผลตรวจกลับพบว่าระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงผิดปกติ ร่วมกับไขมันในเลือด กรดยูริก และการทำงานของตับก็มีปัญหา อีกทั้งยังได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ขั้นรุนแรง ซึ่งเริ่มส่งผลต่อสายตา หลอดเลือด และการทำงานของไต
หลังตรวจสอบพฤติกรรมโดยละเอียด แพทย์พบว่าสาเหตุสำคัญมาจากพฤติกรรมกินอยู่ไม่ถูกสุขลักษณะ โดยเฉพาะการกินอาหารประเภทเสี่ยงต่อเบาหวาน ทำให้ต้องรับการรักษาในโรงพยาบาลทันที ทั้งลดน้ำหนักและปรับพฤติกรรมโภชนาการ
4 อาหารยอดฮิตที่กลายเป็น "กับดัก" ของเบาหวาน
ดร.โจว กล่าวถึงเมนูโปรดของเด็กหนุ่มรายนี้ว่า ล้วนเป็นตัวการสำคัญที่เร่งโรคเบาหวานให้รุนแรงขึ้น ที่น่ากลัวคืออาหารเหล่านี้เป็นของโปรดของคนรุ่นใหม่หลายคน ซึ่งแม้ไม่หวานจัดแต่แฝงน้ำตาลสูง หรือรู้ว่าเสี่ยงแต่ก็เลิกไม่ได้ เช่น
-
ขนมปังขาวปิ้ง: แม้จะดูเป็นอาหารเบา ๆ แต่ขนมปังขาวจัดอยู่ในกลุ่มอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูง เพราะผ่านกระบวนการผลิตจนสูญเสียไฟเบอร์และสารอาหารสำคัญ ทำให้ร่างกายดูดซึมเร็ว ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดพุ่งขึ้นทันทีหลังรับประทาน
-
น้ำอัดลม: น้ำอัดลม 1 กระป๋องมีน้ำตาลเทียบเท่าประมาณ 10 ช้อนชา หากดื่มเป็นประจำจะทำให้ระบบควบคุมน้ำตาลและอินซูลินเสียสมดุล เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดโรคเบาหวาน
-
อาหารทอด: ไม่เพียงให้พลังงานสูง ยังมีไขมันทรานส์และน้ำตาลแฝงอยู่มาก ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด และกระตุ้นภาวะดื้อต่ออินซูลิน หากบริโภคเป็นประจำจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง
-
ผลไม้อบแห้งรสหวาน (เช่น มะม่วงอบแห้ง ลูกเกด): แม้เป็นผลไม้ แต่ผ่านกระบวนการทำให้เข้มข้นด้วยน้ำตาลมาก จัดว่าเป็น “ระเบิดน้ำตาล” ขนาดเล็กที่แคลอรีสูง กินเพลินโดยไม่รู้ตัว ทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ยาก
นอกจากนี้ เด็กหนุ่มยังไม่ชอบออกกำลังกาย นอนดึกเป็นประจำ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เบาหวานกำเริบและนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมา แพทย์เตือนว่า หากยังไม่เปลี่ยนพฤติกรรม โรคเบาหวานในวัยรุ่นจะกลายเป็นปัญหาสาธารณสุขที่ยากจะควบคุมในอนาคต