เนื้อหาในหมวด ข่าว

โจรบุกพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ขโมยเครื่องประดับ 9 ชิ้น ประเมินค่าไม่ได้ ใช้เวลาแค่ 7 นาที

โจรบุกพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ขโมยเครื่องประดับ 9 ชิ้น ประเมินค่าไม่ได้ ใช้เวลาแค่ 7 นาที

โจรบุกพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ กลางกรุงปารีส ขโมยสมบัติล้ำค่า 9 ชิ้น ประเมินค่าไม่ได้ วางแผนมาอย่างดีใช้เวลาแค่ 7 นาที

วันที่ 19 ตุลาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุโจรกรรมครั้งใหญ่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum) ใจกลางกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อกลุ่มคนร้าย 4 คนใช้รถกระเช้ายกตัวขึ้นไปทางหน้าต่างของอาคาร ก่อนบุกเข้าไปทุบตู้จัดแสดงและขโมยอัญมณีภายในเวลาเพียง 7 นาที ตามคำกล่าวของรัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศส

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ต้องปิดทำการตลอดทั้งวัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกันพื้นที่และปิดกั้นนักท่องเที่ยว เพื่อดำเนินการตรวจสอบเหตุการณ์อย่างละเอียด โดย ราชิดา ดาติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมของฝรั่งเศส ยืนยันผ่านแพลตฟอร์ม X ว่าเกิดเหตุปล้นขึ้นจริงในช่วงเช้า พร้อมระบุว่า การปิดทำการครั้งนี้เกิดจากเหตุผลพิเศษ และไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

บุกทุบกระจกขโมยของใน 7 นาที หนีด้วยมอเตอร์ไซค์

กระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสเปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 09.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น คนร้ายบุกเข้าไปในอาคารผ่านหน้าต่าง ใช้เครื่องมือทุบกระจกและขโมยอัญมณีจากตู้จัดแสดง ก่อนจะหลบหนีไปด้วยยานพาหนะสองล้อ เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์กำลังเก็บหลักฐานและตรวจสอบรายการทรัพย์สินที่สูญหาย ซึ่งถูกระบุว่ามี “คุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่ประเมินไม่ได้”

โลรองต์ นูเญซ รัฐมนตรีมหาดไทย กล่าวว่าการโจรกรรมครั้งนี้ถือเป็น “การปล้นครั้งใหญ่” โดยคนร้ายใช้รถกระเช้าขึ้นทางด้านนอก และใช้เครื่องตัดเหล็กเปิดทางเข้ามาภายในหอศิลป์กาลารี ดาโปลอง (Galerie d’Apollon) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาคารเดอนง (Denon Wing) ที่ใช้จัดแสดงเครื่องราชกกุธภัณฑ์ของฝรั่งเศส ใต้เพดานที่ตกแต่งอย่างวิจิตรในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14

เป้าหมาย “เครื่องประดับจักรพรรดินโปเลียน–จักรพรรดินีเออเฌนี”

รายงานจากสื่อฝรั่งเศส Le Parisien ระบุว่า คนร้ายบุกจากด้านที่ติดแม่น้ำแซน ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และใช้ลิฟต์ขนของขึ้นไปยังห้องจัดแสดง ก่อนจะทุบหน้าต่างและขโมยอัญมณี 9 ชิ้น จากคอลเลกชันเครื่องประดับของจักรพรรดินโปเลียนและจักรพรรดินีเออเฌนี โดยมีรายงานว่า หนึ่งในเครื่องประดับคือมงกุฎของจักรพรรดินี ถูกพบตกและแตกกระจายอยู่ด้านนอกพิพิธภัณฑ์

ชุดเครื่องประดับรายการสิ่งของที่สูญหาย รวมทั้งหมด 9 ชิ้น

ชุดจักรพรรดินีเออเฌนี (Empress Eugénie)

