พ่อค้าพูดตรงๆ ผัก 4 อย่าง “ให้ฟรีก็ไม่กิน” เตือนลูกค้ารู้ให้ทัน อย่าหลงซื้อเพราะราคาถูก!!

08/09/2025 (08:45 น.)

พ่อค้าพูดตรงๆ ผัก 4 อย่าง “ให้ฟรีก็ไม่กิน” เตือนลูกค้ารู้ให้ทัน อย่าหลงราคาถูก!!

ผักบางชนิดอาจมีสารเคมีและแบคทีเรียที่เป็นพิษ ผู้ขายผักที่มีประสบการณ์ยาวนานแนะนำว่าเมื่อไปตลาด ควรหลีกเลี่ยงผัก 4 ชนิดต่อไปนี้

ผัก เป็นวัตถุดิบอาหารส่วนสำคัญของทุกครอบครัวมาอย่างยาวนาน ไม่เพียงแต่ให้วิตามิน ใยอาหาร และแร่ธาตุที่จำเป็นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้มื้ออาหารมีความหลากหลายและมีคุณค่าทางโภชนาการที่สมดุลมากขึ้นอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ผักที่วางขายในตลาดแบบดั้งเดิม อาจไม่ได้มีคุณภาพที่ดีตามมาตรฐานเสมอไป ดังนั้น หากผู้บริโภคไม่เลือกสรรอย่างเหมาะสม และหลีกเลี่ยงที่มีคุณภาพต่ำหรือมีสารเคมีอันตราย ก็อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพมากมาย

ตามรายงานของเว็บไซต์ SOHA จากเวียดนาม ชายผู้มีประสบการณ์ขายผักในตลาดมากว่า 20 ปี เล่าให้ฟังเกี่ยวกับสิ่งที่ควรคำนึงถึงเมื่อเลือกซื้อผักที่ตลาด โดยเขากล่าวว่า

“มีผักบางชนิดที่ดูเหมือนอร่อยและราคาถูก แต่จริงๆ แล้วคุณภาพไม่ดีเลย จากประสบการณ์ส่วนตัวของผม ผมไม่เคยซื้อหรือกินผักทั้ง 4 ชนิดนี้เลย เพราะพวกมันปนเปื้อนสารเคมีได้ง่ายหรือมีสารพิษ ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพ”

ผัก 4 ชนิดที่ไม่ควรซื้อแม้ราคาถูกแค่ไหน

1.มันฝรั่งมีสีเขียว

มันฝรั่งที่เปลี่ยนเป็นสีเขียวอาจมีสารโซลานีนในปริมาณสูง ซึ่งเป็นสารพิษต่อมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปลือกมันฝรั่งเปลี่ยนเป็นสีเขียว แป้งในมันฝรั่งจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาล และน้ำตาลปริมาณนี้จะก่อให้เกิดอัลคาลอยด์ที่เป็นพิษ เช่น โซลานีนและชาโคนีน-อัลฟา ซึ่งอาจทำให้เกิดพิษได้หากรับประทานในปริมาณมาก ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่าคุณไม่ควรทานมันฝรั่งเขียวและควรทิ้งไปจะดีกว่า

2. มะเขือเทศมีจุดดำและมีรา

มะเขือเทศที่มีจุดดำมักติดเชื้อรา Alternaria เชื้อราชนิดนี้จะผลิตสารพิษ ซึ่งทำให้มะเขือเทศเน่าเสียอย่างรวดเร็ว แม้ว่าสารพิษจะไม่รุนแรงเท่าอะฟลาทอกซินในอาหารที่มีเชื้อรา แต่ก็ยังคงทำให้เกิดพิษหรือเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้หากรับประทานเป็นประจำเป็นเวลานาน

นอกจากมะเขือเทศที่มีจุดดำแล้ว ผู้ขายผักยังแนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงการบริโภคมะเขือเทศที่ช้ำด้วย เหตุผลก็คือแบคทีเรียสามารถเจริญเติบโตได้ง่ายในส่วนที่ช้ำของมะเขือเทศ แบคทีเรียเหล่านี้ยังส่งผลกระทบต่อระบบย่อยอาหารและสุขภาพของผู้บริโภคอีกด้วย

3.เห็ดเข็มทองมีกลิ่นฉุน

ผู้ปลูกผักหรือผู้ค้าบางรายได้ฉีดพ่นสารเคมี เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ ลงบนผิวเห็ดเข็มทอง เพื่อยืดอายุการเก็บรักษาและอายุการเก็บรักษาของเห็ดเข็มทอง การบริโภคอาหารที่มีฟอร์มาลดีไฮด์เป็นเวลานาน ไม่ว่าจะมีปริมาณมากหรือน้อย ก็อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพที่ร้ายแรง เช่น การได้รับพิษ (หากรุนแรงอาจถึงแก่ชีวิต) ความเสียหายต่อระบบทางเดินหายใจ อาการบวมน้ำที่ปอด ปอดบวม มะเร็ง ทารกในครรภ์พิการแต่กำเนิด การกลายพันธุ์ของโครโมโซม เป็นต้น

ฟอร์มาลดีไฮด์มีกลิ่นฉุน ดังนั้นหากฉีดพ่นเห็ดเอโนกิด้วยสารละลายนี้ ผู้คนจะสามารถได้กลิ่นในระยะใกล้ได้ หากคุณไม่ได้กลิ่นแปลกๆ จากเห็ด แสดงว่าเห็ดปลอดภัยและสามารถนำมาปรุงอาหารได้ ในทางกลับกัน เมื่อได้กลิ่นแล้ว หากเห็ดเข็มทองมีกลิ่นอ่อนๆ หรือไม่มีกลิ่นอื่นเลย ก็สามารถวางใจที่จะซื้อได้เลย

4. ถั่วงอกขาวผิดปกติ รากสั้น

ถั่วงอกที่มีลำต้นกลมสีขาวและมีรากน้อยหรือไม่มีรากมักจะดึงดูดแม่บ้าน อย่างไรก็ตาม ผู้ขายผักกล่าวว่า เกษตรกรสามารถใช้ 6-Benzylaminopurine (6-BAP) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "น้ำหวาน" เพื่อกระตุ้นให้ถั่วงอกเติบโตอย่างรวดเร็ว อวบอิ่มขาว และมีรากสั้นได้

ในหลายประเทศ 6-BAP ไม่อยู่ในรายชื่อสารที่อนุญาตให้ใช้ในการผลิตและแปรรูปอาหาร และไม่ได้อยู่ในรายชื่อสารกำจัดศัตรูพืชที่ได้รับอนุญาต เนื่องจากการบริโภคอาจสะสมในร่างกาย ทำให้เกิดความผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อ ตับถูกทำลาย และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง