“คนไร้ความสามารถ” คืออะไร? ทำไมต้องร้องศาล ทำไมต้องประกาศในราชกิจจาฯ
“คนไร้ความสามารถ” คืออะไร? ทำไมต้องร้องศาล ทำไมต้องประกาศในราชกิจจาฯ
จากกรณีเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้ เผยแพร่คำสั่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เรื่อง ศาลมีคําสั่งให้ นางมยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช เป็นคนไร้ความสามารถ และให้อยู่ในความอนุบาลของ นายณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิเวช ผู้ร้อง
ศาลไต่สวนพยานหลักฐานของผู้ร้องแล้ว เห็นว่า นางมยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ และการอักเสบของสมอง รวมถึงมีภาวะสมองเสื่อมจากโรคพาร์กินสันมาเป็นระยะเวลากว่า 2 ปีแล้ว โดยมีอาการข้างเคียง เช่น จำอะไรไม่ได้ จำบุตรตนเองไม่ได้ จำคนรอบข้างไม่ได้ พูดจารู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง ไม่สามารถประกอบกิจการงานและช่วยเหลือตนเองได้
อาการของนางมยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช เข้าลักษณะบุคคลวิกลจริต ผู้ร้องเกี่ยวข้องเป็นบุตรและเป็นผู้ช่วยเหลือดูแลมาโดยตลอด เห็นควรให้ผู้ร้องเป็นผู้อนุบาล
คนไร้ความสามารถ คืออะไร?
"คนไร้ความสามารถ" ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 28 คือ บุคคลวิกลจริตที่คู่สมรส บุพการี ผู้สืบสันดานของผู้นั้น หรือพนักงานอัยการร้องขอต่อศาล และศาลได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถบุคคลที่ศาลได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ ต้องจัดให้อยู่ในความอนุบาลของผู้อนุบาล แล้วนิติกรรมที่คนไร้ความสามารถได้ทำลงตกเป็นโมฆียะทั้งสิ้น ไม่ว่าจะได้รับความยินยอมจากผู้อนุบาลหรือไม่ก็ตาม จะต้องให้ผู้อนุบาลเป็นผู้ทำแทน
ตามกฎหมายคนวิกลจริตแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. บุคคลที่มีสติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์ และมีอาการร้ายแรงถึงขั้นทำให้ไม่สามารถตัดสินใจแยกถูกผิดโดยใช้เหตุผลได้ดังคนปกติ ไม่มีความรู้สึกผิดชอบว่าตนได้พูดหรือทำอะไร แต่ไม่จำเป็นต้องมีอาการร้ายแรงถึงขั้นทำอันตรายต่อบุคคลอื่น ไม่สามารถรักษาผลประโยชน์ของตนเองได้ และมีอาการดังกล่าวแบบติดตัวหรือเป็นประจำ
2. บุคคลที่ไม่สามารถดูแลหรือจัดการทรัพย์สินของตนเองได้ เนื่องจากไม่มีสติสัมปชัญญะ ขาดความรำลึกของความรู้สึก เนื่องจากอาการป่วยหนัก (เช่นผู้ป่วยที่นอนป่วยติดเตียง ด้วยโรคสมองฝ่อ หรือสมองเสื่อมขั้นรุนแรงเป็นอัลไซเมอร์ ประสบอุบัติเหตุกลายเป็นเจ้าหญิงหรือเจ้าชายนิทราอย่างนี้) และมีอาการดังกล่าวแบบติดตัว หรือเป็นประจำ
ศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ
