เนื้อหาในหมวด ข่าว

ดื่มชานมไข่มุกทุกวัน 1 ปี จะเกิดอะไรขึ้น หนุ่ม 29 เจอกับตัว ผลลัพธ์ร้ายแรงจนช็อก!

ดื่มชานมไข่มุกทุกวัน 1 ปี จะเกิดอะไรขึ้น หนุ่ม 29 เจอกับตัว ผลลัพธ์ร้ายแรงจนช็อก!

ดื่มชานมไข่มุกทุกวัน จะเกิดอะไรกับร่างกาย หนุ่ม 29 เจอกับตัว ผลลัพธ์ร้ายแรงจนช็อก!

เสียงร้องไห้ของผู้เป็นแม่ดังระงมไปทั่วระเบียงโรงพยาบาล หลังทราบข่าวร้ายว่าลูกชายวัยเพียง 29 ปี ป่วยเป็น มะเร็งกระเพาะอาหาร ระยะลุกลาม ทั้งที่อายุยังน้อย เธอเล่าทั้งน้ำตาขณะเซ็นเอกสารเข้ารักษาตัวว่า ลูกชายมีพฤติกรรมกินดื่มที่น่ากังวลมาตลอด 1 ปีเต็ม นั่นคือการดื่ม "ชานมไข่มุก" แทบทุกวัน รวมแล้วเกือบ 300 แก้วต่อปี

จาก "ความสุขรายวัน" สู่อันตรายถึงชีวิต

ผู้เป็นแม่เล่าว่า เธอพยายามตักเตือนลูกชายเสมอว่า "ดื่มชานมเยอะๆ มันทำลายสุขภาพ" แต่ลูกชายมักตอบกลับมาว่า "มันไม่ใช่ยาพิษสักหน่อย แม่จะกังวลทำไม" จนกระทั่งคืนหนึ่ง เขามีอาการปวดท้องรุนแรงจนต้องหามส่งโรงพยาบาล

ผลตรวจทำเอาคนในครอบครัวช็อก เมื่อแพทย์ระบุว่าเป็น มะเร็งกระเพาะอาหาร (Adenocarcinoma) ระยะลุกลาม โดยคำถามแรกที่หมอถามคือ "ปกติทานอาหารรสหวานจัด หรือของมันๆ บ่อยแค่ไหน?" ซึ่งเคสนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ในปัจจุบัน เพราะคนรุ่นใหม่เริ่มป่วยด้วยโรคนี้เร็วขึ้นจากพฤติกรรมการกิน

ภัยเงียบหลังแก้วชานมหวานหอม

ชานมไข่มุกที่หลายคนยกให้เป็นน้ำเยียวยาใจ แท้จริงแล้วซ่อนความเสี่ยงทางสุขภาพไว้มากมาย หากดื่มมากเกินพอดี:

  • น้ำตาลเกินพิกัด: ชานม 1 แก้ว อาจมีน้ำตาลสูงถึง 35 กรัม (ประมาณ 7 ก้อน) ซึ่งเกินกว่าที่องค์การอนามัยโลกแนะนำต่อวัน เสี่ยงต่อเบาหวานและระบบเผาผลาญพัง
  • ไขมันทรานส์ทำลายหลอดเลือด: ครีมเทียมมักมีไขมันทรานส์ ซึ่งก่อให้เกิดการอักเสบในหลอดเลือด และเป็นปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร
  • สารพิษจากพลาสติก: หากดื่มร้อนในแก้วพลาสติกที่ไม่ทนความร้อน อาจได้รับสาร BPA ที่รบกวนฮอร์โมนและภูมิคุ้มกัน
  • ทำลายสมดุลลำไส้: น้ำตาลและไขมันสูงทำให้แบคทีเรียเลวในลำไส้เจริญเติบโต ทำลายเกราะป้องกันกระเพาะอาหารและลำไส้

หากดื่มทุกวันติดต่อกัน 6 เดือน ร่างกายจะเป็นอย่างไร?

สำหรับผู้ที่เสพติดการดื่มทุกวัน ร่างกายจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่ากลัว ดังนี้:

  • น้ำหนักพุ่งพรวด: ชานม 1 แก้วให้พลังงานราว 500 แคลอรี หากดื่มทุกวัน 6 เดือน น้ำหนักอาจขึ้นได้ถึง 6-8 กิโลกรัม พร้อมของแถมคือไขมันพอกตับ
  • เสี่ยงมะเร็งทางเดินอาหาร: งานวิจัยพบความเชื่อมโยงระหว่างการกินน้ำตาลสูงกับมะเร็งกระเพาะอาหารและลำไส้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีประวัติโรคกระเพาะหรือติดเชื้อ H. pylori
  • อารมณ์แปรปรวน: ภาวะ "ติดน้ำตาล" จะทำให้หงุดหงิดง่าย ขาดสมาธิเมื่อไม่ได้ดื่ม
  • ภาวะก่อนเบาหวาน: ตับอ่อนทำงานหนักจนผลิตอินซูลินได้ไม่ดี นำไปสู่โรคเบาหวานในอนาคต

ทางออกสำหรับคนเลิกขาดไม่ได้

หากการหักดิบเป็นเรื่องยาก แพทย์แนะนำให้ปรับเปลี่ยนทีละนิด เช่น เปลี่ยนมาดื่มชาสมุนไพร น้ำเปล่าผสมผลไม้ หรือโยเกิร์ตสูตรน้ำตาลน้อยแทน หากอยากดื่มจริงๆ ให้จำกัดโควตาไม่เกิน 1 แก้วต่อสัปดาห์ โดยสั่งหวานน้อย ไม่ใส่ครีมเทียม และลดท็อปปิ้ง เพื่อรักษาชีวิตและสุขภาพกระเพาะอาหารของคุณไว้

สาวอายุ 27 \

สาวอายุ 27 "เลือดเปลี่ยนสี" ขาวขุ่นเหมือนนม แพทย์ชี้สาเหตุช็อก เครื่องดื่มใกล้ตัวสุดๆ

ผู้หญิง 27 ปี มีเลือดขาวขุ่นเหมือนนม สาเหตุจากเครื่องดื่มยอดนิยม บริโภคมากเสี่ยงตับอ่อนอักเสบ

เครื่องดื่มโปรดทำร้าย หนุ่มวัย 23 จู่ๆ เดินไม่ได้ ภัยเงียบซ่อนอยู่ใต้คำว่า \

เครื่องดื่มโปรดทำร้าย หนุ่มวัย 23 จู่ๆ เดินไม่ได้ ภัยเงียบซ่อนอยู่ใต้คำว่า "หวานน้อย"

เครื่องดื่มโปรดทำร้าย หนุ่มวัย 23 เจ็บเข่าจนเดินไม่ได้ แพทย์เตือนระวังตกหลุมพราง ฆาตกรซ่อนอยู่ใต้คำว่า "หวานน้อย"