อยากรู้ตับแข็งแรงไหม? แค่ดูที่เท้า หากมีสัญญาณ 1 ใน 5 ข้อนี้ ควรไปตรวจสุขภาพ!
อยากรู้ตับแข็งแรงหรือไม่ ดูจากเท้าได้เลย หากมีสัญญาณใด 1 ใน 5 ข้อนี้ ควรไปตรวจสุขภาพทันที!
เมื่อตับถูกทำลายหรือการทำงานเสื่อมถอย ร่างกายมักส่งสัญญาณเตือนออกมาที่ขา หากพบความผิดปกติ 5 ข้อต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
ตับทำหน้าที่สำคัญหลายอย่าง เช่น กำจัดสารพิษ เผาผลาญไขมัน และปรับสมดุลฮอร์โมน เมื่อเริ่มอ่อนแอ อาการแรก ๆ อาจปรากฏอย่างเงียบ ๆ ที่ขา แต่หลายคนมักมองข้าม
ดร.เอริก เบิร์ก ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจากสหรัฐฯ และผู้อำนวยการบริษัท Dr. Berg Nutritionals เปิดเผยผ่านสื่ออังกฤษ Express ว่า หากขามี 1 ใน 5 สัญญาณต่อไปนี้ อาจเป็น “เสียงขอความช่วยเหลือ” จากตับก็ได้
5 สัญญาณเตือนตับเริ่มอ่อนแอ
1. มีกลุ่มจุดแดงหรือน้ำตาลที่หน้าแข้ง
จุดเล็ก ๆ สีแดงหรือน้ำตาลบนผิวหนังบริเวณหน้าแข้ง อาจถูกเข้าใจผิดว่าเป็นรอยยุงกัดหรือรอยช้ำ แต่แท้จริงแล้วอาจเป็นภาวะเลือดออกใต้ผิวหนัง
อาการนี้เกิดขึ้นเมื่อการทำงานของตับเสื่อมลง ทำให้การสร้างโปรตีนที่ช่วยในการแข็งตัวของเลือดลดลง ส่งผลให้เส้นเลือดฝอยแตกง่าย โดยเฉพาะบริเวณหน้าแข้งซึ่งต้องรับน้ำหนักและแรงกดจากแรงโน้มถ่วงอยู่ตลอดเวลา
ดร.เบิร์ก อธิบายว่า “หากพบจุดแดงหรือน้ำตาลเป็นขุยที่ขา อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคตับแข็ง ไวรัสตับอักเสบ หรือแม้กระทั่งภาวะไขมันพอกตับระยะรุนแรง”

2. เส้นเลือดฝอยแตกเป็นใยแมงมุมบริเวณข้อเท้าและฝ่าเท้า
เส้นเลือดฝอยแตกเป็นใยแมงมุม คือภาวะที่เส้นเลือดเล็ก ๆ ใต้ผิวหนังขยายตัวและแผ่ออกคล้ายใยแมงมุม มักพบได้ที่ข้อเท้าและฝ่าเท้า ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงปัญหาการทำงานของตับ
ดร.เบิร์ก อธิบายว่า “อาการนี้มักเกิดขึ้นเมื่อการทำงานของตับเสื่อมลง ส่งผลต่อกระบวนการเผาผลาญและขับเอสโตรเจน ทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนสะสมในร่างกาย นำไปสู่การขยายตัวของเส้นเลือดและเกิดเป็นเส้นเลือดฝอยแตกแบบใยแมงมุม”
3. อาการบวมน้ำที่ขา
หากใช้นิ้วกดลงบริเวณหลังเท้าหรือข้อเท้าแล้วเกิดรอยบุ๋มค้างอยู่สักครู่ นั่นคือสัญญาณของอาการบวมน้ำที่ขา การบวมแดงหรือบวมพองบริเวณหน้าแข้ง ฝ่าเท้า และข้อเท้า อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงภาวะตับแข็งหรือตับวาย
ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า สาเหตุของอาการบวมน้ำอาจมาจากปัญหาการทำงานของตับ เมื่อการทำงานของตับเสื่อมลง ระดับอัลบูมินซึ่งเป็นโปรตีนที่ตับสร้างขึ้นจะลดลง ทำให้ของเหลวในเลือดซึมออกไปสะสมในเนื้อเยื่อ ส่งผลให้เกิดอาการบวมที่ขาและอวัยวะส่วนอื่นของร่างกาย

4. ส้นเท้าแตก
ส้นเท้าแตกอาจเกิดจากภาวะขาดน้ำ ทำให้ผิวแห้ง แต่ในบางกรณี นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนโรคตับได้เช่นกัน
ดร.เบิร์ก อธิบายว่า เมื่อการทำงานของตับบกพร่อง ร่างกายจะดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมันได้ยากขึ้น เช่น วิตามิน A, D, E, K รวมถึงกรดไขมันโอเมก้า-3 การขาดโอเมก้า-3 และวิตามินเหล่านี้ส่งผลให้ผิวหนังขาดความชุ่มชื้น แห้งและแตกง่าย ซึ่งมักสังเกตเห็นได้ชัดบริเวณส้นเท้า
5. ฝ่าเท้ามีกลิ่นผิดปกติ
โดยทั่วไป กลิ่นเท้ามักเกิดจากเหงื่อและเชื้อแบคทีเรีย แต่บางครั้งกลิ่นเท้าก็อาจเกี่ยวข้องกับปัญหาที่ตับได้เช่นกัน เมื่อการทำงานของตับเสื่อมลงและไม่สามารถกำจัดสารพิษได้เต็มที่ สารเหล่านี้อาจถูกขับออกทางต่อมเหงื่อ รวมถึงที่ฝ่าเท้า ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า หากเท้ามีกลิ่นฉุนคล้ายแอมโมเนีย หรือมีกลิ่นแรงผิดปกติทั้งที่ดูแลความสะอาดอย่างดีแล้ว ควรระวังโรคที่เกี่ยวข้องกับตับ
ตับที่แข็งแรงมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพโดยรวม ดังนั้น หากร่างกายมีสัญญาณผิดปกติข้างต้น ควรรีบไปตรวจที่โรงพยาบาลเพื่อหาสาเหตุและรักษาได้ทันท่วงที