1. มงกุฎ (บางรายงานระบุว่าชิ้นนี้ถูกพบตกอยู่ด้านนอกพิพิธภัณฑ์) 
2. เข็มกลัด

ชุดจักรพรรดินีมารี หลุยส์ (Empress Marie-Louise)

3. สร้อยคอมรกต 
4. ต่างหูมรกต (1 คู่ 2 ชิ้น)

ชุดแซฟไฟร์ (Sapphire Set)

5. รัดเกล้า
6. สร้อยคอ 
7. ต่างหู (1 ข้าง)
8. เครื่องประดับอีกชิ้น (ยังไม่ระบุรายละเอียดแน่ชัดว่าเป็นอะไร)

แม้ผลงานชิ้นเอกอย่าง “โมนาลิซา” จะได้รับการปกป้องด้วยกระจกกันกระสุนและระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง แต่เหตุการณ์นี้กลับสร้างคำถามถึงประสิทธิภาพของระบบป้องกัน และจำนวนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หลังจากที่พนักงานเคยประท้วงหยุดงานเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาความแออัดและการขาดแคลนบุคลากร

ประวัติ “ลูฟวร์” เคยถูกขโมยโมนาลิซามาแล้ว

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เคยเกิดเหตุโจรกรรมหลายครั้ง โดยเหตุการณ์ที่โด่งดังที่สุดเกิดขึ้นในปี 1911 เมื่อภาพ “โมนาลิซา” ถูกอดีตพนักงานขโมยออกไปจากอาคาร ก่อนจะถูกพบอีกครั้งในเมืองฟลอเรนซ์ สองปีต่อมา ซึ่งทำให้ผลงานของเลโอนาร์โด ดา วินชี กลายเป็นงานศิลป์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกจนถึงทุกวันนี้

ปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์มีผลงานจัดแสดงกว่า 33,000 ชิ้น ครอบคลุมศิลปวัตถุจากอารยธรรมเมโสโปเตเมีย อียิปต์ กรีก โรมัน ไปจนถึงผลงานของศิลปินยุโรปชื่อดัง และมีนักท่องเที่ยวเข้าชมมากถึง 30,000 คนต่อวัน

ผู้เชี่ยวชาญเตือน “ของมีชื่อเสียงเกินกว่าจะขายได้”

อเล็กซ็องดร์ ฌีเกโล (Alexandre Giquello) ประธานบริหารของบ้านประมูลชื่อดัง “ดรูโอต์” (Drouot) ในปารีส กล่าวว่า เครื่องประดับที่ถูกขโมยไปนั้นมีชื่อเสียงมากจนไม่สามารถนำไปขายต่อได้จริง เพราะเป็นที่รู้จักทั่วโลก และถึงแม้คนร้ายจะรื้อแยกเพชรออกมาขายเป็นชิ้น ก็แทบไม่มีช่องทางจำหน่ายในตลาดมืด จึงขอให้ผู้ก่อเหตุคืนสมบัติอันทรงคุณค่าเหล่านี้โดยเร็วที่สุด

ย้อนรอย \

ย้อนรอย "คดีโมนาลิซา" ขโมยเขย่าโลก! โจรตะโกน "ยอมติดคุกเพื่อชาติ" เบื้องหลังสะเทือนใจ

ย้อนคดีขโมย "โมนาลิซ่า" เขย่าโลก! ปี 1911 โจรอิตาลีลักภาพจากลูฟวร์กลางวันแสกๆ อ้าง “ทำเพื่อชาติ”

ดูวินาที 2 นักเคลื่อนไหวสาดซุปใส่ภาพ \

ดูวินาที 2 นักเคลื่อนไหวสาดซุปใส่ภาพ "โมนาลิซา" ร้องสิทธิเข้าถึงอาหารแบบยั่งยืน (มีคลิป)

นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมบุกเข้าไปสาดซุปใส่ภาพ “โมนาลิซา” ที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ในกรุงปารีสของฝรั่งเศส เรียกร้องสิทธิการเข้าถึงอาหารแบบยั่งยืน