พ่อแม่ต้องใจแข็ง! 2 สิ่งที่ลูกขอแล้ว "ห้ามให้" เด็ดขาด ถ้าไม่อยากน้ำตาเช็ดหัวเข่าตอนแก่
2 สิ่งที่ลูกขอแล้วพ่อแม่ต้อง "กล้าปฏิเสธ" ให้เป็น ไม่อย่างนั้นอาจทำร้ายลูกทางอ้อม
ความรักที่พ่อแม่มีให้ลูกนั้นไร้เงื่อนไข และบ่อยครั้งที่ความรักทำให้เราอยากมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่ลูกต้องการ แต่ในความเป็นจริง ไม่ใช่ทุกคำขอของลูกจะสมเหตุสมผล และหน้าที่ของพ่อแม่ไม่ใช่การตอบสนองทุกความต้องการ การช่วยเหลือที่แท้จริงไม่ใช่การโอบอุ้มไปตลอดชีวิต แต่คือการสร้างรากฐานให้ลูกมี "ภูมิคุ้มกัน" ในการเผชิญโลกกว้างด้วยตัวเอง
เมื่อลูกเอ่ยปากขอ 2 สิ่งนี้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าพ่อแม่ต้องใจแข็งและกล้าที่จะปฏิเสธ เพราะถ้าเผลอให้ไปแล้ว อาจกลายเป็นการทำร้ายทั้งตัวลูกและตัวพ่อแม่เองในระยะยาว
1. เงินก้อนสุดท้ายสำหรับ "วัยเกษียณ"
พ่อแม่ทำงานหนักมาครึ่งค่อนชีวิต ควรเก็บเงินก้อนนี้ไว้เพื่อดูแลตัวเองในยามแก่เฒ่า แม้จะมีคำกล่าวว่า "มีลูกเพื่อจะได้พึ่งพาตอนแก่" แต่ในความเป็นจริง เมื่อลูกเติบโต เขาก็ต้องมีครอบครัวและภาระของตัวเอง การคาดหวังให้ลูกมาดูแลทั้งหมดอาจเป็นเรื่องยากในยุคปัจจุบัน
มีบทเรียนจากภาพยนตร์และชีวิตจริงมากมาย ที่พ่อแม่ยอมยกทรัพย์สินหรือเงินเก็บทั้งชีวิตให้ลูกด้วยความรัก โดยหวังว่าลูกจะกตัญญู แต่สุดท้ายกลับถูกทอดทิ้ง หรือลูกนำเงินไปใช้จนหมดแล้วไม่สนใจดูแลพ่อแม่ ทำให้พ่อแม่กลายเป็นคน "มีบ้านแต่กลับไม่ได้" ต้องลำบากในบั้นปลายชีวิต
ความรักลูกเป็นสัญชาตญาณ แต่พ่อแม่ต้องรักตัวเองให้เป็นก่อน เงินเกษียณคือหลักประกันสุดท้าย หากมอบให้ลูกไปหมด เท่ากับเราตัดความมั่นคงของตัวเองทิ้งไป
2. ความรักและการปกป้องที่ "มากเกินพอดี"
โบราณว่า "รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี" แต่ในยุคนี้อาจหมายถึงการรู้จักปล่อยให้ลูกลำบากบ้าง การตามใจหรือปกป้องลูกมากเกินไป (Over-parenting) จะสร้างลูกให้กลายเป็น "ยักษ์ที่อ่อนแอ" มีร่างกายเป็นผู้ใหญ่แต่ข้างในยังเป็นเด็ก
เคยมีกรณีอุทาหรณ์ของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่รักลูกมาก ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม ลูกไม่ต้องหยิบจับทำงานบ้านหรือรับผิดชอบอะไรเลย ผลคือเมื่อลูกโตขึ้นกลับทำงานไม่ทน เปลี่ยนงานบ่อยโดยอ้างว่าเจ้านายไม่ดี เพื่อนร่วมงานแย่ สุดท้ายก็กลับมาเกาะแม่กิน ขอเงินแม่ใช้ พอแม่ไม่ให้ก็ใช้อารมณ์ข่มขู่
การไม่ให้ลูกฝึกแก้ปัญหา ไม่เคยปล่อยให้เจอความผิดหวัง จะทำให้เขาคิดว่าโลกทั้งใบต้องหมุนรอบตัวเขาเหมือนที่พ่อแม่ทำ ซึ่งในโลกแห่งความจริงไม่มีใครมาคอยโอ๋เขาแบบนั้น พ่อแม่ที่ปกป้องลูกจนเกินเหตุ จึงเท่ากับสร้าง "คนพิการทางความรู้สึก" ที่ยืนด้วยลำแข้งตัวเองไม่ได้
รักลูกให้ถูกทาง
ความรักของพ่อแม่ไม่มีใครสงสัย แต่ถ้ารักแบบไร้ขอบเขต ผลลัพธ์อาจจบลงด้วยความเจ็บปวดทั้งสองฝ่าย พ่อแม่ไม่จำเป็นต้องเป็นเทียนไขที่ยอมเผาตัวเองจนมอดไหม้เพื่อลูก แต่จงเป็นต้นไม้ใหญ่ที่แข็งแรง เพื่อยืนเคียงข้างให้ลูกดูเป็นแบบอย่างในการเติบโตอย่างมั่นคง
- ครูใหญ่ขอเคล็ดลับ สาวเลี้ยงลูกให้เป็นอันดับ 1 ของโรงเรียน ไม่กั๊กบอก 3 สิ่งที่ทำทุกวัน
- ไขปริศนาความเชื่อ “ขวัญ” บนหัวเกิดจากอะไร เด็กมี 3 ขวัญ จะฉลาดกว่าปกติจริงไหม?
.jpg)