เนื้อหาในหมวด ข่าว

อาหาร 4 ชนิด ที่เป็น \

อาหาร 4 ชนิด ที่เป็น "ตัวเร่งทำลายไต" ยิ่งกินบ่อย ยิ่งเสี่ยงไตเสื่อมโดยไม่รู้ตัว

อาหาร 4 ชนิด ดูเหมือน "ไม่เป็นอันตราย" แต่กลับเป็น "ตัวเร่งปฏิกิริยา" ทำลายไต โดยที่หลายคนไม่รู้ตัว

หลายคนอาจคิดว่าอาหารที่ทำร้ายไตมีเพียงของเค็ม มัน หรือมีไขมันสูงเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง ยังมีอาหารบางชนิดที่ดูเหมือนไม่อันตราย แต่กลับเป็น “ตัวเร่งทำลายไต” แบบเงียบ ๆ ทุกครั้งที่กินเข้าไป ภาระของไตก็เพิ่มขึ้นทีละนิด

หลายคนมักเชื่อว่าตัวเอง “ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อไต” จนกระทั่งวันหนึ่งค่าครีอะตินินในเลือดสูง โปรตีนรั่วในปัสสาวะ และเมื่อถึงตอนนั้น ไตมักได้รับความเสียหายจนไม่สามารถฟื้นตัวได้แล้ว

1. กินอาหารที่มีพิวรีนสูงเกินไป

คนส่วนใหญ่รู้ว่า “พิวรีนสูง” ทำให้เกิดโรคเกาต์ แต่ไม่ค่อยรู้ว่ามันยังทำลายไตได้รุนแรงกว่า เมื่อร่างกายย่อยพิวรีน จะเกิดกรดยูริก หากไตไม่สามารถขับออกได้ทัน ผลึกยูเรต จะไปสะสมในท่อไต ทำให้เกิดการอักเสบและอุดตัน ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะไตวายเฉียบพลันหรือเรื้อรังได้

ชายวัย 50 ปีรายหนึ่งที่ชอบกินอาหารทะเล เครื่องในสัตว์ และดื่มเบียร์เป็นประจำ จากที่เคยเป็นแค่เกาต์เล็กน้อย กลับพบว่าไตเสื่อมอย่างรุนแรงในเวลาต่อมา เพราะกรดยูริกที่สะสมอยู่ทำลายเซลล์กรองของไตอย่างต่อเนื่อง

ข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า ผู้ที่มีกรดยูริกสูงเรื้อรัง มีโอกาสเป็นโรคไตเรื้อรังมากกว่าคนทั่วไปถึง 3 เท่า และมักไม่มีอาการจนกว่าจะเข้าสู่ระยะที่ไตเริ่มเสื่อมถาวร

2. ดื่มกาแฟหรือชาเข้มเกินไป

กาแฟและชาเข้มช่วยให้ตื่นตัว แต่หากดื่มมากเกินไปจะทำให้ไตทำงานหนักเกินจำเป็น คาเฟอีนกระตุ้นให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น เลือดไหลเวียนไปที่ไตมากขึ้น ทำให้ อัตราการกรองของไตเพิ่มสูงผิดปกติ จนเซลล์กรองเสื่อมลงในระยะยาว

พนักงานออฟฟิศวัย 30 ปี ที่ดื่มกาแฟวันละ 4–5 แก้ว พบว่ามีโปรตีนในปัสสาวะ ทั้งที่ไม่มีโรคประจำตัวใด ๆ ซึ่งเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคไตเรื้อรัง

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ดื่มกาแฟเกิน 3 แก้วต่อวัน (ประมาณ 300 มิลลิกรัมคาเฟอีน) จะเพิ่มภาระของไตขึ้นถึง 30% และถ้ามีโรคพื้นฐานอย่างเบาหวานหรือความดันสูง ความเสียหายจะเกิดเร็วขึ้นอีกหลายเท่า ส่วนชาเข้มก็ไม่ต่างกัน เพราะมีสารธีโอฟิลลีนที่รบกวนสมดุลของแคลเซียมและโซเดียม ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดนิ่วหรือการอักเสบในท่อไต

3. กินอาหารแปรรูปบ่อยเกินไป

แม้จะลดเค็มและมันแค่ไหน แต่ถ้ายังกินอาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือเครื่องดื่มน้ำอัดลม ก็ยังเสี่ยงทำลายไตอยู่ดี เพราะอาหารเหล่านี้มี ฟอสเฟต ในปริมาณสูง ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ไตเสื่อมเร็ว

ชายวัย 40 ปีรายหนึ่ง ไม่กินเค็ม ไม่กินมัน แต่ติดอาหารจานด่วนและน้ำอัดลม ตรวจร่างกายพบว่ามีระดับฟอสเฟตในเลือดสูงและไตเริ่มเสื่อมลงอย่างชัดเจน เพราะฟอสเฟตส่วนใหญ่ถูกขับออกทางไต เมื่อรับเข้ามามากเกินไป ไตก็ต้องทำงานหนักจนเซลล์กรองถูกทำลาย

ผู้ที่กินอาหารแปรรูปบ่อย มีความเสี่ยงต่อโรคไตสูงกว่าคนทั่วไปถึง 4 เท่า ที่น่ากลัวคือ ฟอสเฟตไม่มีรสเค็มหรือหวาน ทำให้ยากจะรู้ตัวว่ากำลังรับสารนี้เกินขนาดทุกวัน

4. ดื่มนมหรือเครื่องดื่มโปรตีนเสริมมากเกินไป

หลายคนเชื่อว่าการกินโปรตีนเยอะจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและมีกล้ามเนื้อ แต่ในความจริง เมื่อร่างกายย่อยโปรตีน จะเกิดของเสียจากไนโตรเจนซึ่งต้องผ่านไตกรอง หากได้รับมากเกินไป ไตจะต้องทำงานหนักขึ้นเรื่อยๆ จนสูญเสียความสามารถในการกรองของเสียตามธรรมชาติ

ชายวัย 40 ปีที่ออกกำลังกายและดื่มเวย์โปรตีนทุกวัน พบว่ามีโปรตีนรั่วในปัสสาวะ ซึ่งเป็นสัญญาณของ ไตเสื่อมจากการบริโภคโปรตีนเกิน งานวิจัยชี้ว่า ผู้ที่บริโภคโปรตีนสูงมีอัตราการเสื่อมของไตรวดเร็วกว่า 2 เท่า โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวอย่างความดันหรือเบาหวาน

สรุป

อาหารบางอย่างแม้จะดู “ดีต่อสุขภาพ” แต่ถ้ากินมากเกินไปก็อาจกลายเป็นภัยเงียบที่ทำลายไตได้โดยไม่รู้ตัว ดังนั้น การกินอย่างพอดี หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป ดื่มน้ำมากพอ และตรวจสุขภาพไตเป็นประจำ คือทางเลือกที่ดีที่สุดในการปกป้องอวัยวะสำคัญนี้

ช็อก หนุ่มจีนวัย 20 ฟอกไตตลอดชีวิต เพราะขนมปัง \

ช็อก หนุ่มจีนวัย 20 ฟอกไตตลอดชีวิต เพราะขนมปัง "แบบโปรด" เมนูนี้คนไทยคุ้นเคยกันดี!

ช็อก! อาหารเช้า “สุดธรรมดา” ที่ใครๆ ก็เคยกิน ทำหนุ่มอายุแค่ 20 ไตวายเฉียบพลัน ต้องฟอกไตตลอดชีวิต