
ปลาราคาถูก 1 ชนิด ที่หลายคนเมิน ประโยชน์เกินคาด โปรตีนสูงเทียบเท่าแซลมอน
ปลาน้ำจืดราคาถูก 1 ชนิด คนไทยคุ้นเคย แต่หลายคนเมิน ประโยชน์เกิดคาด โปรตีนสูงเทียบเท่าแซลมอน
แม้ว่าโปรตีนมักถูกพูดถึงในหมู่คนเล่นเวทหรือออกกำลังกาย แต่จริง ๆ แล้ว โปรตีนสำคัญกับทุกคน เพราะเป็นองค์ประกอบหลักของกล้ามเนื้อ กระดูก กระดูกอ่อน ผิวหนัง และเลือด
แม้คนส่วนใหญ่จะได้รับโปรตีนเพียงพอจากเนื้อสัตว์ทั่วไป แต่กลับได้รับโปรตีนจาก “ปลาทะเล ถั่ว ธัญพืช และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง” ไม่เพียงพอ การกินปลาเป็นประจำจึงเป็นวิธีเติมเต็มโปรตีนคุณภาพดีที่ทั้งย่อยง่ายและอุดมด้วยสารอาหารอื่น ๆ ที่ดีต่อสุขภาพ
ซึ่งปลา 1 ชนิด ที่คนไทยคุ้นเคยอย่าง "ปลานิล" ที่หาซื้อได้ง่ายและมีราคาถูก จนอาจเป็นปลาที่หลายคนมองข้ามไป บางคนไม่ชอบเพราะเหม็นคาวหรือมีกลิ่นโคลน แต่แท้จริงแล้วปลานิลมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยโปรตีนไม่แพ้แซลมอน
ประโยชน์ต่อสุขภาพของปลานิล
1. แหล่งซีลีเนียม (Selenium): ต้านอนุมูลอิสระ เสริมภูมิคุ้มกัน
ซีลีเนียมมีบทบาทในกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย การทำงานของต่อมไทรอยด์ และช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันเซลล์เสียหาย เพียงแค่รับประทานปลานิลสุก 85 กรัม ก็ให้ซีลีเนียมถึง 88% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
2. แหล่งฟอสฟอรัส: เสริมกระดูกและฟัน
ฟอสฟอรัสทำงานร่วมกับแคลเซียมในการสร้างกระดูกและฟัน อีกทั้งช่วยสร้างพลังงาน และเซลล์ใหม่ในร่างกาย 1 หน่วยบริโภคของปลานิล (85 กรัม) ให้ฟอสฟอรัสได้ถึง 28% ของความต้องการต่อวัน
3. อุดมด้วยวิตามิน D: ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน และสุขภาพของระบบประสาท
ปลานิลเป็นปลาน้ำจืดที่มีวิตามิน D สูง ซึ่งวิตามินชนิดนี้พบได้ยากในอาหารทั่วไป วิตามิน D มีความสำคัญต่อการดูดซึมแคลเซียม เสริมสร้างกระดูก ฟัน ระบบประสาท และกล้ามเนื้อ
4. แหล่งโพแทสเซียม: ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
โพแทสเซียมในปลานิลช่วยควบคุมสมดุลน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย ทำงานร่วมกับโซเดียมเพื่อควบคุมความดันโลหิต และลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
แม้ปลานิลจะมีราคาถูกแต่คุณค่าทางโภชนาการไม่เป็นรองปลาชนิดใด มีทั้งโปรตีน วิตามิน D ซีลีเนียม ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมที่มีประโยชน์หลากหลาย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย เป็นอีกหนึ่งทางเลือกอาหารสุขภาพที่ทั้งอร่อยและประหยัด
เปรียบเทียบปลานิล กับแซลมอน
ตารางเปรียบเทียบ ข้อมูลโภชนาการของปลานิล (Tilapia) และ ปลาแซลมอน (Salmon) ต่อ 100 กรัม (อิงจากข้อมูล USDA)
สารอาหาร | ปลานิล (Tilapia) | แซลมอน (Salmon - Atlantic, farmed) |
---|---|---|
พลังงาน (Energy) | 96 kcal | 208 kcal |
โปรตีน (Protein) | 20.1 g | 20.4 g |
ไขมันทั้งหมด (Total fat) | 1.7 g | 13.4 g |
- ไขมันอิ่มตัว | 0.6 g | 3.1 g |
- ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว | 0.6 g | 3.8 g |
- ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน | 0.4 g | 3.9 g |
คอเลสเตอรอล (Cholesterol) | 50 mg | 55 mg |
คาร์โบไฮเดรต (Carbs) | 0 g | 0 g |
โซเดียม (Sodium) | 52 mg | 59 mg |
โพแทสเซียม (Potassium) | 302 mg | 363 mg |
ฟอสฟอรัส (Phosphorus) | 170 mg | 200 mg |
ซีลีเนียม (Selenium) | 47.4 µg (88% RDI) | 36.5 µg (66% RDI) |
วิตามิน D (Vitamin D) | 3.7 µg (18% RDI) | 10.9 µg (55% RDI) |
DHA + EPA (โอเมก้า-3) | ~135 mg | ~2,260 mg |
สรุป
-
ปลานิล มีโปรตีนสูงเทียบเท่าแซลมอนแต่ไขมันต่ำมาก เหมาะกับคนควบคุมน้ำหนัก
-
แซลมอน เด่นเรื่อง โอเมก้า-3 และ วิตามิน D สูงกว่าอย่างมาก เหมาะกับการบำรุงสมองและหัวใจ
-
หากเน้น โปรตีนราคาย่อมเยา ปลานิลเป็นตัวเลือกที่ดี
-
หากเน้น ไขมันดี DHA/EPA แซลมอนยังคงเป็นอันดับหนึ่ง