เนื้อหาในหมวด หนัง-ละคร

ปัญหาในกองถ่าย Blade เพราะเหล้า-ยา จึงทำให้ Wesley Snipes หมดอนาคต โดย ตั๋วร้อน ป๊อปคอร์นชีส

ปัญหาในกองถ่าย Blade เพราะเหล้า-ยา จึงทำให้ Wesley Snipes หมดอนาคต โดย ตั๋วร้อน ป๊อปคอร์นชีส

รู้ไหมว่าทีมงานหนัง Blade: Trinity (2004) สมควรได้เครดิตทีมงานยอดเยี่ยมมากๆ ที่ถ่ายทำและตัดต่อหนังออกมาได้ขนาดนี้ เพราะระหว่างการถ่ายทำเกิดปัญหาขึ้นมากมาย ปัญหาใหญ่คงหนีไม่พ้นดาราใหญ่(ในขณะนั้น)อย่าง Wesley Snipes ที่พ่วงตำแหน่งโปรดิวเซอร์ของหนังด้วย ปัญหานี้มันเริ่มก่อตัวมาตั้งแต่ภาคแรกๆ แล้ว ด้วยความสำเร็จของหนังภาคแรกทำให้อีโก้ของ Wesley Snipes พุ่งกระฉูด จะเห็นได้ว่าในแต่ละภาคจะใช้ผู้กำกับไม่ซ้ำ ภาคแรกคือ Stephen Norrington ภาคสองเป็น Guillermo del Toro และพวกเขาไม่กลับมาสานต่อเพราะมีเรื่องมีราวกับดารานำนี่เอง

เมื่อผู้กำกับเก่าไม่ยอมกลับมา หวยจึงมาตกอยู่กับ David S. Goyer มือเขียนบทที่ปั้นโปรเจ็กต์นี้มากับมือ เขาจึงต้องรับหน้าที่กำกับเอง ทั้งที่เคยกำกับหนังเล็กๆ มาเรื่องเดียวคือ Zig Zag (2002) ซึ่งมี Wesley Snipes ร่วมแสดง ทำให้เขาสนิทสนมกัน และ David S. Goyer เล็งเห็นว่า Wesley Snipes คือ Blade ในอุดมคติ หากว่ามันถูกสร้างเป็นหนัง Wesley Snipes เอาด้วย และควบตำแหน่งโปรดิวเซอร์ร่วม

 

นักแสดง Wesley Snipes (เวสลีย์ สไนปส์)

แต่เมื่ออีโก้เกิดขึ้น มันย่อมมาพร้อมความแตกหัก David S. Goyer ก็ทัดทานไม่อยู่ ปัญหามันมาระเบิดเอาตอนภาคสาม Blade: Trinity เมื่อทีมงานใส่บทบาทของ Ryan Reynolds และ Jessica Biel เข้ามาเสริม จากปากคำของ Patton Oswalt หนึ่งในนักแสดงเขาเล่าให้สื่ออย่าง The AV Club ฟังว่า

"เขาไม่ยอมออกมาจากรถเทรลเลอร์และจะสูบกัญชาทั้งวัน แล้ววันหนึ่งผมก็จำได้ในกองถ่าย พวกเขาปล่อยให้ทุกคนเลือกเสื้อผ้าของตัวเอง มีนักแสดงผิวดำคนหนึ่งสวมเสื้อตัวนี้ที่มีคำว่า 'Garbage(ขยะ)' และ Wesley Snipes ลงมาที่กองถ่าย ซึ่งเขาจะถ่ายแค่ฉากโคลสอัพใบหน้าเท่านั้น ส่วนฉากอื่นๆ(เช่น ฉากต่อสู้)เล่นโดยสแตนอินของเขา ผมถ่ายฉากเดียวกับเขา แต่เขาเข้ามาแล้วพูดว่า 'ในหนังมีผู้ชายผิวสีอีกคนเดียว แล้วคุณให้เขาใส่เสื้อที่เขียนว่า 'ขยะ' เนี่ยนะ ไอ้พวกเหยียดผิว!' แล้วเขาก็พยายามจะบีบคอผู้กำกับ David S. Goyer"

ผู้กำกับ David S. Goyer (เดวิด เอส. โกเยอร์)

นั่นคือความตึงเครียดที่เริ่มปะทุขึ้น อันที่จริงสิ่งที่ Wesley Snipes พูดมันก็ถูก แต่หลายๆ คนหลายๆ ฝ่ายลงความเห็นกันว่าไม่ใช่แค่เท่านั้นที่เป็นปัญหา เพราะ Wesley Snipes ไม่สื่อสารกับ David S. Goyer เขาทำแค่เพียงสื่อสารผ่านกระดาษแปะ โดยเขาจะเขียนทุกๆ อย่างลงบนกระดาษแล้วแปะให้ทุกคนอ่าน กระดาษทุกๆ ใบจะมีคำว่า Blade กำกับใต้ข้อความ แสดงถึงความเป็นขาใหญ่ที่สุดในกอง

นักแสดง Ryan Reynolds (ไรอัน เรย์โนลส์)