การที่ศาลจะสั่งให้บุคคลใดเป็นคนไร้ความสามารถ จะต้องมีการยื่นคำร้องขอต่อศาลให้สั่งให้บุคคลวิกลจริตนั้นเป็นคนไร้ความสามารถ ซึ่งโดยทั่วไปจะต้องเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคนวิกลจริตนั้น อันได้แก่
1) คู่สมรสของ ได้แก่ สามี หรือภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของคนวิกลจริต การเป็นสามีภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายพิจารณาจากการจดทะเบียนสมรส ถ้ามิได้จดทะเบียน สมรสแม้อยู่กินฉันท์สามีภริยาก็ไม่เป็นสามีภริยาที่ชอบด้วยกฎหมาย
2) ผู้บุพการี ได้แก่ บิดามารดา ปู่ ย่า ตา ยาย ทวด ตามความเป็นจริง
3) ผู้สืบสันดาน ได้แก่ลูก หลาน เหลน ของผู้วิกลจริตตามความเป็นจริง
4) ผู้ปกครอง คือ ผู้ใช้อำนาจปกครองแทนบิดามารดาของผู้เยาว์
5) ผู้พิทักษ์ คือ ผู้ดูแลให้ความยินยอมแก่คนเสมือนไร้ความสามารถในการทำนิติกรรมที่กฎหมาย หรือ ศาลกำหนดห้ามมิให้ทำโดยลำพังตนเอง กรณีที่จะมีผู้พิทักษ์ได้แก่ ที่คนวิกลจริตนั้นเคยถูกศาลสั่งให้เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถมาก่อน และต่อมาความวิกลจริต เป็นอย่างมากถึงขนาดที่ผู้พิทักษ์ต้องร้องขอให้ศาลสั่งให้คนเสมือนไร้ความสามารถนั้นเป็นคนไร้ความสามารถ เพื่อที่คนวิกลจริตจะได้รับความคุ้มครองมากขึ้นนั่นเอง
6) ผู้ซึ่งปกครองดูแลบุคคลนั้นอยู่ ได้แก่ บุคคลซึ่งปกครองดูแลบุคคลวิกลจริตตามความเป็นจริง
7) พนักงานอัยการ (Public Prosecutor) หมายถึง เจ้าพนักงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีอาญาและคดีแพ่ง
บุคคลวิกลจริตไม่มีสิทธิร้องขอต่อศาลให้สั่งให้ตนเองเป็นคนไร้ความสามารถได้ เพราะกฎหมายไม่ได้บัญญัติให้อำนาจไว้ ต่างกับการขอถอนคำสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ ซึ่ง คนไร้ความสามารถสามารถร้องขอต่อศาลให้ศาลสั่งเพิกถอนคำสั่งได้ตามมาตรา 31

ผลของการเป็นคนไร้ความสามารถ
1. ต้องจัดอยู่ในความดูแลของผู้อนุบาล
ถ้ายังไม่สมรส และยังไม่บรรลุนิติภาวะ ผู้นั้นย่อมอยู่ภายใต้อำนาจปกครองของบิดามารดา ตามมาตรา 1566 ดังนั้นบิดามารดาจึงเป็นอนุบาล ยกเว้นศาลใช้ดุลพินิจตั้งบุคคลอื่นเป็น ผู้อนุบาล ในกรณีเช่นนี้ถือว่าคำสั่งตั้งผู้อนุบาลเช่นนั้นมีผลเป็นการเพิกถอนผู้ใช้อำนาจปกครองหรือผู้ปกครองที่เป็นอยู่ในขณะนั้นด้วย ตามมรตรา 1569/1 วรรคแรก
ถ้าผู้เยาว์ไม่มีบิดามารดา หรือบิดามารดาถูกถอนอำนาจปกครอง ศาลอาจตั้งผู้ปกครองให้ได้ ตามมาตรา 1585, 1586 ผู้ปกครองย่อมเป็นผู้อนุบาลผู้เยาว์ตามมาตรา 1569
ถ้าคนไร้ความสามารถบรรลุนิติภาวะแล้วแต่ยังไม่สมรส ผู้อนุบาลได้แก่ บิดามารดาหรือบิดาหรือมารดา ตามมาตรา 1569/1 วรรคสอง ผู้อนุบาลได้แก่ บิดามารดาหรือผู้ปกครองตามมาตรา 1569 ยกเว้นแต่ ศาลเห็นว่าไม่ควรให้บิดามารดา หรือบิดาหรือมารดาเป็นผู้อนุบาล ศาลอาจสั่งให้ผู้อื่นเป็นผู้อนุบาลได้ ตามมาตรา 1569/1 วรรคสอง
