หน้าห้องน้ำก็อันตรายได้! อดีตตำรวจเผย "หลุมพราง" ที่พ่อแม่หลายคนมองข้าม
อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีประสบการณ์ 10 ปี เผยความน่ากลัวที่เกิดขึ้นหน้าห้องน้ำ “กับดัก” ที่พ่อแม่ไม่เคยรู้
ผู้ปกครองหลายคนคงพยายามป้องกันไม่ให้บุตรหลานตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม
ลองจินตนาการดูสักนิด หากคุณเป็นคนร้ายลักพาตัว เด็กจะถูกลักพาตัวในช่วงเวลาใดบ้าง
แน่นอนว่าการจินตนาการเช่นนี้อาจทำให้รู้สึกไม่สบายใจและไม่เหมาะสม แต่การมองจากมุมของผู้กระทำความผิดเพียงครั้งเดียว สามารถช่วยป้องกันเหตุร้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ช่วงเวลาที่ผู้ร้ายมักฉวยโอกาสไม่ใช่ระยะเวลานาน แต่เป็น “ช่วงสั้น ๆ ที่ผู้ใหญ่ละสายตาเพียงเสี้ยววินาที” และช่วงเวลานั้นมักเกิดขึ้นตอนเข้าห้องน้ำ
เว็บไซต์ grape Japan ได้เผยแพร่บทความจาก เรียวเซย์ อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีประสบการณ์ 10 ปี เชี่ยวชาญคดีคนหายและความรุนแรงในครอบครัว ได้นำประสบการณ์จากสนามจริงมาอธิบายความเสี่ยงจากมุมมองผู้กระทำความผิด พร้อมเสนอแนวทางป้องกันที่ผู้ปกครองและสถานที่ต่าง ๆ สามารถทำได้ทันที ดังนี้
ทำไมห้องน้ำถึงอันตราย?
เพราะห้องน้ำเป็นหนึ่งในไม่กี่สถานที่ขณะออกนอกบ้านที่สายตาของผู้ปกครองอาจละสายตาไป
ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เด็กไปห้องน้ำเพียงลำพัง หรือผู้ปกครองไปห้องน้ำแล้วเด็กรออยู่ข้างนอก ช่วงเวลานี้ถือเป็นช่วงที่อันตรายที่สุดในการออกนอกบ้าน
นอกจากนี้ เมื่อเด็กรออยู่หน้าห้องน้ำ ผู้ปกครองหลายคนมักเผลอหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาเล่น
ช่องว่างเพียงเล็กน้อยนี้เองที่กลายเป็นโอกาสทองของผู้ร้าย
ในช่วงที่ผู้เขียนทำงานจริง ก็เคยมีเหตุการณ์ที่เด็กถูกถามว่า “กี่ขวบแล้ว? มาคนเดียวเหรอ?” ขณะรอหน้าห้องน้ำ
โชคดีที่ไม่เกิดอันตรายใด ๆ แต่หากผู้ปกครองกลับมาช้า ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร คิดแล้วก็ยังทำให้รู้สึกสยองอยู่จนถึงทุกวันนี้
มาตรการที่ผู้ปกครองทำได้ ให้ความสำคัญกับ “มองเห็น–มีคนผ่าน–ห้ามเล่นมือถือ”

เมื่อเด็กไปห้องน้ำ ผู้ปกครองควรระวังสิ่งใดบ้าง?
มาตรการสำคัญที่สุดคือ ไม่ให้การสอดส่องขาดตอน โดยสามารถทำได้ดังนี้
-
รอในตำแหน่งที่มองเห็นได้ชัด
ทั้งตอนเด็กเข้าหรือออกจากห้องน้ำ ควรอยู่ในจุดที่เห็นทางเข้าออกอยู่เสมอ -
เลือกห้องน้ำที่มีคนผ่านเยอะ
ผู้ต้องสงสัยมักไม่ชอบอยู่ในที่มีคนเห็น ดังนั้นควรเลือกห้องน้ำที่อยู่ในชั้นที่มีคนสัญจรเยอะ หรืออยู่ในพื้นที่สว่าง -
ห้ามเล่นมือถือ
ระหว่างรอควรหลีกเลี่ยงการใช้มือถือ และหันมาสังเกตสภาพรอบข้าง
ผู้เขียนเคยเจอเหตุการณ์ที่เด็กถูกพูดคุยโดยผู้ไม่หวังดีในช่วงเวลาที่ผู้ปกครองเผลอเล่นมือถือเพียงไม่กี่นาที
เพียงใส่ใจ “มองเห็น–มีคนผ่าน–ห้ามเล่นมือถือ” ทั้งสามข้อ ก็ช่วยลดความเสี่ยงหน้าห้องน้ำได้อย่างมาก
มาตรการที่เด็กสามารถทำได้ สร้างนิสัย “อยู่ใกล้–ตะโกน–กลับ”
สิ่งที่ควรสอนเด็กมีดังนี้
-
อย่าออกห่างจากผู้ปกครอง
ควรตกลงกันว่า “หลังใช้ห้องน้ำแล้ว ห้ามเดินออกจากจุดนั้น” -
ตะโกนดังเมื่อรู้สึกผิดปกติ
ให้ตะโกนว่า “ช่วยด้วย!” ให้เสียงดังที่สุด หากทำได้ ให้บอกด้วยว่า “มีคนไม่รู้จักมาทักฉัน!” เพื่อให้ผู้ใหญ่รอบข้างเข้าใจสถานการณ์ได้เร็วขึ้น -
กลับไปหาผู้ปกครองทันที
หากรู้สึกกลัว ให้รีบวิ่งกลับไปหาผู้ปกครองโดยไม่ลังเล
ผู้เขียนพบว่าหลายกรณีที่เด็กตะโกนดัง ทำให้ผู้ใหญ่ใกล้เคียงเข้ามาช่วยทันและป้องกันไม่ให้เกิดอันตราย

สร้างกฎให้ชัดเจนระหว่างผู้ปกครองกับเด็ก
ห้องน้ำคือ “หนึ่งในไม่กี่สถานที่ที่เด็กอาจอยู่คนเดียวขณะออกนอกบ้าน” และเป็นช่วงที่สายตาของผู้ปกครองอาจละสายตา จึงเคยเกิดเหตุการณ์ไม่ปลอดภัยและการเข้ามาทักทายโดยผู้ไม่หวังดี
ผู้ปกครองควรใส่ใจ “มองเห็น–มีคนผ่าน–ห้ามเล่นมือถือ” ส่วนเด็กควรฝึกนิสัย “อยู่ใกล้–ตะโกน–กลับ”
เพียงปฏิบัติตามกฎง่าย ๆ นี้ ก็สามารถลดความเสี่ยงหน้าห้องน้ำได้อย่างมาก
ผู้เขียนเรียนรู้จากประสบการณ์ตำรวจว่า “การป้องกันความเสี่ยงอย่างเกินไป ดีกว่าปล่อยให้เกิดภัย”
แบ่งปันกฎเหล่านี้กับลูกและเริ่มปฏิบัติได้ตั้งแต่วันนี้