เนื้อหาในหมวด ข่าว

เผยเมล็ดพืช “เล็กแต่ทรงพลัง” ดีท็อกซ์ตับจากธรรมชาติ ไทยหากินง่าย มีขายทุกตลาด!

เผยเมล็ดพืช “เล็กแต่ทรงพลัง” ดีท็อกซ์ตับจากธรรมชาติ ไทยหากินง่าย มีขายทุกตลาด!

"ถั่วเขียว" ล้างพิษตับ เมล็ดพืชเล็กแต่เด็ด ยาแก้พิษธรรมชาติ ราคาย่อมเยา

มีเมล็ดพืชชนิดหนึ่งที่ถูกยกให้เป็นเหมือน “ยาแก้พิษธรรมชาติของตับ” แถมยังเป็นวัตถุดิบคุ้นเคยในครัวเอเชีย รวมถึงหาซื้อได้ง่ายตามตลาดทั่วไป นั่นคือ ถั่วเขียว ซึ่งสามารถนำไปต้มดื่ม ทำโจ๊ก หรือทำของหวานก็ล้วนดีต่อตับทั้งสิ้น ถั่วเขียวล้างพิษตับ จึงกลายเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยดูแลสุขภาพที่ประหยัดและใกล้ตัวมากกว่าที่คิด

ตับเป็นอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่เผาผลาญและขับสารพิษออกจากร่างกาย เพื่อให้ระบบต่างๆ ทำงานได้ตามปกติ นอกจากการหลีกเลี่ยงปัจจัยทำร้ายตับอย่างแอลกอฮอล์หรือการนอนดึกแล้ว การเลือกกินอาหารที่ช่วยเสริมการล้างพิษและปกป้องเซลล์ตับก็มีความสำคัญเช่นกัน ในมุมมองของแพทย์แผนจีนและงานวิจัยสมัยใหม่ ถั่วเขียวถูกยืนยันว่าเป็นหนึ่งในอาหารที่ช่วยถนอมตับได้อย่างมีเหตุผลรองรับ

ทำไมถั่วเขียวถูกเรียกว่า “ยาแก้พิษธรรมชาติ” ของตับ

ตามแนวคิดแพทย์แผนจีน ถั่วเขียวมีรสหวาน ออกฤทธิ์เย็น ช่วย ขับร้อน ขับพิษ และบำรุงตับ จึงนิยมใช้ต้มดื่มหรือทำเป็นขนมเพื่อช่วยคลายร้อนจากภายใน นอกจากนี้ ถั่วเขียวยังเป็นแหล่งใยอาหารและโปรตีนจากพืชที่ดี ช่วยเสริมการทำงานของตับโดยรวม เพราะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารเพียงพอโดยไม่เพิ่มภาระจากไขมันอิ่มตัวมากเกินไป

ในมุมของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ ถั่วเขียวอุดมไปด้วยสาร ฟลาโวนอยด์ และ โพลีฟีนอล ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่ค่อนข้างสูง สารเหล่านี้ช่วยลดภาวะเครียดออกซิเดชันในร่างกาย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เซลล์ตับเสื่อมและถูกทำลาย เมื่อภาระจากอนุมูลอิสระลดลง ถั่วเขียวล้างพิษตับจึงช่วยให้เซลล์ตับมีโอกาสฟื้นตัวและทำงานได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

มีข้อมูลจากงานวิจัยบางส่วนระบุว่า ถั่วเขียวอาจช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการขับพิษในตับ อีกทั้งใยอาหารที่มีอยู่มากในถั่วเขียวยังช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น ช่วยพาระบบของเสียและสารพิษส่วนหนึ่งออกจากร่างกายผ่านลำไส้ ลดภาระการจัดการสารพิษที่ตกค้างอยู่ในตับโดยอ้อม จึงยิ่งตอกย้ำภาพของถั่วเขียวในฐานะอาหารที่สนับสนุนการล้างพิษตับได้ดี