แล้วเขาก็เอาแต่ดื่มเหล้าพี้กัญชา มีอย่างอื่นด้วยมั้ยอันนี้ต้องไปสืบเอาเอง และเขาเมามาเข้าฉากเสมอๆ และเริ่มพูดจาไม่ดีต่อทีมงานและนักแสดงคนอื่นๆ Ryan Reynolds เองก็โดนไปเต็มๆ ถึงขนาดมีปากเสียงกระบทกระทั่งแล้วลงเอยด้วยการที่ Ryan Reynolds ถูกตบเข้าที่ใบหน้าแล้วด่าว่า "หุบปากไปซะไอ้หนู ถ้านายไม่อยากตาย" ในเวลานั้น Ryan Reynolds เป็นดาราเบอร์เล็กกว่า แต่ก็ปฏิเสธที่จะเข้าฉากร่วมกับ Wesley Snipes โดยในฉากที่ Ryan Reynolds พ่นบทพูดไฟแลบนั้นได้เพราะไม่ได้ร่วมฉากโดยตรงกับ Wesley Snipes บรรยากาศในกองถ่ายทำให้ทั้ง Ryan Reynolds และ David S. Goyer เห็นพ้องต้องกันว่ามันคือประสบการณ์การทำงานที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยทำมา

นักแสดง Jessica Biel (เจสสิกา บีล)

ในรายของ Jessica Biel เองก็ไม่รอด ข่าวว่าเธอถูก Wesley Snipes ลวนลามในกองถ่ายจน Wesley Snipes ต้องออกมาขอโทษที่ทำไปเพราะเมา และในรายของนักมวยปล้ำอย่าง Triple H เองก็โดนเล่นนอกคิวจนบาดเจ็บที่หลัง และเมื่อทีมงานหาสตั๊นท์แมนมาแสดงแทน Wesley Snipes ก็เล่นเอาจริงจนสตั๊นท์คนนั้นได้ไปนอนหยอดน้ำเกลือที่โรงพยาบาล

มีความโกลาหลมากมายเกิดขึ้นในกองถ่าย Blade: Trinity แต่หนังก็ถูกถ่ายทำและตัดต่อออกมาได้เท่าที่จะทำให้มันออกมาดีได้ หนังได้รับคำวิจารณ์ในแง่ลบ แต่ก็ทำรายได้เอาตัวรอดไปได้ และไม่มีใครกล้าที่จะทำงานร่วมกับดาราอย่าง Wesley Snipes อีกเลย หลังจากนั้นมาเขาก็ถูกวงการหันหลังให้ แล้วไปหากินกับหนังเกรดรองอย่างที่เห็น

 

รีวิว BLADE RUNNER 2049 - เมื่อมนุษย์จำลองพยายามทำความเข้าใจมนุษย์

รีวิว BLADE RUNNER 2049 - เมื่อมนุษย์จำลองพยายามทำความเข้าใจมนุษย์

คนทั่วไปอาจจะรู้สึกไม่คอนเนคกับหนังเพราะหน้าหนังอาจจะทำให้คนดูทั่วไปที่ไม่เข้าใจว่า BLADE RUNNER นั้นไม่ใช่หนังแอ็คชั่นตูมตามโลกอนาคตแบบ Ghost in the shell แต่อันที่จริงมันเป็นหนังฟิล์มนัวร์ สืบสวนสอบสวน ที่ซ้อนทับด้วยปรัชญาและแนวคิดการตั้งคำถามถึงจิตวิญญาณของมนุษย์

Blade Runner 2049 ส่อแววเจ๊งตามรอยภาคแรก

Blade Runner 2049 ส่อแววเจ๊งตามรอยภาคแรก

จะเรียกว่าเป็นหนังที่ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยกับหนังภาคแรกอย่าง Blade Runner เมื่อ 35 ปีที่แล้วก็ไม่น่าจะผิดนัก ทั้งที่หนัง Blade Runner 2049 กอบโกยคำวิจารณ์ในแง่บวกอย่างเอกฉันท์จากบรรดานักวิจารณ์ งานโปรดักชั่นการออกแบบที่พูดได้คำเดียวว่าเมื่อถึงช่วงเทศกาลรางวัลจะต้องมีรายชื่อหนังเรื่องนี้ติดโผอย่างแน่นอน ยังไม่รวมไปถึงทีมนักแสดงระดับเอลิสท์ด้วย

เรื่องน่ารู้ก่อนดู BLADE RUNNER 2049

เรื่องน่ารู้ก่อนดู BLADE RUNNER 2049

สามสิบปีหลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก เบลดรันเนอร์คนใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจเค (ไรอัน กอสลิ่ง) จากกรมตำรวจแอลเอ ได้เปิดเผยความลับที่ซ่อนไว้มานาน ที่สามารถจะทำให้ความเป็นสังคมที่ยังคงหลงเหลืออยู่ตกอยู่ในความโกลาหลได้ การค้นพบของเคได้นำเขาไปสู่การผจญภัยเพื่อตามหาริค เด็คคาร์ด อดีตเบลดรันเนอร์จากกรมตำรวจแอลเอ ผู้หายตัวไปกว่าสามทศวรรษ