7 ผักมหัศจรรย์ ช่วย "ลด" ความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ถึง 20% รู้เร็วได้ประโยชน์เร็ว!
ที่ไทยมีทุกอย่าง! 7 ผักมหัศจรรย์ ทั้งหาง่าย และราคาย่อมเยา ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ถึง 20% รู้ไว้ก่อน ป้องกันได้ก่อน
ผักตระกูลกะหล่ำถือเป็น “ศัตรูตัวฉกาจ” ของมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง โชคดีที่ในไทยมีผักกลุ่มนี้หลากหลาย หาง่าย และราคาย่อมเยา
มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง จัดเป็นหนึ่งใน “เพชฌฆาตเงียบ” ที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดทั่วโลก โรคนี้มักเริ่มจากติ่งเนื้อเล็ก ๆ ในลำไส้ใหญ่ ก่อนค่อย ๆ พัฒนาเป็นก้อนเนื้อร้าย ที่น่ากังวลคือ ปัจจุบันโรคนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ยังพบมากขึ้นเรื่อย ๆ ในคนอายุต่ำกว่า 50 ปี
อย่างไรก็ตาม ยังมีข่าวดีคือ พฤติกรรมการกินในชีวิตประจำวันสามารถสร้างความแตกต่างได้ งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร BMC Gastroenterology ระบุว่า เพียงรับประทานผักตระกูลกะหล่ำวันละ 20 – 40 กรัม (เทียบเท่ากับบล็อกโคลีครึ่งถ้วยหรือเคลไม่กี่ใบ) ก็สามารถลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ถึง 20 – 26%
สาเหตุเป็นเพราะผักกลุ่มนี้อุดมด้วยสารกลูโคซิโนเลต (Glucosinolate) ซึ่งเมื่อถูกย่อยสลายจะเปลี่ยนเป็นไอโซไทโอไซยาเนต (Isothiocyanate) ที่มีคุณสมบัติช่วยล้างสารพิษก่อมะเร็ง ลดการอักเสบ และยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
7 ผักตระกูลกะหล่ำที่อุดมด้วยสารต้านมะเร็ง
ต่อไปนี้คือ ผัก 7 ชนิดตระกูลกะหล่ำที่อุดมด้วยสารต้านมะเร็ง และสามารถใส่ในเมนูประจำวันได้อย่างง่ายดาย

1. บล็อกโคลี (Broccoli)
บล็อกโคลีถือเป็น “ดาวเด่น” ของผักตระกูลกะหล่ำ ด้วยปริมาณซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) สูง และสารต้านอนุมูลอิสระทรงพลังที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของก้อนเนื้อร้าย เพียงรับประทานวันละ 20–40 กรัมก็เพียงพอในการป้องกันโรค ผักชนิดนี้สามารถต้ม นึ่ง ทำสลัด ซุป หรือผัด ก็อร่อยและยังคงคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน

2. กะหล่ำปลี (Cabbage)
ไม่ว่าจะเป็นกะหล่ำปลีขาวหรือม่วง ผักที่คุ้นเคยชนิดนี้อุดมด้วยใยอาหาร ฟลาโวนอยด์ และแอนโธไซยานิน ช่วยลดการอักเสบ ส่งเสริมระบบย่อยอาหาร และลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ กะหล่ำปลียังปรับใช้ได้หลากหลาย จะกินสดในสลัด ทำกิมจิ หรือใส่ในซุปก็เหมาะทั้งนั้น
3. เคล (Kale)
เคลได้รับขนานนามว่าเป็น “ราชินีผักใบเขียว” อุดมด้วยวิตามิน A, C, K และสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มแคโรทีนอยด์ งานวิจัยชี้ว่า เคลไม่เพียงช่วยปรับสมดุลภูมิคุ้มกัน แต่ยังปกป้องเยื่อบุลำไส้จากการทำลายของอนุมูลอิสระ การดื่มสมูทตี้ผสมเคล หรือผัดกับกระเทียมง่าย ๆ คือวิธีที่เหมาะสมในการเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ

4. กะหล่ำดอก (Cauliflower)
แม้จะไม่ใช่สีเขียวสด แต่กะหล่ำดอกก็อุดมด้วยกลูโคซิโนเลตและวิตามิน C มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ เหมาะกับผู้ที่ต้องการกินอย่างสุขภาพดี สามารถนำไปอบกับขมิ้นและพริกป่น หรือทำเป็น “ข้าวกะหล่ำดอก” แทนข้าวสวย ช่วยเพิ่มความหลากหลายให้มื้ออาหารพร้อมปกป้องลำไส้ใหญ่
5. กะหล่ำดาวบรัสเซลส์ (Brussels Sprouts)
ผักขนาดเล็กรูปร่างคล้ายกะหล่ำปลีนี้อุดมด้วยวิตามิน K, C ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระ งานวิจัยระบุว่ากะหล่ำดาวบรัสเซลส์ช่วยควบคุมการอักเสบและเสริมสุขภาพลำไส้—ปัจจัยสำคัญในการป้องกันติ่งเนื้อพัฒนากลายเป็นมะเร็ง นำมาปรุงง่าย ๆ โดยการอบกับน้ำมันมะกอก มะนาว และกระเทียม ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพลำไส้

6. ผักบ๊อกฉ่อย (Bok Choy)
ผักบ๊อกฉ่อยเป็นผักสมุนไพรที่พบได้บ่อยในอาหารเอเชีย มีรสชาติอ่อน รับประทานง่าย และอุดมด้วยสารอาหาร นอกจากใยอาหารแล้ว ยังมีธาตุซีลีเนียม ซึ่งช่วยปกป้อง DNA ลดความเสี่ยงการกลายพันธุ์ของเซลล์ การผัดกับเห็ดหรือใส่ในซุป เป็นวิธีง่าย ๆ ในการเพิ่มคุณค่าทางสุขภาพให้มื้ออาหาร
7. คะน้า/ผักมัสตาร์ด (Collard Greens/Mustard Greens)
ผักชนิดนี้อุดมด้วยใยอาหาร วิตามิน K และกลูโคซิโนเลต สารที่ได้รับการพิสูจน์ว่าสามารถต่อต้านมะเร็งหลายชนิด รวมถึงมะเร็งลำไส้ใหญ่ การกินคะน้าลวกจิ้มกับน้ำปลา หรือผัดกับกระเทียม ไม่เพียงแต่เรียบง่าย แต่ยังเป็น “โล่ธรรมชาติ” ช่วยปกป้องร่างกายจากโรคร้าย