เนื้อหาในหมวด สุขภาพ

ปวดท้องแบบไหน เป็นโรค “กระเพาะอาหารอักเสบ”

ปวดท้องแบบไหน เป็นโรค “กระเพาะอาหารอักเสบ”

อาการปวดท้องสามารถเกิดขึ้นกับเราได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดท้องเล็กๆ อย่าง ปวดท้องเพราะท้องเสีย ปวดท้องเพราะท้องอืด หรือปวดท้องเพราะหิวข้าว แต่อาการปวดท้องก็มีอยู่หลายประเภทที่สามารถบ่งบอกได้ว่าอาการปวดท้องแบบไหน เป็นโรคอะไร โรคที่คนมักถึงทุกครั้งเมื่อมีอาการปวดท้อง ก็คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก “โรคกระเพาะอักเสบ” โรคนี้เป็นอย่างไร มีอาการปวดท้องแบบไหนที่บ่งบอกถึงโรคนี้ได้อย่างชัดเจน มาศึกษากัน

 

กระเพาะอาหารอักเสบ คืออะไร?

โรคกระเพาะอาหารอักเสบ หรือที่นิยมเรียกโดยทั่วไปว่าเป็นโรคกระเพาะ เกิดจากอาการอักเสบ หรือระคายเคืองเฉียบพลันของเยื่อบุในกระเพาะอาหาร เป็นเพราะชั้นเยื่อเมือกเคลือบกระเพาะอาหารที่เอาไว้ป้องกันกรดจากน้ำย่อยทำลายเยื่อบุในกระเพาะอาหารน้อยลง จากการที่กระเพาะอาหารอยู่ในภาวะอักเสบ จึงทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหารถูกกรดทำลายจนมีแผลในกระเพาะอาหาร เกิดอาการอักเสบมากยิ่งขึ้น และทำให้เกิดอาการปวดแสบท้อง

โรคกระเพาะอาหารอักเสบ สามารถเป็นได้ทั้งแบบเฉียบพลัน สามารถหายได้ใน 1-2 สัปดาห์ หรืออักเสบเรื้อรังยาวนาน จนอาจกลายเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารได้

 

สาเหตุของโรคกระเพาะอาหารอักเสบ

ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของโรคกระเพาะอาหาร แต่มีข้อสันนิษฐานหลายประการ เช่น

- การติดเชื้อแบคทีเรีย เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร หรือ เอช ไพโลไร (Helicobacter pylorior หรือ H. pylori) ซึ่งเป็นเชื้อที่พบได้ในอาหาร และน้ำดื่ม

- การรับประทานในกลุ่มยาต้านการอักเสบหรือยาแก้ปวด (Non-Steroidal Anti-Inflammatory Drugs: NSAIDs)

- การติดเชื้อราบางประเภท

- การสูบบุหรี่

- การดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ น้ำอัดลม

- ระบบภูมิคุ้มกันตนเองบกพร่องจากโรคบางชนิด เช่นโรคโครห์น (Crohn's disease) โรคซาคอยโดซิส (Sarcoidosis)

- ภาวะอักเสบเรื้อรังทางกระเพาะอาหารอื่นๆ

เป็นต้น

 

อาการของโรคกระเพาะอาหารอักเสบ

โดยทั่วไปแล้วอาการที่แสดงออกได้อย่างชัดเจน คืออาการปวดท้อง โดยลักษณะการปวดท้องจะแตกต่างจากการปวดท้องตามปกติ ได้แก่

  • ปวดท้องส่วนบน (เหนือสะดือ) และอาจปวดร้าวไปถึงหลังได้
  • ปวดท้องแบบจุกเสียด แน่นท้อง เรอบ่อย
  • มักมีอาการปวดในช่วงก่อน หรือหลังรับประทานอาหาร ที่เรียกกันว่า หิวก็ปวด อิ่มก็ปวด
  • อาจปวดท้องด้วย และมีอาการอื่นๆ ด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน อาหารไม่ย่อย
  • นอกจากนี้ ในบางรายยังอาจมีอาการอาเจียนเป็นเลือด ถ่ายเป็นเลือด หรือมีสีดำเข้มผิดปกติ ซึ่งเป็นอาการที่ค่อนข้างหนัก ควรรีบพบแพทย์ทันที

     