ข้อควรรู้เมื่อต้องการกินถั่วเขียวให้ดีต่อตับ

แม้ถั่วเขียวจะถูกมองว่าเป็นอาหารที่ดีต่อตับและเหมาะกับการล้างพิษ แต่ ดร.ซาง หยุน จากมณฑลซานตง ประเทศจีน เตือนว่า ถั่วเขียวมีคุณสมบัติเย็น (ธาตุเย็น) หากกินมากเกินไปหรือกินไม่เหมาะกับสภาพร่างกาย อาจกระทบระบบทางเดินอาหารได้ การใช้ถั่วเขียวล้างพิษตับให้ได้ประโยชน์จึงควรคำนึงทั้ง “วิธีจับคู่กับอาหารอื่น” และ “กลุ่มคนที่ต้องระวัง” ควบคู่กันไป

3 อาหารที่ควรกินคู่กับถั่วเขียว เพื่อเสริมผลดีต่อตับ

  • ถั่วแดง

    ในตำรายาแผนจีน ถั่วแดงมีรสหวานอมเปรี้ยว ธาตุค่อนข้างสมดุล ช่วยขับร้อน ขับพิษ บำรุงม้ามและกระเพาะ เมื่อนำถั่วแดงมาจับคู่กับถั่วเขียว จะยิ่งเสริมฤทธิ์กันทั้งในด้านรสชาติและการดูแลสุขภาพ สามารถนำถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วดำ และชะเอม (ในปริมาณที่เหมาะสม) มาต้มรวมกัน กินได้ทั้งน้ำและเนื้อ ช่วยแก้อาการกระหายน้ำ ขับพิษ ลดร้อนใน และช่วยขับปัสสาวะได้ดี

  • วุ้นว่านหางจระเข้

    ทั้งว่านหางจระเข้และถั่วเขียวต่างมีธาตุเย็นและช่วยเรื่องการขับร้อน ถ้าทำเป็นเมนูของหวาน เช่น ถั่วเขียวน้ำใสใส่วุ้นว่านหางจระเข้ จะได้ทั้งความสดชื่นและช่วยให้รู้สึกเบาตัวขึ้น วุ้นว่านหางจระเข้ที่กรุบกรอบเมื่อกินคู่กับถั่วเขียวล้างพิษตับและน้ำเชื่อมรสหวานอ่อนๆ จะช่วยเสริมการขับของเสียออกจากร่างกายได้ดีขึ้น

  • ฟักทอง

    เมนูที่ใช้ถั่วเขียวและฟักทอง เช่น โจ๊กฟักทองถั่วเขียว หรือขนมหวานถั่วเขียวฟักทอง มักถูกมองว่าเป็นอาหารช่วยลดภาวะร้อนในและช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือด ฟักทองเองก็เป็นแหล่งใยอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระ การกินสองอย่างนี้ร่วมกันอย่างเหมาะสมจึงอาจช่วยเสริมการล้างพิษและลดภาระต่อระบบเผาผลาญได้ ผู้ป่วยเบาหวานควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการก่อนปรับเมนูอาหาร

4 กลุ่มคนที่ไม่ควรกินถั่วเขียวมากเกินไป

แม้ถั่วเขียวจะดีต่อตับและถูกใช้เป็นอาหารช่วยล้างพิษ แต่ด้วยคุณสมบัติเย็นและมีใยอาหารสูงจึงไม่เหมาะกับทุกคน ดร.ซาง หยุน แนะนำว่า กลุ่มต่อไปนี้ควรหลีกเลี่ยงการกินถั่วเขียวในปริมาณมากหรือกินบ่อยเกินไป

  • คนที่กำลังหิวจัด

    การกินถั่วเขียวตอนท้องว่าง โดยเฉพาะในรูปแบบของเครื่องดื่มเย็นหรือของหวาน อาจกระตุ้นให้เกิดอาการท้องเย็น ปวดท้อง หรือไม่สบายท้องได้ เพราะธาตุเย็นของถั่วเขียวจะกระทบระบบย่อยอาหารโดยตรง ดังนั้นควรกินหลังมื้ออาหารเล็กน้อยจะเหมาะสมกว่า

