5 สัญญาณที่บ่งบอกว่า "ในสวนมีงู" แอบอาศัยอยู่ใกล้ๆ บางบ้านมีครบทุกข้อ ขนลุกเลย!!!
5 สัญญาณเตือนในสวนที่บ่งบอกว่ามี "งู" อาศัยอยู่ แต่หลายคนมองข้าม
บ่อยครั้งที่เราไม่อาจมองเห็น งู ที่เลื้อยเข้ามาในสวนหลังบ้านด้วยตาตัวเองโดยตรง เนื่องจากสัตว์เลื้อยคลานส่วนใหญ่มีสีสันที่กลมกลืนกับพืชพรรณ ทำให้พวกมันแทบจะ "ล่องหน" อยู่ใต้ใบไม้ที่รกทึบ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่าได้แนะนำว่า เราสามารถตรวจจับการมีอยู่ของงูได้อย่างแน่นอนผ่านสัญญาณบ่งชี้ที่ชัดเจนบางอย่าง
5 สัญญาณในสวนที่บ่งบอกว่ามีงูซ่อนตัว
ตามการแบ่งปันข้อมูลจาก Billy Collett ผู้จัดการปฏิบัติการของ Australian Reptile Park และ Neil Mellon ผู้เชี่ยวชาญด้านการจับงูจาก Snakes Away องค์กรจัดการสัตว์ป่าในออสเตรเลีย งูสามารถปรากฏตัวได้ในสวนทุกแห่ง ทั้งชนิดที่ไม่เป็นอันตรายและชนิดที่มีพิษร้ายแรง ต่อไปนี้คือ 5 สัญญาณที่พบบ่อยที่สุด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสวนของคุณอาจเป็นที่พักพิงของงู แต่หลายคนมักมองข้ามไป
1. คราบงูลอกในสวน
สัญญาณที่ชัดเจนที่สุดคือการพบ คราบงู ที่แห้ง ยาว และบางถูกทิ้งไว้เมื่อพวกมันลอกคราบ โดยเฉลี่ยงูแต่ละตัวสามารถลอกคราบได้หลายครั้งต่อปี หากพบคราบงูใกล้กับโพรงกำแพง ใต้ถุนบ้าน หรือตามมุมอับที่มีพุ่มไม้หนาแน่น เป็นไปได้สูงว่ามีงูอาศัยอยู่บริเวณนั้น
2. มูลงูที่มีเศษกระดูกหรือขนปะปน
นี่เป็นสัญญาณที่สังเกตได้ยากกว่า มูลของงูมักมีลักษณะคล้ายมูลนก แต่บางครั้งอาจมีชิ้นส่วนกระดูกเล็ก ๆ ขน หรือขนนก ซึ่งเป็นส่วนที่เหลือจากเหยื่อที่งูกลืนลงไปทั้งตัว หากพบร่องรอยเช่นนี้ ควรเพิ่มความระมัดระวังในพื้นที่สวนให้มากขึ้น
3. เสียงกบร้องผิดปกติในเวลากลางคืน
งูส่วนใหญ่ออกล่าเหยื่อในเวลากลางคืน และกบก็เป็นอาหารโปรดของพวกมัน ผู้เชี่ยวชาญ Neil Mellon ระบุว่า หากคุณได้ยินเสียงกบร้องอย่างผิดปกติในยามค่ำคืน อาจเป็นไปได้ว่ามีงูกำลังเข้าจู่โจมพวกมันอยู่ในบริเวณใดบริเวณหนึ่งของสวน
4. ร่องรอยการเลื้อยหรือพืชถูกทับแบน
ในสวนที่มีขนาดใหญ่ อาจมองเห็นร่องรอยการเลื้อยบนพื้นดินได้ยาก อย่างไรก็ตาม หากงูเคลื่อนที่ผ่านบริเวณใดบ่อย ๆ คุณอาจสังเกตเห็นร่องแปลงดอกไม้ที่ถูกกดราบกับพื้น หรือมีรอยทางยาวผิดปกติบนพื้นผิว แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าไม่ควรสับสนกับรอยหางของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่น
5. สุนัขเห่าหรือดมกลิ่นมุมสวนอย่างต่อเนื่อง
จมูกที่ไวต่อกลิ่นของสุนัขทำให้พวกมันเป็น "ระบบเตือนภัยล่วงหน้า" ที่มีประสิทธิภาพ เมื่อสุนัขเห่าหรือดมกลิ่นซ้ำ ๆ ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง พวกมันอาจกำลังตรวจจับกลิ่นของ งู ในกรณีนี้ ควรกั้นสุนัขให้ออกห่าง และตรวจสอบบริเวณดังกล่าวอย่างระมัดระวัง
- เปิด 10 พืชอันตรายสุดๆ "สวยแต่มีพิษ" ห้ามปลูกในบ้าน หรือแม้แต่ในสวน!
- งูเข้าบ้านในเมืองได้อย่างไร? "เปิด 4 เส้นทางลับ" ที่งูใช้บุกอพาร์ตเมนต์และตึกสูง
หากเผชิญหน้ากับงูโดยไม่ตั้งใจ ควรทำอย่างไร?
ผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำว่า เมื่อพบงูในสวน หลักการแรกคือ ห้ามเข้าใกล้ โดยเด็ดขาด คุณควรค่อย ๆ ถอยห่าง รักษาความปลอดภัย และหลีกเลี่ยงการสร้างเสียงดังที่อาจทำให้งูตื่นตระหนก แต่หากคุณสงสัยว่ามีงูอาศัยอยู่ในสวนมานานแล้ว หรือมีหลายสัญญาณบ่งชี้ถึงการมีรังงู ทางที่ปลอดภัยที่สุดคือการติดต่อทีมจับงูมืออาชีพ หรือองค์กรกู้ภัยสัตว์ป่า
ผู้เชี่ยวชาญ Neil Mellon แนะนำว่า "ให้พยายามสังเกตจากระยะไกลว่า งูอยู่ตรงไหน เพื่อเป็นข้อมูลในการนำทางเจ้าหน้าที่มายังตำแหน่งของงูได้อย่างถูกต้อง" ผู้จับงูที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีจะเข้าใจพฤติกรรมของงูแต่ละชนิด และคุ้นเคยกับขั้นตอนการจัดการที่ปลอดภัย คุณสามารถค้นหาพวกเขาได้จากกลุ่มกู้ภัยสัตว์ป่า หน่วยงานที่ได้รับอนุญาต หรือข้อมูลจากหน่วยงานท้องถิ่น
สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ควรจดจำคือ การหลีกเลี่ยงการพยายามจับหรือฆ่างูด้วยตัวเองโดยเด็ดขาด การกระทำดังกล่าวไม่เพียงแต่อันตรายเท่านั้น แต่ยังเพิ่มโอกาสในการถูกโจมตีอีกด้วย การรักษาความสงบ รักษาช่องว่าง และขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ เป็นวิธีเดียวที่จะรับประกันความปลอดภัยของทุกคนในครอบครัว
