
ย้อนรอย 9 ผู้นำโลก ถูกฆ่าไม่ทันตั้งตัว! เปิดโฉม "มือล่าเงียบ" กับบทสังหารที่ไม่มีวันลืม!
ประวัติศาสตร์การเมือง กับ 9 นักลอบฆ่าเขย่าโลก และ "ผู้นำ" ที่พวกเขาสังหารไป สัญลักษณ์แห่งอิทธิพลและการเปลี่ยนแปลง
การลอบสังหารผู้นำระดับโลก เช่น ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี หรือกษัตริย์ มักสร้างแรงกระเพื่อมในประวัติศาสตร์ และหลายเหตุการณ์ฝังแน่นในความทรงจำของผู้คน บทความนี้รวม 9 คดีที่มีชื่อเสียง ตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 จนถึงศตวรรษที่ 20 พร้อมเรื่องราวที่อยู่เบื้องหลัง
1. จอห์น เอฟ. เคนเนดี (John F. Kennedy) และ ลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ (Lee Harvey Oswald)
จอห์น เอฟ. เคนเนดี เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 35 ดำรงตำแหน่งในช่วงปี 1961–1963 เขาถูกลอบสังหารขณะนั่งอยู่ในขบวนรถเปิดประทุนที่เมืองดัลลัส โดย ลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ยิงจากชั้น 6 ของอาคารเก็บหนังสือ ใช้อาวุธไรเฟิลที่สั่งทางไปรษณีย์
หลังเหตุการณ์นั้น ออสวอลด์หลบหนีโดยขึ้นรถประจำทางและแท็กซี่ แต่ถูกจับในโรงภาพยนตร์ไม่นาน ต่อมาเขาถูกยิงโดย แจ็ค รูบี้ ขณะถูกย้ายจากห้องขังไปยังห้องสอบสวน
- คำสาปแช่งตระกูล "เคนเนดี" อำนาจ ความลับ และโศกนาฏกรรมของเหล่า "ผู้สืบสกุล"
- ทรัมป์ไม่ใช่คนแรก ย้อนประวัติศาสตร์ "ลอบสังหาร" ปธน.สหรัฐฯ ครั้งแรกเกิดขึ้นในยุคใคร?
2. อับราฮัม ลินคอล์น (Abraham Lincoln) และ จอห์น วิลกส์ บูธ (John Wilkes Booth)
อับราฮัม ลินคอล์น ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 16 ระหว่างสงครามกลางเมือง เขานำการเลิกทาสและรักษาเอกภาพของประเทศ
จอห์น วิลกส์ บูธ นักแสดงและผู้สนับสนุนฝ่ายใต้ วางแผนลอบสังหารลินคอล์นที่โรงละคร Ford’s Theatre ในคืนวันที่ 14 เมษายน 1865 โดยยิงเข้าไปในกล่องเกียรติยศของประธานาธิบดี
ลินคอล์นเสียชีวิตในเช้าวันถัดมา ส่วนบูธถูกตามล่า พบที่ยุ้งข้าวในเวอร์จิเนีย และเสียชีวิตหลังถูกยิง
3. มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ (Martin Luther King Jr.) และ เจมส์ เอิร์ล เรย์ (James Earl Ray)
มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ เป็นผู้นำขบวนการสิทธิมนุษยชนในสหรัฐฯ ถูกลอบสังหารในวันที่ 4 เมษายน 1968 ขณะยืนบนระเบียงของห้องพักในเมืองเมมฟิส
เจมส์ เอิร์ล เรย์ เป็นผู้ยิงคิงจากระยะไกล หลบหนีไปยังแคนาดาและยุโรป แต่ถูกจับตัวได้ที่ลอนดอน เมื่อถูกนำกลับมายังเมมฟิส เขายอมรับผิดและถูกตัดสินจำคุก 99 ปี
แม้ภายหลังเขาพยายามถอนคำสารภาพและอ้างว่ามีขบวนการเบื้องหลัง แต่ไม่มีหลักฐานเพียงพอสนับสนุนข้อกล่าวหา
4. ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ (Franz Ferdinand) และ กาฟริโล ปรินซิป (Gavrilo Princip)
ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ มกุฎราชกุมารออสเตรีย-ฮังการี ถูกลอบสังหารเมื่อเดือนมิถุนายน 1914 โดย กาฟริโล ปรินซิป ที่เมืองซาราเยโว เหตุการณ์นี้ถือเป็นชนวนสำคัญให้เกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
ปรินซิป เป็นสมาชิกกลุ่มชาตินิยมเซอร์เบียที่มุ่งรวมชาวสลาฟใต้เป็นรัฐเดียว การลอบสังหารนี้ทำให้ออสเตรีย-ฮังการีประกาศสงครามกับเซอร์เบียในเดือนกรกฎาคม 1914
หลังการพิจารณาคดี ปรินซิปถูกตัดสินจำคุก 20 ปี ซึ่งเป็นโทษสูงสุดสำหรับผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เขาเสียชีวิตในคุกภายหลังด้วยโรควัณโรค
5. มหาตมะ คานธี (Mahatma Gandhi) และ นาธูราม โกดเซ (Nathuram Godse)