    การรักษาโรคกระเพาะอาหารอักเสบ

    แพทย์อาจพิจารณาก่อนว่ามีอาการหนักมากน้อยแค่ไหน จากนั้นถึงพิจารณาวิธีการรักษา อาจให้ยาปฏิชีวนะ เช่น ยาคลาริโธรมัยซิน (Clarithromycin) ยาอะมอกซิซิลลิน (Amoxicillin) หรือยาเมโทรนิดาโซล (Metronidazole) เพื่อช่วยในการการฆ่าเชื้อ ในกรณีที่ตรวจพบว่าเป็นการอักเสบจากการติดเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อย

    อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบจากสาเหตุอื่นๆ แพทย์อาจให้การรักษาตามอาการแบบประคับประคองให้อาการของผู้ป่วยค่อยๆ ดีขึ้นทีละอย่าง เช่น ให้ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร รักษาแผลในกระเพาะอาหาร หรือผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง อาจต้องหยุดการทานยาแก้ปวด และเปลี่ยนตัวยาเป็นตัวอื่นที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกันแทน

    นอกจากนี้ยังอาจขอให้ลดพฤติกรรมที่อาจทำให้อาการแย่ลง เช่น ลดการดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และงดการสูบบุหรี่ เป็นต้น

     

    อันตรายจากภาวะแทรกซ้อนของโรคกระเพาะอาหารอักเสบ

    หากปล่อยให้อาการของโรคกระเพาะอาหารอักเสบแย่ลง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายต่อร่างกายได้ เช่น ภาวะเลือดออกในกระเพาะอาหาร และกระเพาะอาหารอุดตัน ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยมีอันตรายจนถึงชีวิตได้

     

    การป้องกันโรคกระเพาะอาหารอักเสบ

  • รักษาสุขอนามัยต่ออาหาร น้ำดื่ม รวมไปถึงภาชนะบรรจุอาหาร และมือที่หยิบจับอาหารให้สะอาด เพื่อลดการติดเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร ที่มักพบได้จากการปะปนในอาหาร และน้ำดื่ม

  • หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่กระตุ้นให้กระเพาะอาหารมีความเสี่ยงต่อการอักเสบ เช่น ดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน สูบบุหรี่ และภาวะเครียด เป็นต้น

  • ไม่ควรซื้อยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบทางเดินอาหารหรือยาในกลุ่มลดอาการปวดรับประทานเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ เภสัชกร หรือพยาบาล

  • ทานอาหารปรุงสุก ในปริมาณที่ไม่มาก และไม่น้อยเกินไป

  • ไม่ทานอาหารรสจัดมากจนเกินไป หรือทานอาหารรสจัดติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้กระเพาะอาหารผลิตน้ำย่อยออกมามากเกินไป จนเกิดอาการระคายเคืองเยื่อบุกระเพาะอาหารได้
  • โรคกระเพาะ เกิดจากอะไร วิธีดูแลตนเองเมื่อเป็น โรคกระเพาะ

    โรคกระเพาะ เกิดจากอะไร วิธีดูแลตนเองเมื่อเป็น โรคกระเพาะ

    โรคกระเพาะเกิดจากการระคายเคืองของเยื่อบุกระเพาะอาหาร สาเหตุหลักมาจากกรดเกิน ความเครียด และการรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา

    ปวดท้องข้างซ้าย เสี่ยงเป็นโรคอะไรได้บ้าง พร้อมวิธีดูแลเบื้องต้น

    ปวดท้องข้างซ้าย เสี่ยงเป็นโรคอะไรได้บ้าง พร้อมวิธีดูแลเบื้องต้น

    อาการปวดท้องข้างซ้าย เป็นสัญญาณเตือนที่เกิดจากอาการผิดปกติ เรียนรู้อาการปวดท้องข้างซ้ายกันก่อน จะได้รู้ว่าอาการที่เกิดจะบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพอะไรได้บ้าง

    ปวดท้องข้างขวา ในตำแหน่งต่างๆ เสี่ยงเกิดโรคอะไรบ้าง

    ปวดท้องข้างขวา ในตำแหน่งต่างๆ เสี่ยงเกิดโรคอะไรบ้าง

    เมื่อคุณมีอาการปวดท้องข้างขวาบนเกิดขึ้น อีกทั้งยังมักจะเป็นอาการปวดที่เกิดหลังจากการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง นั่นอาจหมายความได้ว่า คุณกำลังมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดี รวมถึงโรคตับ