หนุ่มปอดมีโพรง มากกว่า 10 รู ไม่อยากจะเชื่อต้นเหตุเพราะ "สิวเม็ดเดียว" บนหน้า
นักศึกษาหนุ่มไข้สูง ปอดเป็นรู ติดเชื้อในกระแสเลือดเพราะสิวเม็ดเดียว
นักศึกษาชายชาวจีนวัย 20 ปี รายหนึ่ง เกิดอาการป่วยหนักหลังบีบสิวบนใบหน้า ทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่กระแสเลือดและลามไปถึงปอด จนเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง มีโพรงขนาดเล็กมากกว่า 10 แห่งในเนื้อเยื่อปอด และเนื้อเยื่อบางส่วนตายลง ซึ่งถือเป็นภาวะฝีในปอดจากเชื้อในกระแสเลือด (Blood-borne Pulmonary Abscess) ที่อันตรายถึงชีวิต
โชคดีที่เขาได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีจนอาการดีขึ้นและออกจากโรงพยาบาลแล้ว อย่างไรก็ตาม แพทย์ได้เน้นย้ำเตือนประชาชนว่า ไม่ควรบีบสิวที่ขึ้นในบริเวณที่เรียกว่า "สามเหลี่ยมอันตราย" ของใบหน้า เพราะอาจนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ร้ายแรงเช่นนี้ได้
บีบสิวเม็ดเดียว พลิกเป็นฝีในปอดรุนแรง
ตามรายงานข่าวจาก Zonglan News ระบุว่า นักศึกษาหนุ่มนามว่า “เสี่ยวหลิน” ต้องเตรียมตัวสอบอย่างหนัก ทำให้เขาต้องนอนดึกติดต่อกัน จนกระทั่งมีสิวอักเสบเม็ดสีแดงและบวมขึ้นมาขนาดเท่าเม็ดถั่วเหลืองบนสันจมูก เขาได้ตัดสินใจบีบสิวเม็ดดังกล่าวโดยไม่ได้ทำความสะอาดหรือฆ่าเชื้อใดๆ
ในช่วงแรกเสี่ยวหลินคิดว่าอาการจะดีขึ้นหลังบีบหนองออก แต่เพียงไม่กี่วันต่อมา สิวก็อักเสบและมีหนองซ้ำ เขาเริ่มมีอาการไข้ ไอ และมีเสมหะ แม้จะทานยาลดไข้แล้ว แต่อาการก็บรรเทาลงเพียงชั่วคราวเท่านั้น
อาการปวดทรมานและไข้พุ่งสูง
เสี่ยวหลินเริ่มมีอาการปวดอย่างรุนแรงบริเวณหน้าอกด้านขวาล่าง ความเจ็บปวดจะเพิ่มขึ้นเมื่อเขาหายใจลึกหรือไอ จนกระทั่งเหงื่อออกด้วยความทรมาน ในวันที่ 3 อุณหภูมิร่างกายของเขาพุ่งสูงถึง 39 องศา ทำให้เขาต้องรีบไปโรงพยาบาล
หลังจากการซักประวัติและเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) แพทย์พบว่าปอดของเขามีโพรง (Cavity) มากกว่าสิบแห่ง และเนื้อเยื่อบางส่วนได้ตายลง ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของภาวะ ฝีในปอด ที่เกิดจากการติดเชื้อในกระแสเลือด
ทำไมสิวถึงอันตราย? เตือน “สามเหลี่ยมอันตราย”
แพทย์ชี้ว่า “ตัวการ” ที่นำไปสู่การติดเชื้อรุนแรงนี้คือสิวที่ถูกบีบออกไปนั้นเอง แพทย์อธิบายว่าสิวเม็ดดังกล่าวอยู่ในบริเวณ “สามเหลี่ยมอันตราย” (The Danger Triangle of the Face) ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งแต่ปลายจมูกไปจนถึงมุมปากทั้งสองข้าง การบีบสิวในบริเวณนี้อาจทำให้แบคทีเรียถูกกดเข้าไปในหลอดเลือดดำ
แบคทีเรียดังกล่าวอาจนำไปสู่ภาวะโลหิตเป็นพิษ และแพร่กระจายตามกระแสเลือดไปถึงปอด ทำให้เกิดการกัดเซาะและเนื้อเยื่อปอดตาย หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจลุกลามเป็นการติดเชื้อทั่วร่างกายที่อันตรายกว่ามาก

สรุปและคำแนะนำจากแพทย์
นับเป็นโชคดีที่เสี่ยวหลินอายุยังน้อยและมีสุขภาพพื้นฐานที่ดี ร่างกายตอบสนองต่อยาปฏิชีวนะได้ดี จึงสามารถฟื้นตัวและออกจากโรงพยาบาลได้หลังจากได้รับการรักษาอย่างเข้มข้น 12 วัน แพทย์จึงเน้นย้ำเตือนว่า ห้ามบีบสิวบนใบหน้า โดยเฉพาะสิวที่อยู่ในบริเวณ “สามเหลี่ยมอันตราย” โดยเด็ดขาด
หากมีอาการไข้สูงหรือหายใจผิดปกติหลังจากการจัดการสิวอักเสบ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นตามมา
ตำแหน่ง "สามเหลี่ยมอันตราย" บนใบหน้า ห้ามบีบสิวเด็ดขาด เสี่ยงถึงตายได้!