ฮาร์วาร์ดเผย 2 เดือนที่เรียกว่า "เดือนอัจฉริยะ" เด็กที่เกิดในช่วงนี้ มักมี IQ สูงมาก!!!
เด็กเกิดเดือนกันยา-ตุลา ฉลาดกว่าใคร? งานวิจัยฮาร์วาร์ดเผย มีแนวโน้มเป็นเด็กอัจฉริยะ เรียนดี ไอคิวสูงกว่าเพื่อน!
โดยทั่วไปแล้ว เด็กที่เกิดใน "เดือนอัจฉริยะ" หรือเดือนแห่งความฉลาด จะมีแนวโน้มที่จะเป็นนักเรียนดีเด่น เนื่องจากมีระดับ IQ ที่สูง
จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดพบว่า เด็กที่เกิดในเดือนกันยายนและตุลาคมในแต่ละปี จะมีแนวโน้มดีกว่าเด็กที่เกิดในเดือนอื่นๆ ในเรื่องของการควบคุมน้ำหนัก ส่วนสูง และสติปัญญา
เมื่อเทียบกับเด็กที่เกิดในเดือนอื่นๆ เด็กที่เกิดในเดือนกันยายนและตุลาคมมีแนวโน้มที่จะเป็นนักเรียนดีเด่นสูงกว่า ข้อสรุปนี้นำไปสู่การถกเถียงอย่างกว้างขวาง โดยผู้เชี่ยวชาญหลายคนเรียกเดือนกันยายนและตุลาคมว่า "เดือนแห่งความฉลาด"
ใครก็ตามที่เคยศึกษากีฬารักบี้ของอเมริกา จะสังเกตเห็นปรากฏการณ์หนึ่งคือ นักรักบี้เก่งๆ ส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกา มักเกิดในเดือนกันยายนและตุลาคม
นอกจากนี้ เคยมีการสำรวจในช่วงหนึ่งปีพบว่า จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยฟู่ตั้น, มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง และมหาวิทยาลัยเซียะเหมิน ซึ่งล้วนเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน พบว่า จำนวนนักศึกษาใหม่ที่เกิดในเดือนตุลาคมนั้นมีมากที่สุด หลายมหาวิทยาลัยอื่นก็มีแนวโน้มคล้ายกัน
แล้วทำไมเด็กที่เกิดในเดือนกันยายนและตุลาคมจึงมี IQ สูงกว่าล่ะ?
1. สอดคล้องกับกฎการเจริญเติบโตของธรรมชาติ
จากการวิจัย นักวิทยาศาสตร์พบว่า เด็กที่เกิดในเดือนกันยายนหรือเดือนตุลาคม ช่วงเริ่มตั้งครรภ์ของแม่มักจะตรงกับเดือนธันวาคมหรือมกราคม ซึ่ง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์จะเกิดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ ช่วงนี้อากาศสดชื่น แม่ตั้งครรภ์จะรู้สึกสบาย อารมณ์ดี ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ทารกในครรภ์เจริญเติบโตได้ดีขึ้น และอาจส่งผลให้ฉลาดขึ้นหลังคลอด
ในระยะกลางและปลายของการตั้งครรภ์จะตรงกับฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นช่วงที่แม่ตั้งครรภ์ได้รับประทานผักและผลไม้มากขึ้น และมีโอกาสป่วยน้อยลง ซึ่งส่งผลดีต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์
สำหรับเด็กที่เกิดในเดือนกันยายนหรือตุลาคม ช่วงที่เริ่มหัดคลานมักจะอยู่หลังเดือนมิถุนายน ซึ่งอากาศอุ่น เด็กใส่เสื้อผ้าน้อย คลานได้สะดวก ทำให้พัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวดีขึ้น การคลานถือเป็นพื้นฐานสำคัญของพัฒนาการด้านร่างกายและสมอง เพราะการคลานจะช่วยกระตุ้นสมองของเด็ก ถ้าคลานได้เพียงพอจะช่วยพัฒนาทักษะต่าง ๆ ของสมอง
ตรงกันข้าม เด็กที่อยู่ในช่วงหัดคลานในฤดูหนาวมักคลานได้ไม่สะดวก ใส่เสื้อผ้าหนา ทำให้ไม่อยากเคลื่อนไหว บางครอบครัวไม่ฝึกให้ลูกคลาน แต่กลับฝึกเดินเลย
หนังสือ "การเลี้ยงลูกอย่างมีวิทยาศาสตร์" ยังกล่าวไว้ว่า หากเด็กมีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวดี ก็จะส่งผลดีต่อพัฒนาการทางสติปัญญา เพราะการคลานไม่เพียงกระตุ้นสมอง ยังช่วยฝึกการประสานงานของร่างกาย มือ เท้า และสายตา กล่าวคือ การคลานช่วยส่งเสริมการทำงานร่วมกันของมือ ตา และสมองของเด็ก
2. เข้าโรงเรียนช้ากว่าเล็กน้อย
นักกีฬารักบี้เก่งๆ หลายคนที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้มักเกิดในเดือนกันยายนและตุลาคม จากการวิเคราะห์สถิติจำนวนมากพบว่า ไม่เกี่ยวกับราศี แต่เป็นเพราะเด็กที่เกิดช่วงนี้มักได้เข้าเรียนช้ากว่าเด็กคนอื่นเล็กน้อย
จึงมักมีความได้เปรียบ มีความรู้สึกเหนือกว่าเด็กคนอื่น พวกเขามีความพร้อมทางจิตใจและมีศักยภาพในการเรียนรู้ดีกว่าเด็กที่อายุน้อยกว่าหลายเดือน เด็กเหล่านี้มักได้รับเลือกเป็นหัวหน้าห้อง มีความมั่นใจในตัวเอง และมีความภาคภูมิใจในตนเองตั้งแต่เล็ก
- ม.ฮาร์วาร์ด ไขปริศนาแล้ว ทำไมเด็กที่เกิดใน 3 เดือนนี้ มักจะ "หน้าตาดี" มีเสน่ห์เป็นพิเศษ?
- ไม่ใช่แค่คาดเดา แต่เป็นงานวิจัยของ "ฮาร์วาร์ด" เด็กที่เกิดใน 3 เดือนนี้ มักมีอนาคตสดใส!
แต่แน่นอนว่าไม่ได้หมายความว่าเด็กที่เกิดในเดือนอื่นจะด้อยกว่า เพราะการเลี้ยงดูเด็กให้ฉลาด ไม่สามารถแยกออกจากบทบาทของพ่อแม่และการศึกษาได้ ดังนั้น แม้ว่าเราส่วนใหญ่จะไม่ได้เกิดใน "เดือนแห่งความฉลาด" แต่ก็ไม่ต้องกังวล
ในความเป็นจริง คนส่วนใหญ่มี IQ อยู่ในระดับเฉลี่ยประมาณ 100 ดังนั้น ทำไมบางคนเมื่อโตขึ้นจึงฉลาดและประสบความสำเร็จ ในขณะที่บางคนกลับธรรมดา? คำตอบคือ สิ่งแวดล้อมในครอบครัวและวิธีการเลี้ยงดูของพ่อแม่ มีผลอย่างมากต่อพัฒนาการทางสติปัญญา
พูดอีกอย่างคือ IQ ไม่ได้ถูกกำหนดโดยพันธุกรรม 100% แต่เกี่ยวข้องกับการศึกษาและสภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ ดังนั้น หากอยากให้ลูกมี IQ สูง การเลี้ยงดูและการอยู่เคียงข้างลูกของพ่อแม่ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด ตัวอย่างเช่น หลังจากลูกเกิดมา พ่อแม่ควรพูดคุยและมีปฏิสัมพันธ์กับลูกให้มากในชีวิตประจำวัน สอนสิ่งใหม่ๆ ให้ลูกเรียนรู้เสมอ
นอกจากเรื่องเรียนแล้ว พ่อแม่ก็ควรให้ลูกทำกิจกรรมอื่นๆ ด้วย เช่น อ่านหนังสือ เล่นกีฬา ดนตรี วาดรูป เป็นต้น กิจกรรมเหล่านี้สามารถกระตุ้นความฉลาดและจินตนาการของเด็ก รวมถึงช่วยพัฒนาความคิดและความยืดหยุ่นทางสมองได้มาก
