เนื้อหาในหมวด ข่าว

นร.หญิงวัย 17 ออกกำลังกายวันละ 2-3 ชม. สุดท้ายต้องเข้า รพ.จิตเวช แพทย์แจงสาเหตุ!

นร.หญิงวัย 17 ออกกำลังกายวันละ 2-3 ชม. สุดท้ายต้องเข้า รพ.จิตเวช แพทย์แจงสาเหตุ!

ออกกำลังกายวันละ 2–3 ชั่วโมง เด็กนักเรียนหญิงวัย 17  ต้องเข้าโรงพยาบาลจิตเวช หมอชี้แจงสาเหตุชัดเจน

เด็กหญิงวัย 17 ปีในเวียดนามต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวช หลังมีอาการความดันต่ำ ชีพจรเต้นช้า และน้ำหนักลดฮวบ สาเหตุเกิดจากการออกกำลังกายหนักวันละหลายชั่วโมงร่วมกับการควบคุมอาหารอย่างเข้มงวด แพทย์ชี้ว่าเธอกำลังเผชิญภาวะ “โรคการกินผิดปกติ” ซึ่งมักพบในวัยรุ่นโดยเฉพาะผู้หญิง

เคสที่ 1: นักเรียนหญิงวัย 17 ปี ลดน้ำหนักหนักเกินจนป่วย

เด็กหญิงคนนี้มีสุขภาพแข็งแรง เรียนดี แต่หลังถูกเพื่อนล้อเรื่องรูปร่าง เธอเริ่มลดน้ำหนักอย่างจริงจัง โดยควบคุมอาหารอย่างหนักและออกกำลังกายวันละ 2–3 ชั่วโมงติดต่อกันหลายเดือน

ในเวลา 6 เดือน น้ำหนักลดจาก 62 กิโลกรัม เหลือเพียง 42 กิโลกรัม เธอกินข้าวแค่ไม่กี่คำต่อวัน ประจำเดือนขาด 3 เดือน แต่ยังคิดว่าตัวเอง "ยังอ้วนอยู่" และยังคงฝืนออกกำลังกายต่อไป

เมื่อเข้ารับการตรวจร่างกาย พบว่าความดันต่ำ ชีพจรช้า ดัชนีมวลกาย (BMI) ต่ำกว่ามาตรฐาน แพทย์วินิจฉัยว่าเธอเป็นโรค “อะนอเร็กเซีย เนอโวซา” (Anorexia Nervosa) ซึ่งเป็นหนึ่งในโรคการกินผิดปกติ

เคสที่ 2: วัยรุ่นหญิงวัย 18 ปี กินจุผิดปกติจนควบคุมไม่ได้

อีกกรณีเป็นหญิงวัย 18 ปี ที่มีพฤติกรรมกินอาหารปริมาณมากในเวลาสั้น ๆ สัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง เช่น มันฝรั่งทอด พิซซ่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรวมกันมากถึง 1.5 กิโลกรัมต่อครั้ง

หลังจากกิน เธอมักรู้สึกผิดและพยายามอาเจียนหรือใช้ยาระบายเพื่อควบคุมน้ำหนัก แม้น้ำหนักตัวจะอยู่ที่ 69 กิโลกรัม ซึ่งไม่ถือว่าอ้วนมาก แต่เธอกลับรู้สึกอับอายและไม่พอใจในรูปร่างตัวเอง

กรณีนี้แพทย์วินิจฉัยว่าเธอเป็นโรค “บิง อีตติ้ง ดิสออร์เดอร์” (Binge Eating Disorder) หรือภาวะกินมากผิดปกติ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของโรคการกิน

โรคการกินผิดปกติคืออะไร?

