
แม่กู้เงินส่งลูกชายเรียนเมืองนอก ผ่านไป 10 ปี ใจสลาย สิ่งแรกที่ลูกทำหลังกลับบ้าน
แม่กู้เงิน 2 ล้าน ส่งลูกชายเรียนเมืองนอก ผ่านไป 10 ปี ใจสลาย ลูกกลับมาซื้อบ้านเป็นชื่อแฟน
มีเรื่องราวครอบครัวที่ฟังดูเหมือนฉากในหนัง แต่เกิดขึ้นจริงและทำให้ผู้ปกครองหลายคนตกใจ เรื่องราวของแม่คนหนึ่งที่ยอมกู้เงินประมาณ 600,000 หยวน (ราว 2.7 ล้านบาท) เพื่อส่งลูกชายไปเรียนต่างประเทศ ด้วยความหวังว่าวันหนึ่งลูกจะประสบความสำเร็จและเป็นหลักให้ครอบครัว แต่เมื่อครบ 10 ปี วันแรกที่ลูกชายกลับมาบ้าน กลับไม่ใช่การใช้หนี้หรือดูแลแม่ แต่เป็นการเซ็นสัญญาซื้อบ้านเป็นชื่อแฟนสาว
ชีวิตแม่ทำงานหนักเพื่อให้ลูกมีอนาคต
เหตุการณ์เกิดขึ้นที่มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน แม่ในเรื่องเป็นเพียงคนงานในโรงงานตัดเย็บรายได้ไม่ถึง 4,000 หยวนต่อเดือน แต่เมื่อเห็นว่าลูกชายสอบติดมหาวิทยาลัยในอังกฤษ เธอตัดสินใจกู้เงินธนาคารและรวมเงินจากญาติรวมเป็น 600,000 หยวน เพื่อจ่ายค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายให้ลูก
ตลอดระยะเวลาที่ลูกอยู่ต่างประเทศ แม่ต้องทำงานทั้งวันและรับงานเย็บเสื้อที่บ้านในตอนกลางคืน บางครั้งสุขภาพทรุดลง แต่ก็ไม่กล้าเลิกทำ เพราะคิดถึงหนี้ธนาคารและความฝันของลูก ทุกครั้งที่โทรคุย เธอซ่อนความลำบากไว้และให้กำลังใจลูกว่า "ลูกเรียนให้เต็มที่ ไม่ต้องห่วงแม่"
ลูกชายกลับบ้านพร้อมความสำเร็จ แต่สิ่งแรกที่ทำไม่ใช่ดูแลครอบครัว
ลูกชายไปเรียนที่อังกฤษ 4 ปี จากนั้นทำงานต่ออีก 6 ปี เมื่อครบ 10 ปี เขากลับมาปักกิ่งพร้อมประวัติการทำงานดีเยี่ยมและรายได้สูง แม่คิดว่านี่จะเป็นเวลาที่ลูกเริ่มแบ่งเบาภาระครอบครัว โดยเฉพาะหนี้ธนาคารที่เธอยังคงชำระตลอดสิบปี
แต่กลับมีคนมาบอกว่า ลูกชายกำลังซื้อคอนโดใหม่ในปักกิ่ง มูลค่ากว่า 3 ล้านหยวน เป็นชื่อของแฟนสาว แม่ถึงกับตกใจ เมื่อถามเรื่องหนี้ธนาคาร ลูกชายตอบว่า "แม่สบายใจได้ ผมจะจัดการ ผมคิดว่าต้องสร้างชีวิตตัวเองให้มั่นคงก่อน"
ช่วงเวลานั้นทำให้หัวใจเธอแตกสลาย หลายปีแห่งการทำงานหนักและหนี้สิน เพียงเพื่อปูทางให้ลูกชาย และตอนนี้สิ่งแรกที่เขาคิดถึงเมื่อกลับมาไม่ใช่พ่อแม่ของเขา แต่เป็นบ้านของเขาเองกับคนอื่น
เรื่องนี้สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง บ้างสงสารแม่ บ้างตำหนิลูกชายว่าขาดความเอาใจใส่ และบางคนมองว่าพ่อแม่ผิดเองที่ฝากอนาคตครอบครัวให้ลูกเพียงคนเดียว ทั้งที่ลูกก็อาจอยากมีชีวิต สร้างครอบครัวของตัวเอง