เนื้อหาในหมวด ข่าว

เตือนพ่อแม่! 4 ผลไม้ที่เด็กชอบกิน อาจเป็น \

เตือนพ่อแม่! 4 ผลไม้ที่เด็กชอบกิน อาจเป็น "แหล่งสะสมพยาธิ" ต้องระวังก่อนหยิบให้ลูก

4 ผลไม้ที่เด็กชอบกิน อาจเป็น "แหล่งสะสมพยาธิ" พ่อแม่ต้องระวังก่อนหยิบให้ลูก

ผู้ใหญ่จำนวนมากมักแนะนำให้เด็กรับประทานผลไม้เยอะๆ เพราะเป็นแหล่งวิตามินสำคัญต่อการเจริญเติบโต แต่สิ่งนี้เป็นจริงเพียงครึ่งเดียว เพราะอาหารทุกชนิดหากบริโภคมากเกินไปหรือไม่ถูกสุขลักษณะก็สามารถก่อให้เกิดอันตรายได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเด็กๆ มีระบบย่อยอาหารที่อ่อนแอ พ่อแม่จึงควรใส่ใจเป็นพิเศษกับอาหารที่เด็กรับประทานทุกวัน เพราะอาการปวดท้องหรือท้องร่วงในเด็ก อาจมีสาเหตุมาจากผลไม้ที่ดูเหมือนจะไม่มีพิษมีภัยเหล่านี้

4 ผลไม้ที่ควรจำกัดปริมาณการบริโภคในเด็ก

1. สตรอว์เบอร์รี

สตรอว์เบอร์รีเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ แต่ผลไม้ชนิดนี้เติบโตใกล้กับพื้นดิน และส่วนเนื้อผลก็เผยออกมาทั้งหมด ทำให้เสี่ยงต่อการสะสมของแบคทีเรีย ไส้เดือนฝอย หรือเพลี้ยอ่อนที่เกาะอยู่ได้ง่าย

เด็กที่รับประทานโดยไม่ได้ล้างให้สะอาด อาจกลืนไข่พยาธิหรือตัวอ่อนปรสิตเข้าไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งพยาธิบางชนิดสามารถอาศัยอยู่ในลำไส้เด็ก ก่อให้เกิดอาการคันบริเวณทวารหนัก หรือระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ

ดังนั้น สตรอว์เบอร์รีจึงจำเป็นต้องแช่น้ำและล้างหลายๆ ครั้งใต้ก๊อกน้ำ ก่อนนำมาบริโภค

2. ผลไม้ตระกูลเบอร์รีที่มีร่องเปลือก

ผลไม้ในกลุ่มนี้มีรสเปรี้ยวเล็กน้อย ช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร แต่ผิวเปลือกที่มีร่องรอยหยักหลายจุด ถือเป็นที่ซ่อนชั้นดีของ "ไข่ปรสิต" ไข่พยาธิบางชนิดสามารถวางไข่ได้ตามร่องเปลือก เมื่อตัวอ่อนฟักออกมา ก็จะไชเข้าไปในเนื้อผลไม้ ซึ่งมองเห็นได้ยากด้วยตาเปล่า

นอกจากนี้ รสเปรี้ยวจัดของผลไม้บางชนิด หากรับประทานมากเกินไป อาจทำลายเคลือบฟันของเด็กได้

3. ผลมะเดื่อ / ลูกฟิก

ผลมะเดื่อ หรือ ลูกฟิก ที่เรารับประทานเข้าไปคือฐานรองดอก และดอกจริงๆ จะอยู่ด้านใน โครงสร้างที่ปิดมิดชิดนี้ ทำให้ผลมะเดื่ออ่อนแอต่อการถูกแมลงแทรกซึมเข้าไปได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อผลสุกนิ่ม

ไม่น้อยที่ผู้บริโภคจะพบเส้นใยหรือแมลงขนาดเล็กอยู่ภายในผล เด็กที่รับประทานเข้าไปอาจปวดท้อง ท้องร่วงได้ง่าย เนื่องจากระบบย่อยอาหารยังอ่อนแอ

4. แห้ว/สมหวัง

แห้ว หรือสมหวัง เป็นพืชที่เติบโตในโคลนตม มีน้ำมาก และมีรสหวานเย็นชื่นใจ แต่พืชชนิดนี้เสี่ยงต่อการมีปรสิตกลุ่มพยาธิใบไม้ในลำไส้ (Fasciolopsis buski) เกาะอยู่

หากรับประทานแห้วโดยที่ไม่ได้ปอกเปลือกให้สะอาด หรือไม่ได้ปรุงให้สุก อาจทำให้เด็กติดเชื้อปรสิตชนิดนี้ได้ ก่อให้เกิดอาการลำไส้อักเสบ ปวดท้องเรื้อรัง ภาวะโลหิตจาง และส่งผลกระทบต่อการมองเห็นได้

คำแนะนำเพื่อความปลอดภัยของระบบย่อยอาหาร

เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัย พ่อแม่ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้:

  • เลือกซื้อผลไม้จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ หลีกเลี่ยงผลไม้ที่นิ่ม ช้ำ หรือสุกงอมเกินไป
  • ต้องแช่น้ำและล้างให้สะอาดเป็นพิเศษ โดยเฉพาะผลไม้ที่อยู่ใกล้พื้นดินหรือมีร่องเปลือกเยอะ
  • จำกัดการให้ผลไม้สดกับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี และควรเลือกผลไม้ที่ปอกเปลือกง่าย เช่น กล้วย ส้ม
  • สังเกตอาการหลังรับประทาน: หากเด็กมีอาการคันบริเวณทวารหนัก ปวดท้อง หรือท้องร่วง ควรพาไปตรวจโดยเร็ว

การให้ความสำคัญกับขั้นตอนเล็กๆ น้อยๆ อย่างการทำความสะอาดผลไม้ และการเลือกชนิดผลไม้ที่เหมาะสมกับวัย จะช่วยปกป้องระบบย่อยอาหารที่บอบบางของลูกจากอันตรายของแบคทีเรียและพยาธิได้

  • Soha.vn
  • 5 ความเข้าใจผิดเรื่อง \

    5 ความเข้าใจผิดเรื่อง "สตรอว์เบอร์รี" ผลไม้ที่โลกคุ้นเคย ที่จริงแล้วไม่ใช่ผลไม้

    5 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ "สตรอว์เบอร์รี" ผลไม้ที่ทุกคนคุ้นเคย ที่จริงแล้วมันไม่ใช่ผลไม้ ซับซ้อนจนคาดไม่ถึง

    10 ผลไม้ที่ยิ่งกินยิ่งผอม ผู้หญิงวัย 40+ กินบ่อยช่วยกระตุ้นคอลลาเจนอย่างเห็นผล

    10 ผลไม้ที่ยิ่งกินยิ่งผอม ผู้หญิงวัย 40+ กินบ่อยช่วยกระตุ้นคอลลาเจนอย่างเห็นผล

    ผู้หญิงวัยกลางคนมักลดน้ำหนักได้ยาก หากอยากผิวสวยและรักษาเอวให้กระชับ ควรทำความรู้จักกับผลไม้เหล่านี้