กินซุปผักเพื่อสุขภาพทุกวัน น้ำตาลในเลือดพุ่งปรี๊ด นักโภชนาการลั่น มันคือแป้ง!
นักโภชนาการเตือน! “ฟักทองไม่ใช่ผัก” ดื่มซุปฟักทองทุกวัน เสี่ยงน้ำตาลพุ่ง
ใกล้ถึงช่วงฮาโลวีน หลายคนอาจเห็นฟักทองน่ารักประดับทั่วเมือง แต่รู้หรือไม่ว่า “ฟักทอง” ที่หลายคนคิดว่าเป็นผักสุขภาพดีนั้น จริง ๆ แล้วจัดอยู่ในกลุ่มคาร์โบไฮเดรต ไม่ใช่ผัก!
นักโภชนาการชาวไต้หวัน เกา หมินหมิน (Gao Minmin) ออกมาเตือนว่า หากกินผิดวิธี โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งได้
ดื่มซุป “ผัก” ทุกวัน แต่สุดท้ายค่าน้ำตาลพุ่ง
เกา หมินหมิน เล่าว่า เธอเคยพบผู้สูงอายุรายหนึ่งที่มาปรึกษาในคลินิก เพราะแม้จะดื่ม “ซุปผัก” ทุกวัน แต่ค่าน้ำตาลในเลือดยังสูงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อตรวจสอบพบว่า ซุปที่คุณตาทำดื่มเองทุกวันนั้น ใช้ “ฟักทองทั้งลูก” ต้มจนหมดหม้อแล้วดื่มคนเดียว ทำให้ค่า HbA1c (ค่าความเข้มข้นของน้ำตาลสะสมในเลือด) พุ่งถึงระดับ 8 ซึ่งถือว่าเกินเกณฑ์สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

ฟักทอง = คาร์โบไฮเดรต ไม่ใช่ผัก
เธออธิบายว่า ฟักทองเป็น “คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน” ที่มีไฟเบอร์สูง ไม่ใช่ผักใบเขียว แม้จะไม่ใช่ผัก แต่ฟักทองก็มีประโยชน์มาก หากกินในปริมาณเหมาะสม และใช้แทนอาหารจำพวกข้าวหรือเส้นบางส่วน จะช่วยให้ได้สารอาหารครบถ้วนโดยไม่ทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่ง
คุณค่าทางโภชนาการของฟักทอง
- เบต้าแคโรทีน และวิตามิน A : บำรุงสายตาและผิวพรรณ
- โพแทสเซียม : ควบคุมความดันโลหิตและลดอาการบวมน้ำ
- วิตามิน E และ C : ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เสริมภูมิคุ้มกัน
- สังกะสีในเมล็ดฟักทอง : บำรุงสุขภาพต่อมลูกหมากในผู้ชาย
ฟักทองของดี ถ้ากินถูกวิธี
เกา หมินหมิน ย้ำว่า ฟักทองถือเป็น “ราชาแห่งโภชนาการ” ที่ให้พลังงานดีและมีคุณค่ามาก แต่หากกินมากเกินไป หรือเข้าใจผิดว่าเป็นผัก อาจกลายเป็นภัยได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน ควรควบคุมปริมาณและหลีกเลี่ยงการดื่มซุปฟักทองจำนวนมาก เพราะอาจทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งโดยไม่รู้ตัว
สรุปง่าย ๆ : ฟักทองมีประโยชน์ แต่ควรกิน “พอดี” และเข้าใจว่ามันคือแหล่งคาร์โบไฮเดรต ไม่ใช่ผัก เพื่อให้สุขภาพดีได้อย่างสมดุล
