ต้องตุน! 5 ผัก "เพนนิซิลินธรรมชาติ" ควรให้คนในบ้านกินบ่อยๆ เมื่ออากาศเริ่มหนาว
5 ผัก "เพนนิซิลินธรรมชาติ" ควรให้คนในบ้านทานบ่อยๆ ช่วงอากาศเย็น เสริมภูมิคุ้มกัน ป่วยน้อยลง
รับมืออากาศเย็นด้วย 5 ผักรสอุ่น ช่วย "ขับไล่ความหนาว" ต้านแบคทีเรีย ต้านหวัด เสริมเกราะป้องกันร่างกาย ยาดีราคาถูกที่ควรกินทุกวัน
เมื่อสภาพอากาศเริ่มเย็นลง และอุณหภูมิระหว่างกลางวันกับกลางคืนแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด การจามเพียงเล็กน้อยของเด็ก หรืออาการไอของผู้สูงอายุ ก็อาจทำให้ทุกคนในบ้านเกิดความกังวลได้ นอกจากการสวมเสื้อผ้าหลายชั้นเพื่อรักษาความอบอุ่นแล้ว เรายังสามารถสร้าง "แนวป้องกัน" ที่แข็งแกร่งให้กับสุขภาพของครอบครัวผ่านมื้ออาหารในชีวิตประจำวัน
ธรรมชาติได้มอบพืชผักที่เป็นเหมือน "ผู้พิทักษ์" ในฤดูหนาวให้กับเรา ผักเหล่านี้มีคุณสมบัติคล้าย "เพนนิซิลิน" ตามธรรมชาติ ซึ่งมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านการอักเสบ และเพิ่มภูมิคุ้มกันได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่ออากาศเริ่มเย็นลง จึงควรเพิ่มผัก 5 ชนิดนี้ในเมนูอาหาร เพื่อช่วยให้ร่างกายสร้าง "พลังป้องกัน" และผ่านพ้นฤดูหนาวไปได้อย่างสบาย
1. กุยช่าย
หลายคนทราบว่ากระเทียมคือ "เพนนิซิลินที่ปลูกใต้ดิน" แต่ต้นกุยช่ายมีรสชาติเผ็ดอ่อนกว่ากระเทียม และมีเนื้อสัมผัสที่กรุบกรอบ จึงเหมาะสำหรับการนำมาใช้เป็นอาหารในชีวิตประจำวันอย่างมาก ต้นกุยช่ายอุดมไปด้วยอัลลิซิน (Allicin) และอัลลิอิน (Alliin) ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อโรคหลายชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การรับประทานต้นกุยช่ายในช่วงฤดูที่มีไข้หวัดระบาด สามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ และทำหน้าที่เป็น "ผู้พิทักษ์ต้านแบคทีเรีย" ตามธรรมชาติได้เป็นอย่างดี วิธีที่ดีที่สุดคือการนำมาผัดอย่างรวดเร็วกับเนื้อสับหรือไข่ ไม่ควรปรุงให้นานเกินไป เพื่อรักษาส่วนประกอบที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อโรคไว้ให้มากที่สุด
2. ยี่หร่า
ยี่หร่ามีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นที่ชื่นชอบของหลายคน กลิ่นหอมนี้เองที่เป็นแหล่งของประโยชน์ต่อสุขภาพ เนื่องจากยี่หร่ามีฤทธิ์อุ่น และถูกจัดว่าเป็น "ผักอุ่น" ที่ช่วยขับความเย็นและอบอุ่นร่างกาย สารประกอบอะนีโทล (Anethole) ที่มีกลิ่นหอมในยี่หร่ามีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียที่โดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อเชื้ออีโคไล (Escherichia coli) และเชื้อชิเกลลา (Shigella) จึงช่วยป้องกันการติดเชื้อในลำไส้ได้
ในช่วงที่อากาศเย็น ท้องไส้จะไวต่อความเย็น ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะอาหารไม่ย่อยหรือท้องร่วงได้ การรับประทานยี่หร่าเล็กน้อยจะช่วยทำให้กระเพาะอาหารอบอุ่น ส่งเสริมการย่อยอาหาร และช่วยให้กระเพาะอาหารรู้สึกสบาย วิธีอร่อยที่สุดคือการนำไปทำเป็นไส้เกี๊ยวซ่า หรือเกี๊ยวน้ำแบบดั้งเดิม หรือนำมาผัดกับไข่ก็ได้เช่นกัน
- ผลไม้ราคาถูก "กวาด" ไขมันในเลือดดีเยี่ยม ญี่ปุ่นยกเป็น "โสมเขียว" ไทยมีตามตลาดทั่วไป!
- รู้หรือไม่? ทุกครั้งที่กินเบอร์เกอร์-น้ำอัดลม จะสูญเสียอายุขัยกี่นาที ขนลุกมี 1 เมนูที่ร้ายกว่า!!!
