ไม่ใช่แซลมอน! "ฮอนมากุโระ" ราชาแห่งซาชิมิ แพงระดับไฮเอนด์ บางตัวราคา 100 ล้าน!
ไม่ใช่แซลมอน! รู้จัก "ฮอนมากุโระ" ราชาแห่งซาชิมิ ทำไมถึงแพงระดับไฮเอนด์
เมื่อพูดถึงซาชิมิคุณภาพสูง หลายคนอาจนึกถึงปลาแซลมอนสีส้มสด แต่ในโลกของอาหารญี่ปุ่นชั้นสูงแล้ว ตำแหน่งราชาแห่งซาชิมิที่แท้จริงนั้นเป็นของ “ฮอนมากุโระ” (Hon-Maguro) หรือปลาทูน่าครีบน้ำเงิน ซึ่งเป็นวัตถุดิบราคามหาศาลที่ได้รับการยอมรับจากเชฟและนักชิมทั่วโลก เหตุผลเบื้องหลังราคาที่สูงลิ่วนี้มาจากหลายปัจจัยที่ซับซ้อน ตั้งแต่ความหายากไปจนถึงรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์

ฮอนมากุโระ คืออะไร?
ฮอนมากุโระ คือชื่อภาษาญี่ปุ่นของ ปลาทูน่าครีบน้ำเงิน (Bluefin Tuna) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ปลาทูน่าที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่ต้องการมากที่สุดในตลาด ได้รับการขนานนามว่าเป็น "เพชรดำแห่งท้องทะเล" เนื้อของมันโดดเด่นด้วยรสชาติที่เข้มข้น เนื้อสัมผัสที่นุ่มนวล และไขมันที่แทรกซึมอย่างสวยงาม ซึ่งแตกต่างจากปลาทูน่าสายพันธุ์อื่นอย่างสิ้นเชิง
เหตุผลเบื้องหลังราคาที่สูงเสียดฟ้า
ราคาที่สูงของฮอนมากุโระไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เกิดจากปัจจัยสำคัญหลายประการที่ทำให้มันกลายเป็นของหายากและมีคุณค่า
ความหายากและสถานะใกล้สูญพันธุ์
ความต้องการบริโภคปลาทูน่าครีบน้ำเงินทั่วโลกมีสูงมากจนน่าตกใจ ส่งผลให้เกิดการทำประมงเกินขนาด (Overfishing) มานานหลายทศวรรษ ทำให้จำนวนประชากรปลาในธรรมชาติลดลงอย่างมาก ปัจจุบันมีองค์กรมากมายที่พยายามควบคุมการจับเพื่ออนุรักษ์สายพันธุ์นี้ไว้ ซึ่งความหายากนี่เองที่เป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ราคาสูงขึ้น
เพาะเลี้ยงยากและต้นทุนสูง
แม้จะมีความพยายามในการเพาะเลี้ยงปลาทูน่าครีบน้ำเงินในฟาร์ม แต่ก็เป็นกระบวนการที่ท้าทายอย่างยิ่ง ปลาชนิดนี้มีขนาดใหญ่ เคลื่อนที่เร็ว และต้องการสภาพแวดล้อมพิเศษในการเจริญเติบโต ทำให้การเพาะเลี้ยงให้ได้คุณภาพเทียบเท่าปลาจากธรรมชาตินั้นมีต้นทุนที่สูงมาก
วัฒนธรรมการประมูล
ในประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะที่ตลาดปลาโทโยสุ (Toyosu) ในกรุงโตเกียว การประมูลปลาทูน่าตัวแรกของปีถือเป็นงานใหญ่ที่ได้รับความสนใจจากสื่อทั่วโลก ปลาทูน่าครีบน้ำเงินขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพดีที่สุด อาจถูกประมูลไปในราคาหลายสิบล้านหรือแม้กระทั่งร้อยล้านบาท ซึ่งเป็นเหมือนการสร้างมาตรฐานราคาและตอกย้ำสถานะความพรีเมียมของมัน

ทุกส่วนคือความอร่อยที่ไม่เหมือนกัน
ความพิเศษของฮอนมากุโระคือเนื้อแต่ละส่วนมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้สามารถสร้างสรรค์เมนูได้หลากหลายและตอบสนองความต้องการของนักชิมที่แตกต่างกัน
- โอโทโร่ (Otoro): เนื้อส่วนท้องที่มีไขมันแทรกอยู่มากที่สุด มีสีชมพูอ่อนจนเกือบขาว เป็นส่วนที่แพงและเป็นที่ต้องการมากที่สุด ให้รสสัมผัสนุ่มละมุนจนแทบละลายในปาก
- ชูโทโร่ (Chutoro): เนื้อส่วนที่อยู่ถัดจากโอโทโร่ มีปริมาณไขมันรองลงมา เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความชุ่มฉ่ำของไขมันและความเข้มข้นของเนื้อแดง
- อากามิ (Akami): เนื้อแดงส่วนกลางลำตัว มีไขมันน้อยที่สุด มีสีแดงสดและรสชาติเข้มข้นของเนื้อปลาทูน่าชัดเจนที่สุด เป็นส่วนที่พบได้ทั่วไปและมีราคาเข้าถึงง่ายที่สุด
ไม่ใช่แค่ปลา แต่คือประสบการณ์
การจัดการฮอนมากุโระตั้งแต่การจับ การขนส่ง การเก็บรักษา ไปจนถึงการแล่โดยเชฟผู้ชำนาญ ล้วนต้องใช้ความประณีตและเทคนิคขั้นสูงเพื่อรักษาสภาพเนื้อให้ดีที่สุด การได้ลิ้มรสฮอนมากุโระจึงไม่ใช่แค่การรับประทานอาหาร แต่เป็นประสบการณ์ทางวัฒนธรรมและศาสตร์แห่งรสชาติที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน
ดังนั้น ราคาที่สูงของ ฮอนมากุโระ จึงสมเหตุสมผลเมื่อพิจารณาถึงความหายาก คุณภาพที่ไม่มีใครเทียบ และความพิเศษในทุกๆ ส่วนของมัน นับเป็นสุดยอดวัตถุดิบที่นักชิมทั่วโลกต่างใฝ่ฝันที่จะได้ลิ้มลองสักครั้งในชีวิต