เนื้อหาในหมวด ข่าว

อาหารประเภทนี้ \

อาหารประเภทนี้ "มื้อเดียว" ทำลายหลอดเลือดได้ภายใน 4 ชั่วโมง แต่หลายคนยังชอบกิน

ไขมันอิ่มตัว ตัวการลดความยืดหยุ่นของหลอดเลือด ทำร้ายหัวใจและสมองหลังกินแค่ 4 ชั่วโมง

งานวิจัยล่าสุดชี้ว่า ไขมันอิ่มตัว อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้หลอดเลือดแข็งตัวและลดการไหลเวียนของเลือด ส่งผลกระทบต่อทั้งหัวใจและสมอง โดยเฉพาะเมื่อรับประทานเป็นประจำในปริมาณมาก อาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดในระยะยาว

ไขมันอิ่มตัว “ภัยเงียบ” ที่ทำร้ายหลอดเลือด

ไขมัน เป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการเพื่อให้พลังงานและช่วยดูดซึมวิตามินต่าง ๆ แต่ไม่ใช่ไขมันทุกชนิดจะดีต่อสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญแบ่งไขมันออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ ไขมันอิ่มตัว (พบในอาหารทอด ครีม เนย และเนื้อติดมัน) และไขมันไม่อิ่มตัว (พบในปลา อะโวคาโด และถั่วต่าง ๆ)

ในขณะที่ไขมันไม่อิ่มตัวทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันหัวใจ ไขมันอิ่มตัวกลับเป็น “ภัยเงียบ” ที่ค่อย ๆ ทำลายระบบหลอดเลือดและสมองโดยไม่รู้ตัว

กินเพียงมื้อเดียวก็มีผลต่อหลอดเลือดภายใน 4 ชั่วโมง

คณะนักวิทยาศาสตร์จากสหราชอาณาจักรเปิดเผยในวารสาร Nutritional Physiology ว่า การรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูงเพียงมื้อเดียว เช่น ฟาสต์ฟู้ดหรือมิลค์เชคที่ใส่ครีมเข้มข้น อาจทำให้หลอดเลือดแข็งตัวและลดการไหลเวียนเลือดไปยังสมองภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

การทดลองนี้มีอาสาสมัครชาย 41 คน แบ่งเป็นกลุ่มวัยหนุ่ม (18–35 ปี) และกลุ่มผู้สูงอายุ (60–80 ปี) ทั้งหมดได้รับมิลค์เชคสูตรพิเศษที่ให้พลังงาน 1,362 แคลอรี และมีไขมันอิ่มตัวสูงถึง 130 กรัม ซึ่งเทียบเท่ากับมื้ออาหารฟาสต์ฟู้ดหนึ่งมื้อ จากนั้นนักวิจัยได้ตรวจวัดความยืดหยุ่นของหลอดเลือดก่อนและหลังดื่ม 4 ชั่วโมง

ผลการวิจัยพบว่า หลังจากดื่มเพียง 4 ชั่วโมง หลอดเลือดของทั้งสองกลุ่มลดความสามารถในการขยายตัวอย่างชัดเจน ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นและการไหลเวียนเลือดไปยังสมองลดลง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่ได้รับผลกระทบรุนแรงกว่า

เหตุผลทางชีวภาพที่หลอดเลือดเสื่อมลง

ศาสตราจารย์ ดร.เดเมียน เบลีย์ จากมหาวิทยาลัยเซาธ์เวลส์ อธิบายว่า สมองของมนุษย์พึ่งพาการไหลเวียนเลือดที่สม่ำเสมอเพื่อรับออกซิเจนและพลังงาน เมื่อหลอดเลือดแข็งตัว ความสมดุลนี้จะถูกรบกวน และหากเกิดขึ้นซ้ำ ๆ จะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพร้ายแรง

นอกจากนี้ อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูงยังเพิ่มอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวทำลายเซลล์ และลดระดับไนตริกออกไซด์ในร่างกาย ซึ่งสารนี้ช่วยให้หลอดเลือดคลายตัวและขยายตัวเพื่อส่งออกซิเจนและกลูโคสไปยังสมอง การลดลงของสารนี้จึงเป็นสาเหตุให้เลือดไหลเวียนลดลงภายในเวลาอันสั้นหลังรับประทาน

ผลสะสมจากพฤติกรรมการกินในระยะยาว

แม้การกินอาหารไขมันสูงเพียงครั้งเดียวอาจไม่ทำให้เกิดโรคทันที แต่หากเกิดขึ้นเป็นประจำ ผลสะสมของไขมันอิ่มตัวจะทำให้หลอดเลือดเสื่อมลงเรื่อย ๆ เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และภาวะสมองเสื่อมในอนาคต

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ

บริการสุขภาพแห่งชาติของอังกฤษ (NHS) แนะนำว่า ผู้ชายไม่ควรบริโภคไขมันอิ่มตัวเกิน 30 กรัมต่อวัน ส่วนผู้หญิงควรจำกัดไม่เกิน 20 กรัมต่อวัน พร้อมแนะนำให้เปลี่ยนมาบริโภคไขมันไม่อิ่มตัวแทน เช่น ปลาแซลมอน วอลนัต น้ำมันมะกอก และถั่วต่าง ๆ เพราะอาหารเหล่านี้ช่วยให้หลอดเลือดยืดหยุ่น ลดการอักเสบ และส่งเสริมการทำงานของสมอง

สรุป: ลดไขมันอิ่มตัว เพื่อหัวใจและสมองที่แข็งแรง

การลดการบริโภคไขมันอิ่มตัวและหันมาเลือกไขมันดีจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะกอกและปลาทะเล ไม่เพียงช่วยป้องกันโรคหัวใจ แต่ยังช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว

ครอบครัวกินหมูทุกมื้อ ผู้ใหญ่ป่วยสโตรก-เด็กความดันสูง พยาบาลชี้ ผิดที่วิธีปรุงอาหาร!

ครอบครัวกินหมูทุกมื้อ ผู้ใหญ่ป่วยสโตรก-เด็กความดันสูง พยาบาลชี้ ผิดที่วิธีปรุงอาหาร!

พยาบาลเล่าเคสครอบครัวคนขายหมู ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง-ความดันสูงทั้งครอบครัว ไม่เว้นแม้แต่เด็ก 10 ขวบ เตือนอย่าปรุงอาหารแบบนี้!