3. ต้นหอม
ต้นหอมมีรสเผ็ดเล็กน้อยคล้ายกระเทียม และมีความนุ่มของผัก ซึ่งกลายเป็น "แหล่งพลังงาน" ที่ขาดไม่ได้ในอาหารฤดูหนาว เพราะช่วยเพิ่มรสชาติ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และป้องกันโรคได้ ต้นหอมก็อุดมไปด้วยอัลลิซิน (Allicin) เช่นกัน และความสามารถในการฆ่าเชื้อโรคมีประสิทธิภาพสูง สามารถทำลายเชื้อโรคและปรสิตได้อย่างดีเยี่ยม
การรับประทานต้นหอมช่วยป้องกันไข้หวัดและการติดเชื้อที่บาดแผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อรู้สึกเย็นเล็กน้อยหรือมีอาการคัดจมูก การเพิ่มต้นหอมลงไปในการปรุงอาหารสามารถช่วยบรรเทาอาการได้ ต้นหอมผัดกับเนื้อหมูที่นำไปทำครั้งที่สอง หรือผัดกับหมูรมควันก็เป็นเมนูคลาสสิกที่ดี นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องเคียงที่ยอดเยี่ยมที่โรยเพิ่มสีสันและรสชาติให้กับเนื้อสัตว์หรือเต้าหู้
4. หัวหอม
หัวหอมได้รับการยกย่องว่าเป็น "ราชินีแห่งผัก" ในต่างประเทศ และให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย หัวหอมอุดมไปด้วยอัลลิซิน (Allicin) ควอร์ซิติน (Quercetin) และพรอสตาแกลนดิน เอ (Prostaglandin A) สารเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อช่วยขับไล่หวัด ต้านเชื้อแบคทีเรีย ยับยั้งไวรัสไข้หวัดใหญ่ ช่วยให้ความดันโลหิตคงที่ และทำให้หลอดเลือดสะอาด
เนื่องจากความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างภายในและภายนอกอาคารในฤดูหนาว อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจได้ การรับประทานหัวหอมเป็นประจำจึงสามารถช่วยปกป้องหลอดเลือดได้ กลิ่นหอมฉุนของหัวหอมยังช่วยป้องกันหวัดได้อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหมาะสมสำหรับวัยกลางคนและผู้สูงอายุ การรับประทานแบบดิบจะให้ประโยชน์สูงสุด แต่หากไม่ชอบรสชาติ สามารถนำมาผัดอย่างรวดเร็วได้
5. ขิง
หากคุณมีขิงติดบ้านไว้ ก็ไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกเมื่อรู้สึกไม่สบายเพียงเล็กน้อย รสชาติเผ็ดร้อนของขิงเป็นสัญลักษณ์ของพลังที่มันมี เมื่อเผชิญกับความเย็นจากฝนหรืออากาศชื้น การดื่มน้ำแกงขิงร้อนๆ ถือเป็นความทรงจำที่คุ้นเคยและให้ความอบอุ่นใจ จินเจอรอล (Gingerol) และจินเจอร์โรน (Gingerone) ในขิง มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง ซึ่งสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายในช่องปากและลำไส้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขิงคือผู้เชี่ยวชาญในการขับไล่ความเย็นและความชื้นออกจากร่างกาย และป้องกันไข้หวัดที่เกิดจากการสัมผัสกับสภาพอากาศที่หนาวเย็น เมื่อคนในครอบครัวรู้สึกว่ามือเท้าเย็น หรือรู้สึกหนาวสั่น ชาขิงน้ำตาลทรายแดงร้อนๆ ถือเป็นการดูแลเอาใจใส่ที่ทันท่วงที นอกจากการชงชาแล้ว คุณสามารถนำขิงหั่นแว่นไปผัดในน้ำมันขณะทำอาหาร หรือใส่ขิงสองสามชิ้นเมื่อตุ๋นเนื้อหรือต้มซุป วิธีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยดับกลิ่นคาวและเพิ่มรสชาติเท่านั้น แต่ยังช่วยส่งเสริมผลดีต่อสุขภาพอีกด้วย
การดูแลเอาใจใส่กันในช่วงอากาศหนาวเย็นไม่ใช่แค่การบอกให้ "ใส่เสื้อผ้าเพิ่ม" เท่านั้น แต่ยังรวมถึงอาหารร้อนๆ บนโต๊ะอาหารด้วย ผักเหล่านี้ ซึ่งอุดมไปด้วย "เพนนิซิลิน" ตามธรรมชาติ เป็นเหมือน "โล่ป้องกันสุขภาพ" ที่มีประสิทธิภาพและประหยัดที่สุดจากธรรมชาติ เริ่มตั้งแต่วันนี้ ให้เพิ่มอาหารเหล่านี้ในมื้ออาหารของครอบครัวคุณบ่อยขึ้น การดูแลอย่างรอบคอบนี้ซึ่งรวมอยู่ในอาหารสามมื้อต่อวัน เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของครอบครัว และช่วยให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรงตลอดฤดูหนาว
