.jpg)
หญิงดูแลสุขภาพ ดื่มน้ำผึ้งทุกวัน 6 เดือน ตรวจร่างกายพบผลลัพธ์น่าประหลาดใจ
หญิงเชื่อบทความดูแลสุขภาพ ดื่มน้ำผึ้งทุกวัน 6 เดือน ตรวจร่างกายพบผลลัพธ์น่าประหลาดใจ
น้ำผึ้งมักถูกใช้เพื่อบำรุงสุขภาพจากภายในหรือใช้บำรุงผิวและเส้นผม อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็ว ๆ นี้ นักโภชนาการจากภาควิชาโภชนาการ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแพทย์ไทเป ไต้หวัน เปิดเผยว่าการใช้น้ำผึ้งอย่างผิดวิธีอาจก่อผลเสียที่คาดไม่ถึง พร้อมยกตัวอย่างผู้ป่วยหญิงที่เคยดูแล
หญิงวัย 48 ปี จากไต้หวัน เป็นคนรักการดูแลตัวเอง โดยเฉพาะเส้นผม เธอใช้จ่ายมากกว่า 10,000 หยวนต่อเดือน (ประมาณ 44,000 บาท) สำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผม ครึ่งปีที่ผ่านมา เธออ่านข้อมูลที่ระบุว่าการดื่มน้ำผึ้งทุกวันช่วย “กระตุ้นการงอกของเส้นผมและบำรุงผมได้ดี” จึงเริ่มดื่มน้ำผึ้งแทนน้ำเปล่าทุกวันโดยหวังว่าจะช่วยเสริมสารอาหารให้ผมแข็งแรง เงางาม
หลังจากดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำครึ่งปี ร่างกายของเธอเริ่มมีอาการผิดปกติ เช่น เหนื่อยง่าย เวียนหัว กังวลเรื่องสุขภาพจึงไปตรวจที่โรงพยาบาล
ผลตรวจทำให้เธอประหลาดใจ แม้สูงเพียง 1.55 เมตร น้ำหนัก 48 กก. และไม่อ้วน แต่ผลเลือดพบว่าระดับไตรกลีเซอไรด์สูงถึง 250 มก./ดล. ซึ่งสูงเกินค่าปกติ และยังพบว่าเธอมีภาวะไขมันพอกตับ
นักโภชนาการวิเคราะห์ว่า สาเหตุหลักมาจากการดื่มน้ำผึ้งแทนน้ำเปล่าตลอดเวลา “น้ำผึ้งประกอบด้วยกลูโคสและฟรุกโตสเป็นหลัก พร้อมแคลอรีจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ น้ำผึ้งมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านการอักเสบ และต้านอนุมูลอิสระ แต่การดื่มน้ำผึ้งมากเกินไปทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลเกินความจำเป็น น้ำตาลส่วนเกินจะถูกแปรสภาพและสะสมเป็นไขมันในตับ ทำให้เกิดน้ำหนักขึ้น ไขมันในเลือดสูง และไขมันพอกตับ”
ในกรณีของผู้ป่วยรายนี้ยังไม่รุนแรงมาก สามารถปรับเปลี่ยนอาหารและลดปริมาณน้ำผึ้งที่ดื่มได้ เพื่อปรับระดับไขมันในเลือดและช่วยลดภาวะไขมันพอกตับ
นักโภชนาการยังให้คำแนะนำว่า ควรดื่มน้ำผึ้งไม่เกิน 5 มล. ต่อวัน (ประมาณ 1–2 ช้อนชา) เพื่อลดการสะสมแคลอรีและน้ำตาล และควรชงน้ำผึ้งด้วยน้ำอุ่น หลีกเลี่ยงน้ำร้อน เพราะอุณหภูมิสูงอาจทำลายเอนไซม์ วิตามิน และแร่ธาตุในน้ำผึ้ง ลดคุณค่าทางโภชนาการลง