มหาตมะ คานธี ผู้นำการเคลื่อนไหวไม่ใช้ความรุนแรงเพื่อเรียกร้องเอกราชแก่ชาวอินเดีย ถูกลอบสังหารเมื่อวันที่ 30 มกราคม 1948 ขณะเดินทางไปยังสถานที่ประชุมภาวนาในกรุงเดลี
นาธูราม โกดเซ ผู้ลอบสังหาร ยิงคานธีสามนัดจากระยะประชิด เชื่อว่าโกดเซโกรธแค้นต่อแนวคิดของคานธีที่ให้ความสำคัญกับชาวมุสลิมมากเกินไป
โกดเซถูกจับกุมในทันทีและถูกตัดสินประหารชีวิตภายหลังการพิจารณาคดี
6. วิลเลียม แมคคินลีย์ (William McKinley) และ ลีออน ชอลกอซ (Leon Czolgosz)
วิลเลียม แมคคินลีย์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 25 ระหว่างการดำรงตำแหน่ง สหรัฐฯ เข้าร่วมสงครามกับสเปนและขยายอาณานิคมหลายแห่ง
ในวันที่ 6 กันยายน 1901 ขณะทักทายประชาชนในงาน Pan‑American Exposition ลีออน ชอลกอซ สวมปืนซ่อนในผ้าเช็ดหน้า ยิงเข้าไปในร่างกายของแมคคินลีย์ แม้เขาจะถูกนำส่งโรงพยาบาล แต่เสียชีวิตในวันที่ 14 กันยายน
ชอลกอซถูกจับกุมและถูกประหารชีวิตด้วยเก้าอี้ไฟฟ้าในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน
7. เจมส์ เอ. การ์ฟิลด์ (James A. Garfield) และ ชาร์ลส์ เจ. กูอีโต (Charles J. Guiteau)
เจมส์ เอ. การ์ฟิลด์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 1881 แต่โดนลอบยิงในเดือนกรกฎาคม โดย ชาร์ลส์ เจ. กูอีโต ชายที่หวังตำแหน่งราชการ
กูอีโตยิงการ์ฟิลด์ที่สถานีรถไฟในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. การ์ฟิลด์ไม่เสียชีวิตทันที แต่ทรมานนาน 80 วันก่อนจะเสียชีวิตจากการติดเชื้อ
กูอีโตถูกจับกุมและประหารชีวิตด้วยการแขวนคอในปี 1882
8. อินทิรา คานธี (Indira Gandhi) / ราจีฟ คานธี (Rajiv Gandhi) และผู้ลอบสังหาร
อินทิรา คานธี เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของอินเดีย ถูกลอบสังหารในปี 1984 โดยบอดี้การ์ดชาวซิกข์ หลังเหตุการณ์บุกโจมตีวัดทองคำ (Golden Temple)
ราจีฟ คานธี บุตรชายของเธอ ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และในปี 1991 เขาถูกลอบสังหารระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง โดยผู้หญิงที่ซ่อนระเบิดไว้ในตะกร้าดอกไม้
ศาลอินเดียพิพากษาลงโทษผู้สมรู้ร่วมคิดหลายราย ซึ่งมีความเกี่ยวโยงกับกลุ่มกบฏในศรีลังกา
9. ลีออน ทร็อตสกี (Leon Trotsky) และ รามอน เมอร์กาเดร์ (Ramón Mercader)
ลีออน ทร็อตสกี นักทฤษฎีคอมมิวนิสต์และผู้นำปฏิวัติรัสเซีย ซึ่งเคยถูกคาดหมายว่าจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากเลนิน แต่กลับถูกสตาลินขับออกจากพรรคและเนรเทศในปี 1928
ทร็อตสกีลี้ภัยมายังเม็กซิโกในปี 1936 และยังคงวิจารณ์สตาลินอย่างเปิดเผย เขารอดจากความพยายามลอบสังหารในเดือนพฤษภาคม 1940 แต่ในวันที่ 20 สิงหาคมปีเดียวกัน เขาถูก รามอน เมอร์กาเดร์ ชาวสเปนและสายลับโซเวียต ลอบทำร้ายด้วยที่เจาะน้ำแข็ง
ทร็อตสกีเสียชีวิตในวันถัดมา ส่วนเมอร์กาเดร์ถูกจับกุมและติดคุกในเม็กซิโกนาน 20 ปี
เงาของความรุนแรงที่เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์
ผู้นำที่ถูกลอบสังหารในเหตุการณ์เหล่านี้ ล้วนเป็นบุคคลสำคัญที่มีอิทธิพลต่อโลก และการเสียชีวิตของพวกเขาได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสังคมในระดับลึก
แม้การลอบสังหารจะเป็นอาชญากรรม แต่ก็เป็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนถึงความตึงเครียดทางอุดมการณ์ ความขัดแย้ง และแรงผลักดันของมนุษย์ในช่วงเวลานั้น
การจดจำเหตุการณ์เหล่านี้จึงไม่ใช่เพื่อยกย่องผู้กระทำผิด แต่เพื่อเรียนรู้จากอดีต และเตือนใจถึงราคาของความรุนแรงในการเมืองโลก..... เรื่องราวเหล่านี้จึงยังคงถูกเล่าขาน ศึกษา และตั้งคำถาม จนถึงวันนี้