รู้จัก 'นิ่วในถุงน้ำดี' แท้จริงเกิดจากอะไร? บอกเลย "สายบุฟเฟต์" มีสะดุ้ง!
นิ่วในถุงน้ำดี โรคยอดฮิตจากคอเลสเตอรอลตัวร้าย สายบุฟเฟต์กินดุ อาหารไขมันสูง ระวัง จบที่ผ่าตัด!
นิ่วในถุงน้ำดีคืออะไรและเกิดจากอะไร
ถุงน้ำดีเป็นอวัยวะเล็กใต้ตับ ทำหน้าที่เก็บและปล่อยน้ำดีเพื่อย่อยไขมัน เมื่อน้ำดีมีความไม่สมดุลของส่วนประกอบ เช่น คอเลสเตอรอลสูงหรือมีบิลิรูบินมาก ก็อาจตกตะกอนและก่อตัวเป็นนิ่วได้ ก้อนนิ่วอาจมีขนาดตั้งแต่เล็กเท่าเม็ดทรายจนถึงขนาดใหญ่และอาจมีหลายก้อนในถุงน้ำดีเดียวกัน ซึ่งโรคนิ่วในถุงน้ำดีที่พบบ่อยที่สุดเกิดจากคอเลสเตอรอล สะท้อนจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่มีผลโดยตรง
ดังนั้นจึงเป็นโรคอันตรายร้ายแรงถึงชีวิตได้หากไม่รีบรักษา คนไข้หลายรายเมื่อเป็นแล้วไม่พบแพย์มักเข้าใจว่าเป็นโรคกระเพาะจึงหายามารับประทานเอง กระทั่งอาการรุนแรงมารักษาก็เมื่ออาการหนักแล้ว
ปัจจัยเสี่ยงและพฤติกรรมที่เพิ่มโอกาสเป็น
- อายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่อายุมากกว่า 40 ปี
- ภาวะอ้วนหรือมีน้ำหนักเกิน เพศหญิงมีความเสี่ยงสูงกว่า
- ผู้หญิงที่รับประทานยาคุมกำเนิด หรือฮอร์โมนทดแทน
- ผู้ที่ลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว
- ชอบรับประทานบุฟเฟต์ อาหารไขมันสูง และไฟเบอร์ต่ำ
- ผู้มีมีประวัติครอบครัวเป็นนิ่ว หรือมีโรคที่ทำให้มีบิลิรูบินเพิ่ม เช่น ภาวะโลหิตจางชนิดเรื้อรัง ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องระวัง
อาการที่พบบ่อยเมื่อเกิดปัญหา
หลายคนมีนิ่วแต่ไม่แสดงอาการ (silent gallstones) หรืออาจเริ่มมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน, ท้องอืด ท้องเฟ้อ, อาหารไม่ย่อย แต่เมื่อก้อนนิ่วอุดท่อหรือทำให้ถุงน้ำดีอักเสบ จะมีอาการปวดแน่นบริเวณชายโครงขวาหรือกลางท้อง มักเริ่มหลังรับประทานอาหารมันและอาจร้าวไปที่ไหล่หรือด้านหลัง หากมีการติดเชื้อหรืออุดตันรุนแรง อาจมีไข้ ตัวหรือผิวหนังเหลือง และคลื่นไส้อาเจียน
การตรวจวินิจฉัยที่แพทย์ใช้
การตรวจแบบมาตรฐานคืออัลตราซาวด์ช่องท้อง ซึ่งสามารถเห็นนิ่วในถุงน้ำดีได้ชัดเจน แพทย์อาจสั่งตรวจเลือดเพื่อตรวจการทำงานของตับและสัญญาณการอักเสบ ในกรณีสงสัยนิ่วในท่อน้ำดีหรือภาวะแทรกซ้อน อาจใช้การตรวจเพิ่มเติมเช่น CT, MRI หรือการส่องกล้อง ERCP เพื่อประเมินและรักษา
แนวทางการรักษา
หากนิ่วไม่ก่ออาการ แพทย์มักแนะนำให้เฝ้าติดตามและปรับพฤติกรรม แต่ถ้ามีอาการปวดซ้ำหรือภาวะแทรกซ้อน มาตรฐานการรักษาที่ใช้บ่อยคือการผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออกโดยการส่องกล้อง (laparoscopic cholecystectomy) ซึ่งฟื้นตัวเร็วและลดโอกาสเกิดซ้ำ ในบางกรณีที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ อาจพิจารณายาละลายนิ่ว หรือการใช้วิธีสลายนิ่วด้วยคลื่นกระแทก แต่มีข้อจำกัดและโอกาสกลับมาเกิดใหม่ได้
หากสงสัยควรทำอย่างไร
หากมีอาการปวดแน่นบริเวณชายโครงขวาหลังรับประทานอาหารมัน หรือมีอาการไข้ร่วมกับตัวเหลือง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจอัลตราซาวด์และตรวจเลือด การวินิจฉัยเร็วช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น ถุงน้ำดีอักเสบ ท่อน้ำดีอุดตัน หรือเยื่อบุช่องท้องติดเชื้อ
วิธีป้องกันสำหรับผู้ที่เริ่มเสี่ยง
การปรับพฤติกรรมเป็นหัวใจของการป้องกัน คือควบคุมและลดน้ำหนักอย่างช้า ๆ และสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการอดอาหารหรือการลดน้ำหนักเร็วเกินไป รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูงและไขมันพอเหมาะ รวมถึงออกกำลังกายเป็นประจำ นอกจากนี้ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงควรตรวจสุขภาพเป็นระยะและปรึกษาแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ.
สรุป
นิ่วในถุงน้ำดี เป็นภาวะที่พบได้บ่อยและมักไม่มีอาการในระยะแรก แต่สามารถพัฒนาเป็นอาการปวดหรือภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้หากนิ่วอุดท่อ การตรวจอัลตราซาวด์เป็นวิธีที่ใช้บ่อยในการวินิจฉัย และการผ่าตัดส่องกล้องเป็นแนวทางรักษามาตรฐานสำหรับผู้ที่มีอาการ การปรับพฤติกรรมด้านอาหารและการออกกำลังกายช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อ้างอิง