วิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์เทคโนโลยี DPU โชว์ผลงาน Bangkok Illustration Fair 2025

วิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์เทคโนโลยี DPU นำผลงานนักศึกษาดิจิทัลอาร์ตโชว์ศักยภาพบนเวที Bangkok Illustration Fair 2025 ชูแนวคิด “เรียนจริง–แสดงจริง–เชื่อมโลกวิชาชีพ”
 
วิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์เทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) โดย อาจารย์คมสันต์ สุขวิญญา หัวหน้าหลักสูตรปริญญาตรี สาขาอินเทอร์แอคทีฟดิจิทัลอาร์ต (ANT) นำนักศึกษาเข้าร่วมแสดงในงาน Bangkok Illustration Fair 2025 (BKKIF 2025) เทศกาลภาพประกอบที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดที่ centralwOrld PULSE ชั้น 7 ระหว่างวันที่ 23–26 ตุลาคม 2568 โดยปีนี้มีศิลปินจาก 16 ประเทศเข้าร่วมแสดงผลงาน พร้อมเปิดพื้นที่ให้นักศึกษาวิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์เทคโนโลยีได้ “สัมผัสโลกจริง” ของอุตสาหกรรมครีเอทีฟ ตั้งแต่การคัดเลือกงาน การจัดแสดง ไปจนถึงการนำเสนอผลงานต่อผู้ชมและมืออาชีพในแวดวง

อาจารย์คมสันต์ กล่าวว่า การเข้าร่วม BKKIF เป็น “จุดเริ่มต้นสำคัญ” ที่ทำให้ทั้งอาจารย์และนักศึกษาได้เชื่อมต่อกับแวดวงมืออาชีพ ได้รับคำแนะนำเชิงลึก และต่อยอดสู่โอกาสความร่วมมือใหม่ ๆ พร้อมย้ำปรัชญาหลักสูตรว่า จะไม่รอให้นักศึกษาเก่งก่อนแล้วค่อยโชว์ แต่เปิดเวทีตั้งแต่ปี 1 เพื่อให้นักศึกษาฝึก ลองผิดลองถูก เก็บประสบการณ์ และสร้างตัวตนตั้งแต่วันนี้

ไฮไลต์การเข้าร่วมของวิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์เทคโนโลยี คือการนำผลงานนักศึกษาหลายชั้นปี โดยคัดเลือกจากรายวิชาหลัก เช่น พื้นฐานการออกแบบ การออกแบบนิเทศศิลป์ ฯลฯ ครอบคลุม ปี 1–ปี 3 (หลักสูตรเปิดใหม่ ปัจจุบันมี 3 ชั้นปี) , ระบบหมุนเวียนผู้แสดงผลงาน โดยนักศึกษาสลับมานำเสนอด้วยตนเองตลอด 4 วัน เพื่อฝึกการสื่อสาร การตอบคำถาม และการรับฟีดแบ็กหน้างาน , ธีมบูธชัดเจน สื่อสารอัตลักษณ์ “ดิจิทัล + อาร์ต” ผ่าน โทนสีส้ม และงานภาพประกอบ/ดิจิทัลอาร์ต เป็นแกนหลัก เพื่อให้ผู้เข้าชมจดจำแบรนด์ของหลักสูตรได้ชัด และเปิดเครือข่ายมืออาชีพโดยได้แลกเปลี่ยนนามบัตรและคอนแทคกับศิลปินหลากแขนง ทั้งสายภาพประกอบและ Art Toy วางฐานต่อยอดความร่วมมือ

โดยกระบวนการคัดเลือกและพัฒนางาน ผลงานถูกคัดจากการแอสไซน์เมนต์ในรายวิชา โดยอาจารย์ผู้สอนร่วมพิจารณา พร้อมกำหนดเงื่อนไขว่า “ผู้สร้างต้องเป็นผู้นำเสนอผลงานเอง” เพื่อฝึกความมั่นใจและทักษะพรีเซนต์ ซึ่งเป็นสมรรถนะจำเป็นของนักสร้างสรรค์ยุคใหม่

“วันนี้การวาดภาพให้ ‘สวย’ ไม่พออีกต่อไป สิ่งที่ทำให้คน ‘จดจำ’ คือ เรื่องเล่า (Storytelling) และแนวคิด (Concept) ที่แข็งแรง เราจึงผลักดันให้นักศึกษาฝึกเล่าตัวตนและความหมายของงานให้สื่อสารได้ชัด” อาจารย์คมสันต์ กล่าว

