GISTDA เปิดสถิติค่าฝุ่น PM 2.5 ตลอดปี จังหวัดไหนปลอดภัย จังหวัดไหนปอดพัง!
GISTDA เตือนรับมือฝุ่น PM2.5 เปิดสถิติจากปีที่แล้ว 25 จังหวัดสุดอ่วม
เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายปีต่อต้นปีใหม่ สิ่งที่คนไทยต้องเผชิญซ้ำซากคือปัญหา "ฝุ่น PM2.5" ล่าสุด สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ได้เปิดเผยข้อมูลย้อนหลังสถานการณ์ฝุ่นปี 2567 เพื่อกระตุ้นเตือนให้ประชาชนเตรียมความพร้อมรับมือฤดูกาลฝุ่นปี 2568 ที่กำลังจะมาถึง
ย้อนรอยปี 67 พื้นที่ไหน "อยู่กับฝุ่น" นานที่สุด?
จากสถิติปี 2567 ที่ผ่านมา พบข้อมูลที่น่ากังวลเกี่ยวกับระยะเวลาที่คนไทยต้องทนสูดดมฝุ่นพิษ โดยแบ่งความรุนแรงได้ดังนี้:
- 25 จังหวัด: มีวันที่ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานรวมกันมากกว่า 4 เดือน
- 28 จังหวัด: ต้องเผชิญกับค่าฝุ่นเกินมาตรฐานรวมกันมากกว่า 3 เดือน
โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด กระจายตัวอย่างชัดเจนใน ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ซึ่งบางจังหวัดมีสถิติวันที่ค่าฝุ่นเกินมาตรฐานสูงถึงกว่า 112 วันต่อปีเลยทีเดียว

คนไทยสูดฝุ่นติดต่อกันนานแค่ไหน?
ข้อมูลเชิงพื้นที่จาก GISTDA ยังเจาะลึกถึงความต่อเนื่องของการเกิดฝุ่นละออง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพปอด:
- ภาคเหนือและอีสานตอนบน: ต้องสูดอากาศที่มี PM2.5 เกินมาตรฐานติดต่อกันยาวนานมากกว่า 1 เดือน โดยสถิติสูงสุดอยู่ที่ 44 วันติดต่อกัน
- ภาคกลางและอีสานตอนล่าง: แม้จะเบากว่าแต่ก็ยังพบช่วงเวลาที่ค่าฝุ่นเกินมาตรฐานติดต่อกันมากกว่า 10 วันในบางพื้นที่

เช็กไทม์ไลน์! ช่วงเวลาไหนต้องระวังเป็นพิเศษ
จากการวิเคราะห์ข้อมูลปี 2567 พบช่วงเวลาวิกฤตที่ฝุ่น PM2.5 มักจะพุ่งสูงและสะสมตัวต่อเนื่อง ดังนี้:
| ช่วงเดือน | พื้นที่ได้รับผลกระทบ |
|---|---|
| มกราคม – เมษายน | ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ |
| กุมภาพันธ์ – เมษายน | ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน (ยาวนานต่อเนื่อง) |
| ธันวาคม | เริ่มพบฝุ่นสูงระลอกใหม่ในภาคกลาง และภาคตะวันออก |
เตรียมตัวให้พร้อม รับมือฝุ่นปี 2568
การรู้ข้อมูลล่วงหน้าช่วยให้เราวางแผนป้องกันสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัวได้ดีขึ้น GISTDA แนะนำให้ประชาชนเตรียมหน้ากากอนามัยที่ป้องกันฝุ่น PM2.5 และเตรียมเครื่องฟอกอากาศให้พร้อมใช้งาน
นอกจากนี้ ควรหมั่นเช็กค่าฝุ่นละอองผ่านแอปพลิเคชันเป็นประจำทุกวัน เพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงที่ค่าฝุ่นสูง การเข้าใจพื้นที่เสี่ยงและช่วงเวลาจะช่วยให้การป้องกันสุขภาพทำได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น