  • ผู้ที่กำลังรับประทานยาสมุนไพรจีน

    ถั่วเขียวมีฤทธิ์ช่วยขับพิษและอาจไปลดหรือรบกวนฤทธิ์ของยาสมุนไพรจีนบางชนิด หากอยู่ระหว่างการรักษาด้วยยาจีน ควรหลีกเลี่ยงของหวานถั่วเขียวหรือเมนูที่มีถั่วเขียวในปริมาณมาก เพื่อลดโอกาสที่ตัวยาจะออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่

  • ผู้ที่มีปัญหาระบบทางเดินอาหาร

    เนื่องจากถั่วเขียวมีใยอาหารสูง คนที่มีระบบย่อยอาหารอ่อนแอ ลำไส้ไวต่อการระคายเคือง หรือมักมีอาการท้องอืด ท้องเฟ้ออยู่แล้ว อาจยิ่งมีอาการแน่นท้องหรือท้องอืดมากขึ้นหากกินถั่วเขียวจำนวนมาก ควรจำกัดปริมาณหรือปรึกษาแพทย์ก่อนหากต้องการใช้ถั่วเขียวล้างพิษตับเป็นระยะยาว

  • ผู้หญิงที่อยู่ในช่วงมีประจำเดือน

    ในช่วงมีประจำเดือน ร่างกายมักต้องการอาหารที่ให้ความอบอุ่นเพื่อช่วยดูแลมดลูกและลดอาการปวดท้อง ขณะที่ถั่วเขียวมีรสหวานและธาตุเย็น หากกินเมนูถั่วเขียวมากเกินไป เช่น ของหวานถั่วเขียวเย็น อาจทำให้อาการปวดท้องประจำเดือนรุนแรงขึ้นได้ ควรเลือกอาหารอุ่นๆ แทนในช่วงนี้

ถั่วเขียวล้างพิษตับได้ แต่ต้องกินให้เหมาะกับร่างกาย

ถั่วเขียวเป็นเมล็ดพืชเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ทั้งใยอาหาร โปรตีนจากพืช และสารต้านอนุมูลอิสระ จึงมีส่วนช่วยสนับสนุนการทำงานของตับและกระบวนการล้างพิษตามธรรมชาติของร่างกายได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม การใช้ถั่วเขียวล้างพิษตับให้ได้ประโยชน์สูงสุดจำเป็นต้องคำนึงถึงสภาพร่างกายของแต่ละคน ปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงการเลือกวิธีกินที่สมดุลกับธาตุของร่างกาย

การดูแลตับอย่างยั่งยืนไม่ควรพึ่งพาเพียงอาหารชนิดเดียว แต่ควรรวมถึงการหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ ลดอาหารมันจัด หวานจัด นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และตรวจสุขภาพเป็นระยะ ถั่วเขียวล้างพิษตับจึงควรถูกมองว่าเป็น “ผู้ช่วยเสริม” ที่ดี มากกว่าจะเป็นยาวิเศษ หากใช้ควบคู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เหมาะสม ก็จะยิ่งช่วยให้ตับแข็งแรงและทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในระยะยาว

 

รวมมาให้เลือกกิน! ถั่ว 5 ชนิด “อินซูลินธรรมชาติ” ฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด ปรับระดับให้คงที่

รวมมาให้เลือกกิน! ถั่ว 5 ชนิด “อินซูลินธรรมชาติ” ฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด ปรับระดับให้คงที่

บอกลาน้ำตาลสูง! ถั่ว 5 ชนิด ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ควบคุมเบาหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เถียงกันทั้งบ้าน! วิธีแยกถั่วแดงที่ผสมถั่วเขียว ใน 1 วินาที? หนุ่ม 18 เฉลยคำตอบ

เถียงกันทั้งบ้าน! วิธีแยกถั่วแดงที่ผสมถั่วเขียว ใน 1 วินาที? หนุ่ม 18 เฉลยคำตอบ

จะแยกถั่วแดงกับถั่วเขียวที่ผสมกันใน 1 วินาทีได้อย่างไร? ทั้งบ้านเถียงกันอยู่ 30 นาที สุดท้ายน้องชายวัย 18 มีคำตอบที่ "ฉลาดเกินคาด"