นอกจากนี้หัวหน้าหลักสูตรปริญญาตรี สาขาอินเทอร์แอคทีฟดิจิทัลอาร์ต (ANT) ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่นักศึกษาได้เรียนรู้ คือ Mindset ใหม่ต่อ “งานเรียน” จากเดิมที่ทำเพื่อคะแนน เปลี่ยนเป็นงานที่ต่อยอดอนาคต สร้างพอร์ต สร้างโอกาสจริง , Soft Skills สำคัญ ได้แก่ การฝึกการสื่อสาร–การนำเสนอ โดยเฉพาะนักศึกษาที่เป็น Introvert ให้กล้าพูดคุยกับผู้ชมและมืออาชีพ , รับฟีดแบ็กคุณภาพ ได้คำแนะนำตรงจากผู้ชมและศิลปินรุ่นใหญ่ ทั้งจุดแข็ง–จุดที่ควรปรับปรุง เพื่อนำกลับมาพัฒนาหลักสูตรและงานของตน และมุมมองธุรกิจครีเอทีฟ เข้าใจข้อจำกัดต้นทุน–กำลังผลิต การแปลงงานคอนเซ็ปต์สู่สินค้า เช่น โปสเตอร์/Art Toy และแนวทางทำแผน–เพื่อชนะบนกระดาษ ก่อนหาพันธมิตร เพื่อสะสมเงินทุน และเพื่อการผลิต

อาจารย์คมสันต์ ยังกล่าวอีกว่า ก้าวต่อไปทางทีมอาจารย์และนักศึกษาวางเป้าหมายพัฒนา Art Toy และสินค้าที่แตกไลน์จากงานภาพประกอบ โดยมองตั้งแต่ต้นทุน–การผลิตจำนวนมาก (Mass Production) มาตรฐานการลงสี/งานประกอบ กลยุทธ์การตลาด–คอนเทนต์–Storytelling ของแบรนด์ และสื่อหน้างาน เช่น นามบัตรงาน/ QR Code โปรไฟล์ศิลปิน เพื่อให้ผู้ชมติดตามต่อหลังนิทรรศการ

“เราจะไม่หยุดแค่ ‘โชว์’ แต่อยากพาเด็กไปถึงขั้น แปลงผลงานเป็นสินค้า หาตลาดได้จริง หลักสูตรจะสอนตั้งแต่การวางแผน กลยุทธ์คอนเทนต์ ไปจนถึงการจับมือผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิต” อาจารย์คมสันต์ กล่าวทิ้งท้าย

หนึ่งในนักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาดิจิทัลอาร์ต วิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์เทคโนโลยี DPU  นางสาววิลาสินี งามสม หรือ น้องเปาเปา ที่นำผลงาน“DADA” และ “D&D Character Design” ไปโชว์ในงานดังกล่าว เล่าว่า ผลงาน “DADA” ได้แรงบันดาลใจจากคำว่า Digital Art ที่นำอักษร D และ A มาดัดแปลงเป็นสัญลักษณ์ของ “ต่างหูสองข้าง” และแรงบันดาลใจจากขบวนการศิลปะ Dadaism โดยโทนสีหลักใช้สีส้มและสีเงิน เพื่อสื่อถึงพลังสร้างสรรค์และเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งผลงานนี้คว้ารางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ของสาขาดิจิทัลอาร์ตในการประกวดภายในคณะ และอีกชิ้นคือ “D&D Character Design” ออกแบบตัวละครชื่อ “หลี่หยวน” ได้รับแรงบันดาลใจจากเกมแฟนตาซีชื่อดัง Dungeons & Dragons (D&D) ถ่ายทอดภาพไซเรนหญิงผู้ทรงพลัง แข็งแกร่ง และมีเสน่ห์ลึกลับ แม้จะเป็นตัวละคร “ตัวร้าย” แต่กลับสะท้อนความซับซ้อนทางอารมณ์ของมนุษย์ได้อย่างน่าสนใจ

นางสาววิลาสินี ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ตนชื่นชอบการวาดภาพที่สื่อถึงความมั่นใจและการเป็นตัวของตัวเอง ต้องการให้ผู้ชมรู้สึกถึงพลังบวกและแรงบันดาลใจจากผลงานของตน การได้เข้าร่วมจัดแสดงผลงานในงานระดับนานาชาติอย่าง BKKIF 2025 ถือเป็นประสบการณ์ที่มีค่ามาก 