ในกรณีที่คนไร้ความสามารถสมรสแล้ว ผู้อนุบาลได้แก่ คู่สมรส ตามมาตรา 1463
ยกเว้นในกรณีที่มีเหตุสำคัญ และผู้มีส่วนได้เสียหรืออัยการร้องขอ ศาลจะตั้งบุคคลอื่น เช่น บิดา มารดา หรือ บุคคลภายนอกเป็นผู้อนุบาลก็ได้ ตามมาตรา 1463 เช่น คู่สมรสไม่ให้ความอุปการะคู่ สมรสฝ่ายที่เป็นคนไร้ความสามารถ หรือจัดการทรัพย์สินเสียหายถึงขนาด เป็นต้น
2. ความสามารถในการทำนิติกรรมของคนไร้ความสามารถ
คนไร้ความสามารถกฎหมายถือว่าเป็นผู้หย่อนความสามารถในการทำนิติกรรมดังนั้นจึงทำนิติกรรมใดๆไม่ได้ทั้งสิ้น นิติกรรมอันคนไร้ความสามารถกระทำลงการนั้นเป็น “โมฆียะ” ดังนั้นผู้อนุบาลจึงอนุญาตหรือให้ความยินยอมให้คนไร้ความสามารถทำนิติกรรมไม่ได้ หากคนไร้ความสามารถประสงค์จะทำนิติกรรมต้องให้ผู้อนุบาลท าแทนเท่านั้น ตามมาตรา 29 “การใดๆอันบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถได้กระท าลง การนั้นเป็นโมฆียะ” แม้นิติกรรมบางชนิดเป็นเรื่องต้องทำโดยเฉพาะตัว เช่น การรับรองบุตร 7 ผู้อนุบาลย่อมไม่มีอำนาจทำแทนได้
นอกจากนี้ถ้าเป็นนิติกรรมบางประเภทตาม มาตรา 1574 ผู้อนุบาลจะทำแทนไม่ได้หากผู้อนุบาลประสงค์จะทำนิติกรรมเหล่านั้นแทนคนไร้ความสามารถต้องขออนุญาตศาลก่อนจึง จะกระทำได้ตามมาตรา 1598/15 มาตรา 1598/18 นิติกรรมอันคนไร้ความสามารถกระทำลงมีผลเป็นโมฆียะ บุคคลดังต่อไปนี้จะบอก ล้างหรือให้สัตยาบันตามมาตรา 175
(1) ผู้อนุบาล
(2) คนไร้ความสามารถเมื่อพ้นจากการเป็นคนไร้ความสามารถ
การสิ้นสุด การเป็นคนไร้ความสามารถ
ถ้าเหตุที่ทำให้เป็นคนไร้ความสามารถได้สิ้นสุด คนไร้ความสามารถนั้นเองหรือบุคคลใดๆตามมาตรา 28 สามารถร้องขอต่อศาลให้สั่งเพิกถอนคำสั่งที่ให้เป็นคนไร้ความสามารถนั้นได้
ทำไมต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา?
คำสั่งของศาลที่ให้บุคคลใดเป็นคนไร้ความสามารถ (รวมถึงคำสั่งเพิกถอนสถานะ) ต้องมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้ บุคคลทั่วไปทราบโดยทั่วกัน (ป.พ.พ. มาตรา 28 และ 31)
-
หลักการเผยแพร่ต่อสาธารณะ: ราชกิจจานุเบกษาเป็นช่องทางที่เป็นทางการในการเผยแพร่กฎหมายและคำสั่งสำคัญของรัฐ ซึ่งรวมถึงคำสั่งศาลที่ส่งผลกระทบต่อสถานะทางกฎหมายของบุคคล
-
ป้องกันการทำนิติกรรมโดยไม่รู้: เมื่อมีการประกาศแล้ว บุคคลภายนอกที่มาทำธุรกรรมกับคนไร้ความสามารถจะไม่สามารถอ้างได้ว่าไม่ทราบว่าบุคคลนั้นเป็นคนไร้ความสามารถ ซึ่งเป็นการช่วยป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากการทำนิติกรรมที่ไม่ถูกต้อง
-
ความสมบูรณ์ตามกฎหมาย: ตามกฎหมาย กำหนดให้คำสั่งของศาลมีผลบังคับใช้เมื่อมีการโฆษณาในราชกิจจานุเบกษา (แม้ว่าผลทางกฎหมายจะนับตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่งก็ตาม แต่การประกาศเป็นการทำให้สาธารณะรับรู้และยอมรับ)