"ไม่ใส่กางเกงใน" เสี่ยงเป็น "ไส้เลื่อน" คำนี้จริงหรือไม่? ที่นี่มีคำตอบ!
หลายคนอาจเคยได้ยินคำเตือนหรือความเชื่อว่า “ไม่ใส่กางเกงใน อาจเสี่ยงเป็นไส้เลื่อน” จนทำให้หลายคนกังวลว่าจะจริงหรือไม่?
แต่แท้จริงแล้ว เรื่องนี้มีคำตอบทางการแพทย์ที่ชัดเจนกว่าที่คิด

ไส้เลื่อนคืออะไร?
ไส้เลื่อน (Hernia) คือภาวะที่ ลำไส้หรืออวัยวะภายในดันผ่านผนังกล้ามเนื้อที่อ่อนแอหรือมีช่องเปิด พบได้บ่อยที่ขาหนีบ (inguinal hernia) และผนังหน้าท้อง
สาเหตุหลักเกี่ยวข้องกับความดันภายในช่องท้องที่สูงขึ้นร่วมกับความแข็งแรงของผนังกล้ามเนื้อที่ลดลง

ปัจจัยที่มักเกี่ยวข้อง
- การยกของหนัก/ออกแรงเบ่งผิดท่า
- ไอเรื้อรัง, ท้องผูก ต้องเบ่งแรง
- อ้วนลงพุง/น้ำหนักเกิน
- กล้ามเนื้อหน้าท้องอ่อนแรง หรือมีผนังหน้าท้องบกพร่องตั้งแต่กำเนิด
ไม่ใส่กางเกงใน เกี่ยวอะไรกับไส้เลื่อน?
คำตอบคือ ไม่เกี่ยว การใส่หรือไม่ใส่กางเกงใน ไม่ได้เป็นสาเหตุของไส้เลื่อน หน้าที่ของกางเกงในคือช่วยพยุงอวัยวะเพศ/ถุงอัณฑะ ลดการเสียดสี และเพิ่มความสบายในการสวมใส่กางเกงชั้นนอก
แต่ไม่ได้มีผลต่อความแข็งแรงของผนังกล้ามเนื้อหน้าท้องหรือความดันในช่องท้องที่เป็นต้นเหตุของไส้เลื่อน

สัญญาณเตือนที่ควรระวัง
- มีก้อนนูนบริเวณขาหนีบ หน้าท้อง หรือสะดือ ยืน/ไอ/เบ่งแล้วก้อนนูนชัดขึ้น
- แน่น เจ็บแปลบหรือปวดหน่วงบริเวณก้อน โดยเฉพาะเวลายกของหรือออกแรง
- ก้อนดันกลับไม่ได้ ปวดมาก คลื่นไส้ อาเจียน (ภาวะฉุกเฉิน ควรไปโรงพยาบาล)
ดูแลตัวเองและป้องกันอย่างไร?
- ยกของให้ถูกท่า เลี่ยงของหนักเกินกำลัง
- จัดการอาการไอเรื้อรังและท้องผูก ลดการเบ่ง
- ควบคุมน้ำหนัก และเสริมความแข็งแรงกล้ามเนื้อแกนกลาง (core)
- หากมีก้อนนูนผิดปกติ ควรพบแพทย์เพื่อประเมิน
บทสรุป
คำกล่าวที่ว่า “ไม่ใส่กางเกงในทำให้เป็นไส้เลื่อน” ไม่เป็นความจริง ไส้เลื่อนเกิดจากสาเหตุทางกายภาพและพฤติกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความดันในช่องท้องมากกว่า
หากอยากป้องกัน ควรดูแลสุขภาพกล้ามเนื้อหน้าท้อง รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม และเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง จะช่วยลดโอกาสเกิดไส้เลื่อนได้ดีกว่าการพะวงเรื่องกางเกงใน
หมายเหตุ: บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ทั่วไป ไม่ทดแทนการวินิจฉัยหรือคำแนะนำจากแพทย์ หากมีอาการผิดปกติควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