ขณะที่ นายธนภัทร ปวรรณพงษ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาดิจิทัลอาร์ต วิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์เทคโนโลยี DPU เจ้าของผลงาน “Dahlia Ashwood” ได้ถ่ายทอดแนวคิดศิลปะเข้ากับมุมมองต่ออาชีพศิลปินยุคใหม่ ผ่านคาแรกเตอร์ที่มีแรงบันดาลใจจากคำว่า Digital Art และดอกไม้ “Dahlia” ที่หมายถึงความแข็งแกร่งและความคิดสร้างสรรค์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Punk & Rebellious” เพื่อสื่อสารว่าศิลปะสามารถเป็นอาชีพได้จริง ไม่ใช่เพียงงานอดิเรก โดยผลงานดังกล่าวยังถูกนำไปต่อยอดเป็นสติ๊กเกอร์และโลโก้ประจำสาขา เพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมภายในงานอีกด้วย พร้อมย้ำว่า การได้เข้าร่วมงานศิลปะระดับนานาชาติครั้งนี้ เป็นประสบการณ์ที่ได้พบปะและแลกเปลี่ยนมุมมองกับศิลปินหลายคนที่มีสไตล์คล้ายกัน อีกทั้งยังเป็นเหมือนใบเบิกทางในการก้าวสู่เส้นทางศิลปินอาชีพ

ด้านนางสาวธันยชนก กลางประพันธ์ หรือน้องเนเน่ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาดิจิทัลอาร์ต วิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์เทคโนโลยี DPU บอกว่า ตนได้รับคัดเลือกให้นำผลงานคาแรกเตอร์ดีไซน์ 2 ชิ้น เข้าร่วมแสดงในงาน ได้แก่ “น้องบุ๋มบิ๋ม” หรือ “น้องชิมเมอร์” ที่ออกแบบให้มีบุคลิกน่ารัก สดใส และมีพลังสร้างสรรค์ โดยได้แรงบันดาลใจจากภาพจำของ “น้องเล็กแห่งความคิดสร้างสรรค์” ผสมกับลวดลายของ “ลูกเสือ” ที่สื่อถึงความแข็งแกร่งกล้าคิดกล้าทำ  โดยผลงานนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 3 ในการแข่งขันออกแบบคาแรคเตอร์ประจำสาขาดิจิทัลอาร์ต ส่วนผลงานอีกชิ้น “เซเรฟิน่า” เป็นคาแรกเตอร์แนวแฟนตาซีจากคอนเซ็ปต์เกม Dungeons & Dragons (D&D) โดยผลงานนี้ได้รับรางวัลชมเชยในการจัดการแข่งขันภายใน

ด้านนางสาวศุภสรา ก้านแก้ว หรือ “น้องเอแคร์” นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาดิจิทัลอาร์ต วิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์เทคโนโลยี DPU กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้มีโอกาสนำผลงานของตนเองไปร่วมจัดแสดงในงาน BKKIF 2025 เพราะไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่างานที่สร้างขึ้นระหว่างเรียนจะได้เผยแพร่ต่อสาธารณะ ถือเป็นประสบการณ์ที่จะช่วยเพิ่มทั้งความมั่นใจและแรงบันดาลใจในการพัฒนาฝีมือต่อไปในสายศิลปะ

สำหรับผลงานที่นำไปจัดแสดงคือชื่อ “Serila” ผลงานจากเวิร์กชอปในสาขา ซึ่งสร้างสรรค์ด้วยเทคนิคดิจิทัลเพนต์ติ้ง โดยมีแรงบันดาลใจจากนิยายแนวดันเจี้ยนและตัวละครหญิงในโลกแฟนตาซี “Serila” ถูกออกแบบให้มีบุคลิกเย็นชา แข็งแกร่ง เต็มไปด้วยพลังลึกลับ โดยถือกำเนิดจาก “พลังแห่ง Abyss” หรือพลังแห่งความมืดในตำนาน พร้อมใช้หลัก “สัดส่วนทองคำ” ในการจัดองค์ประกอบ เพื่อสร้างความสมดุลและความโดดเด่นให้กับภาพ