เนื้อหาในหมวด ข่าว

ผัก 3 ชนิด ที่ได้ชื่อว่า \

ผัก 3 ชนิด ที่ได้ชื่อว่า "ราชาแคลเซียม" ทุกคนควรทานเป็นประจำ เพื่อบำรุงกระดูก!

ผัก 3 ชนิด ที่ถูกเรียกว่า “ราชาแคลเซียม”  คนรักสุขภาพควรกินเป็นประจำ บำรุงกระดูกดีจริง!

ในฤดูใบไม้ร่วง ร่างกายโดยเฉพาะกระดูกและข้อ มักเสี่ยงต่อปัญหาจากอากาศที่แห้งและอุณหภูมิเปลี่ยนแปลง การรับประทานผักที่อุดมด้วยแคลเซียมจึงเป็นทางเลือกที่ดี วันนี้ขอแนะนำ 3 ผัก ที่จัดเป็นแหล่งแคลเซียมตามธรรมชาติ เหมาะแก่การใส่ในเมนูประจำวัน

1. ผักปวยเล้ง 

ผักปวยเล้งถือเป็นแหล่งแคลเซียมอันดับหนึ่งในบรรดาผักใบเขียว ด้วยปริมาณแคลเซียมมากกว่า 100 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม ซึ่งมากกว่านมเสียอีก! ผักปวยเล้งอุดมไปด้วยวิตามินเค ซึ่งช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและมีประโยชน์ต่อสุขภาพกระดูกเป็นอย่างยิ่ง การรับประทานผักปวยเล้งในฤดูใบไม้ร่วงยังช่วยดับร้อน ชุ่มชื้น บรรเทาอาการแห้ง และบรรเทาอาการไอและเสมหะได้อีกด้วย

2. ผักโขม

ผักโขมถือเป็นขุมทรัพย์แห่งสารอาหาร อุดมไปด้วยแคลเซียม ธาตุเหล็ก วิตามินซี และแคโรทีน แคลเซียมในผักโขมช่วยเสริมสร้างกระดูก และใยอาหารจำนวนมากยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับลำไส้และส่งเสริมการขับถ่าย การกินผักโขมในฤดูใบไม้ร่วงยังช่วยบำรุงหยินและบรรเทาอาการตับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาการปากแห้งและลิ้นแห้งที่เกิดจากสภาพอากาศแห้งในฤดูใบไม้ร่วง

3. กวางตุ้งฮ่องเต้

กวางตุ้งฮ่องเต้มีรสหวานและนุ่มเป็นพิเศษในฤดูใบไม้ร่วง อุดมไปด้วยแคลเซียมและวิตามิน อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน การรับประทานบรอกโคลีในฤดูใบไม้ร่วงสามารถช่วยลดความร้อน ขับสารพิษ เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับปอด และลดเสมหะ ซึ่งดีต่อการป้องกันหวัดและไอในฤดูใบไม้ร่วง

การมีสุขภาพดีและป้องกันโรคตามฤดูกาลนั้น สิ่งสำคัญคือการเสริมอาหาร ผักปวยเล้ง ผักโขม และกวางตุ้งฮ่องเต้ ล้วนเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียมจากธรรมชาติ มีคุณค่าทางโภชนาการ และปรุงง่าย สำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุและเด็กเล็ก การรับประทานผักเหล่านี้ในฤดูใบไม้ร่วงสัปดาห์ละสามครั้งเป็นวิธีง่ายๆ ในการเพิ่มปริมาณแคลเซียมและรักษาสุขภาพ

หากต้องการเสริมแคลเซียมให้ร่างกายในช่วงเปลี่ยนฤดู ควรกินผักทั้ง 3 ชนิดนี้อย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพกระดูก