เคล็ดลับหมอหัวใจ อาหาร 1 ชนิด กินตอน 11 โมง ตัวช่วยลดความดัน-คอเลสเตอรอล

หมอหัวใจอังกฤษแนะนำ อาหาร 1 ชนิด กินตอน 11 โมง ตัวช่วยลดความดัน-คอเลสเตอรอลในเลือด

ผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจแนะนำให้คนทั่วไปปรับพฤติกรรมการกินเพียงเล็กน้อยในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะช่วยลดคอเลสเตอรอล ควบคุมน้ำหนัก และจัดการความดันโลหิตสูงได้ โดยเว็บไซต์ของ British Heart Foundation ได้เผยอาหารและทางเลือกด้านโภชนาการที่ช่วยดูแลสุขภาพหัวใจได้ดียิ่งขึ้น

การควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมและรักษาหัวใจให้แข็งแรง เป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันโรคต่าง ๆ เช่น คอเลสเตอรอลสูงและความดันโลหิตผิดปกติ เพราะหากคอเลสเตอรอลสูง จะทำให้เกิดการสะสมของคราบพลัคในหลอดเลือด ส่งผลให้เลือดไหลเวียนช้าลง หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจวายหรือโรคหลอดเลือดสมอง

อันตรายของความดันโลหิตสูง

ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติของสหราชอาณาจักร หรือ NHS ระบุว่า หากความดันโลหิตสูงเกินไปจะสร้างภาระให้กับหลอดเลือด หัวใจ และอวัยวะอื่น ๆ เช่น สมอง ไต และดวงตา หากไม่ได้รับการรักษา จะเพิ่มความเสี่ยงของโรคร้ายแรงอย่างโรคหัวใจและหัวใจวาย

การมีน้ำหนักเกินยังเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคมากมาย เช่น โรคหัวใจ เบาหวานชนิดที่ 2 และมะเร็งบางชนิด อีกทั้งยังส่งผลเสียต่อคุณภาพชีวิต ทั้งการหายใจ การเคลื่อนไหว และสุขภาพจิตใจ

นอกจากการออกกำลังกายและปรับพฤติกรรม เช่น ลดแอลกอฮอล์ เลิกบุหรี่แล้ว อาหารก็มีผลอย่างมาก มูลนิธิโรคหัวใจอังกฤษแนะนำว่า “หากเลือกกินอาหารและรักษานิสัยการกินที่ดี จะช่วยควบคุมน้ำหนัก รักษาระดับคอเลสเตอรอลและความดันให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ”

อาหารว่าง 11 โมง

หนึ่งในคำแนะนำคือการเลือกอาหารอย่างชาญฉลาด โดยเฉพาะช่วงสาย ๆ ประมาณ 11 โมง “ลองเปลี่ยนจากการหยิบคุกกี้มาเป็นผลไม้หนึ่งชิ้นแทน จะช่วยให้คุณเข้าใกล้เป้าหมาย 5 ส่วนต่อวันของผักและผลไม้ อีกทั้งไขมันต่ำและอุดมด้วยไฟเบอร์”

การกินคุกกี้ยามหิวก่อนมื้อกลางวันไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก เพราะอาจทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งขึ้นเร็ว และยังไม่ช่วยให้อิ่มนาน ในทางกลับกัน กล้วย มีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลธรรมชาติที่ให้พลังงานต่อเนื่อง เหมาะทั้งเป็นของว่างก่อนออกกำลังกายหรือแก้ง่วงช่วงบ่าย

ทำไมต้องกล้วย?

กล้วยยังอุดมด้วยโพแทสเซียม ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมความดันโลหิตและลดความเสี่ยงโรคหัวใจ งานวิจัยพบว่า การเพิ่มโพแทสเซียมในอาหาร โดยเฉพาะจากอาหารที่มีโพแทสเซียมสูงอย่างกล้วย ช่วยลดความดันโลหิตได้ดีกว่าการลดโซเดียมเพียงอย่างเดียว ตัวอย่างเช่น กล้วยขนาดกลาง 2 ผลมีโพแทสเซียมประมาณ 1 กรัม ซึ่งเพียงพอที่จะช่วยลดระดับความดันโลหิตอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ กล้วยยังมีไฟเบอร์ที่ช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลเข้าสู่กระแสเลือด อีกทั้งแคลอรีต่ำ และเต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุสำคัญ เช่น วิตามินบี 6 วิตามินซี และแมงกานีส

ประโยชน์เพิ่มเติมของกล้วย ได้แก่ การช่วยปรับสมดุลลำไส้ ควบคุมน้ำตาลในเลือด เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง อีกทั้งยังมีกรดอะมิโนทริปโตเฟน ที่ร่างกายเปลี่ยนเป็นเซโรโทนิน ซึ่งช่วยควบคุมอารมณ์และทำให้สุขภาพจิตดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้กล้วยจะเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ แต่ควรรับประทานเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่สมดุล โดยเฉพาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานหรือผู้ที่ควบคุมคาร์โบไฮเดรต

"กล้วย" ต้องล้างไหม? เชฟญี่ปุ่นเฉลยคำตอบ แชร์เคล็ดลับป้องกันแมลง เก็บได้นานขึ้น