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาล Bạch Mai อธิบายว่า “โรคการกินผิดปกติ” เป็นภาวะทางจิตที่เกี่ยวข้องกับความวิตกกังวลเรื่องรูปร่าง น้ำหนัก และอาหารอย่างรุนแรง ส่งผลให้ผู้ป่วยมีพฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสม

โรคนี้มีหลายประเภท เช่น

  • Anorexia Nervosa: ควบคุมอาหารอย่างรุนแรง จนผอมเกินไป
  • Binge Eating Disorder: กินอาหารมากเกินควบคุม
  • Bulimia Nervosa: กินมากแล้วพยายามล้างออก เช่น อาเจียน ใช้ยาระบาย

ปัจจัยเสี่ยงที่กระตุ้นให้เกิดโรค ได้แก่ พันธุกรรม ความไม่สมดุลของสารเคมีในสมอง ความเครียด การเปรียบเทียบรูปร่างกับคนอื่น รวมถึงอิทธิพลจากโซเชียลมีเดีย

สัญญาณเตือนโรคการกินผิดปกติ

  • น้ำหนักลดหรือเพิ่มอย่างรวดเร็วโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • กินแล้วอาเจียน หรือออกกำลังกายทันทีหลังมื้ออาหาร
  • กินอาหารปริมาณมากในเวลาสั้น ๆ แล้วรู้สึกผิด
  • วิตกกังวลเรื่องรูปร่างมากเกินไป
  • เลี่ยงการกินอาหารร่วมกับผู้อื่น
  • มีประจำเดือนขาดหรือไม่ปกติในผู้หญิง
  • อ่อนแรง ผมร่วง ผิวแห้ง อารมณ์แปรปรวน

วิธีการรักษาและคำแนะนำจากแพทย์

การรักษาโรคการกินผิดปกติต้องอาศัยความร่วมมือหลายด้าน ทั้งจิตบำบัด การใช้ยา และการติดตามอาการในระยะยาว เพราะผู้ป่วยมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้

แพทย์แนะนำให้ผู้ปกครองสังเกตพฤติกรรมของบุตรหลาน หากพบความผิดปกติ เช่น น้ำหนักเปลี่ยนแปลงเร็ว พฤติกรรมกินแปลกไป หรือมีอารมณ์แปรปรวน ควรพาไปพบผู้เชี่ยวชาญทันที

การออกกำลังกายและดูแลสุขภาพเป็นเรื่องดี แต่หากมากเกินไป โดยเฉพาะในวัยรุ่น อาจนำไปสู่โรคการกินผิดปกติที่ส่งผลต่อทั้งร่างกายและจิตใจ กรณีเด็กนักเรียนหญิงในเวียดนามที่ออกกำลังกายวันละ 2–3 ชั่วโมงร่วมกับการอดอาหาร เป็นตัวอย่างของผลกระทบจากพฤติกรรมสุดโต่งที่ต้องระวัง

การดูแลใส่ใจจากครอบครัวและการให้ความรู้เรื่องการมีสุขภาพดีแบบสมดุล จึงเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันโรคเหล่านี้

กินดึก vs นอนหลับท้องว่าง อะไรอันตรายกว่า? ผู้เชี่ยวชาญชี้ความจริง ควรอดหรือควรกิน!

กินดึก vs นอนหลับท้องว่าง อะไรอันตรายกว่า? ผู้เชี่ยวชาญชี้ความจริง ควรอดหรือควรกิน!

หิวก่อนนอน... ควรอดหรือควรกิน? การเข้านอนขณะหิว หรือกินอาหารตอนกลางคืน อะไรเป็นอันตรายมากกว่ากัน?

5 อาหาร \

5 อาหาร "แป้งทนย่อย" แป้งที่ดีต่อสุขภาพ อิ่มนาน ลดเสี่ยงเบาหวาน เป็นมิตรต่อลำไส้

5 อาหาร "แป้งทนย่อย" แป้งที่ดีต่อสุขภาพ อิ่มนาน คุมน้ำหนัก คุมน้ำตาล ลดเสี่ยงเบาหวาน และเป็นมิตรต่อลำไส้