เนื้อหาในหมวด ข่าว

อาจไม่ใช่แค่ผิวแห้ง! หมอเตือน \

อาจไม่ใช่แค่ผิวแห้ง! หมอเตือน "คันทั้งตัว" แต่ไม่มีผื่น สัญญาณผิดปกติจากภายในที่คนมักมองข้าม

“คันทั้งตัว” ไม่มีผื่น สัญญาณเงียบจากร่างกายฟ้องมีบางอย่างผิดปกติ! หมอเจดเผย 5 จุดต้องระวัง พร้อมแนะวิธีดูแล

อาการคันตามร่างกายโดยที่ไม่พบผื่นใดๆ อาจไม่ใช่เพียงปัญหาผิวหนังแห้งอีกต่อไป แต่เป็น “สัญญาณเงียบ” ที่บ่งบอกว่าตับกำลังเริ่มทำงานผิดปกติ ตามคำเตือนของ นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ หรือ หมอเจด รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญนี้ผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว สำหรับผู้ที่มีอาการคันเรื้อรังโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มที่มีไขมันสูง พักผ่อนน้อย หรือมีพฤติกรรมการกินที่ทำร้ายตับ ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง

โดยอาการคันนี้มักเกิดจากการที่น้ำดีสะสมในเลือดมากเกินไป เนื่องจากตับไม่สามารถระบายออกได้ตามปกติ ทำให้เกลือน้ำดีไปสะสมใต้ผิวหนังและกระตุ้นเส้นประสาทได้ หมอเจด ได้เน้นย้ำว่าการคันที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของตับ มักมีลักษณะที่แตกต่างจากการคันตามผิวหนังทั่วไป ดังนั้นเรามาตรวจสอบกันว่าอาการคันแบบใดบ้างที่ถือเป็นสัญญาณเตือนจากตับที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

5 สัญญาณสำคัญที่บอกว่าตับเริ่มมีปัญหา

อาการคันที่มาจากปัญหาตับทำงานผิดปกติ มักมีลักษณะร่วมกับอาการอื่นๆ ที่ควรสังเกตอย่างใกล้ชิด โดยอาการเหล่านี้บ่งชี้ถึงความจำเป็นในการดูแลสุขภาพตับอย่างเร่งด่วน การทราบสัญญาณเตือนเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ทันท่วงที

  • คันทั้งตัว โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืน: อาการคันที่ลามไปทั่วร่างกาย หาสาเหตุจากผิวหนังไม่ได้ มักเกิดจากน้ำดีคั่ง ทำให้รู้สึกคันลึกๆ และเรื้อรัง อาการนี้เป็นสัญญาณที่พบบ่อยในผู้ที่มีภาวะไขมันพอกตับหรือมีความผิดปกติของท่อน้ำดี
  • คันตามฝ่ามือ–ฝ่าเท้า: หากมีอาการคันจี๊ดๆ เฉพาะบริเวณฝ่ามือและฝ่าเท้า ซึ่งเป็นบริเวณที่มีปลายประสาทจำนวนมาก อาจเป็นผลจากการสะสมของน้ำดีและสารพิษในระดับสูง หากมีอาการคลื่นไส้ เหนื่อยง่าย หรือตาเหลืองร่วมด้วย ควรรีบไปตรวจสุขภาพตับโดยด่วน
  • ไขมันสูง และน้ำหนักขึ้นง่าย: การที่ระดับไขมันเลวและไตรกลีเซอไรด์สูง เป็นภาระหนักของตับ ซึ่งนำไปสู่ภาวะตับอักเสบและการคั่งของน้ำดีได้ ผู้ที่มีอาการคันผิวเรื้อรังร่วมกับการมีพุงลงยากและอ่อนเพลีย คือสัญญาณว่าตับต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
  • อ่อนเพลีย ท้องอืด และแน่นท้องง่าย: เมื่อตับจัดการไขมันและสารพิษได้ไม่ดี อาจทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลง นำไปสู่อาการแน่นท้องและอ่อนเพลียได้ง่าย แม้จะดูเหมือนเป็นเพียงอาการอาหารไม่ย่อย แต่แท้จริงแล้วคือสัญญาณที่ระบบขับพิษของร่างกายเริ่มช้าลง
  • อุจจาระสีซีด สีเทา หรือมีคราบน้ำมันลอย: นี่คือสัญญาณที่ชัดเจนของการไหลเวียนน้ำดีที่ผิดปกติ เนื่องจากน้ำดีมีความสำคัญต่อการย่อยไขมันและการกำหนดสีของอุจจาระ หากตับระบายน้ำดีไม่ได้ ไขมันจะย่อยไม่สมบูรณ์ ทำให้อุจจาระเป็นสีซีดหรือมีคราบมัน หากพบอาการนี้ร่วมกับอาการคันเรื้อรัง ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจตับและระบบทางเดินน้ำดี

วิธีดูแลสุขภาพตับให้กลับมาแข็งแรง

การฟื้นฟูสุขภาพตับไม่จำเป็นต้องซับซ้อน เพียงแค่ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เน้นการลดภาระให้กับตับ พร้อมทั้งเพิ่มสารอาหารที่ดีและจำเป็นให้แก่ร่างกาย การเปลี่ยนแปลงอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลา 4–8 สัปดาห์ จะสามารถช่วยให้อาการต่างๆ ค่อยๆ ดีขึ้นได้อย่างชัดเจน

หลักการสำคัญคือการลดตัวการที่ก่อให้เกิดการอักเสบและการสะสมไขมันในตับ และส่งเสริมกลไกการขับของเสียให้มีประสิทธิภาพขึ้น ดังนี้:

  • ลดน้ำตาล ของทอด และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์: สิ่งเหล่านี้คือตัวการหลักที่ก่อให้เกิดการอักเสบและไขมันพอกตับ
  • กินผักหลากสีและโปรตีนพอเพียง: ผักช่วยในการขับสารพิษ ส่วนโปรตีนช่วยในการซ่อมแซมและลดไขมันในตับ
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ช่วยสนับสนุนให้ระบบการขับของเสียของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น
  • ควบคุมไขมันและน้ำหนัก: การลดน้ำหนักตัวจะช่วยให้การไหลเวียนของน้ำดีดีขึ้น และลดอาการคัน
  • นอนหลับให้พอและจัดการความเครียด: ตับจะฟื้นฟูตัวเองได้ดีที่สุดในช่วงที่เราหลับ การนอนหลับที่มีคุณภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก

หากมีอาการคันทั้งตัวโดยไม่มีผื่น อาจเป็นสัญญาณเตือนจากตับที่ต้องการการดูแล การเริ่มต้นปรับพฤติกรรมวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการกินดี นอนพอ และลดของหวาน มัน แอลกอฮอล์ จะช่วยให้ตับดีขึ้น อาการคันลดลง และสุขภาพโดยรวมกลับมามีพลัง

  • เฟซบุ๊กเพจ หมอเจด
  • หวยลาววันนี้ 24 พฤศจิกายน 2568 ผลหวยลาววันนี้ ออกอะไร

    หวยลาววันนี้ 24 พฤศจิกายน 2568 ผลหวยลาววันนี้ ออกอะไร

    ลุ้นผลหวยลาววันนี้ 24/11/68 ถ่ายทอดสดหวยลาว หวยลาวล่าสุด หวยลาวพัฒนา 24 พฤศจิกายน 2568 หวยลาวย้อนหลัง หวยลาว 6 ตัว วันนี้ออกอะไร งวด 24 พฤศจิกายน 2568 Laolottery หวยลาว ออกรางวัลทุก วันจันทร์ วันพุธ และ วันศุกร์