เนื้อหาในหมวด หนัง-ละคร

เรื่องน่ารู้ก่อนดู BLADE RUNNER 2049

เรื่องน่ารู้ก่อนดู BLADE RUNNER 2049

 

 

เกิดไม่ทันหนังภาคแรก

ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีการนำบรรดาหนังชื่อดังในอดีตกลับมาคืนจอภาพยนตร์กันถี่ยิบ จนเหล่าบรรดาเด็กวัยรุ่นและวัยทำงานตอนต้นเกิดไม่ทันหนังดังเหล่านี้ในอดีต แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาสำคัญเพราะการที่หนังเหล่านั้นนำมาทำใหม่ก็เพื่อให้มัน “เข้าถึง” กลุ่มคนในยุคปัจจุบันนี่แหละ

 

เกิดอะไรใน BLADE RUNNER ภาคแรก

 

 

 

ความเป็นมา

ในปี 1982 BLADE RUNNER เป็นภาพยนตร์ไซไฟที่เรียกได้ว่าสร้างความตื่นตะลึงให้กับวงการภาพยนตร์เป็นอย่างมาก เพราะภาพวิชวลในหนังอันเกิดขึ้นในโลกอนาคต เรียกได้ว่าในยุคสมัยเมื่อ 35 ปีก่อน ภาพบรรยากาศที่ดูสมจริงสมจังขนาดนั้น ทำให้หนังได้รับการจดจำและได้สร้างมาตรฐานบางอย่างเกี่ยวกับ “โลกอนาคตในหนังไซไฟ”

หนังภาคแรก เป็นผลงานการกำกับของ ริดลีย์ สก็อต ซึ่งในยุคสมัยนั้นลุงคือผู้กำกับที่มีสไตล์การทำหนังที่โดดเด่นมาก อันที่จริงแกเป็นที่จับตามองของแฟนหนังหลังจากที่กำกับ Alien ในปี 1979

 

 

 

เรื่องราวของหนัง

ใน BLADE RUNNER ภาคแรกเล่าเรื่องราวของ โลกอนาคตที่มนุษย์ต้องย้ายไปอยู่กันอย่างแออัดในชุมชนที่เรียกว่า “ออฟ เวิร์ล” ซึ่งคือลอสแองเจอลิส ในปัจจุบัน ในขณะที่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนโลกนั้นอยู่ในกำมือของประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ในอนาคตยังมีการสร้าง แรปลิแคนท์ หรือหุ่นยนต์ที่มีลักษณะเหมือนกับมนุษย์ทุกประการ จะสามารถแยกแยะได้จากดวงตาหรือการใช้คำถามพิเศษในการสอบถามราว 20-30 คำถาม

ริค เด็ดคาร์ด (แฮริสัน ฟอร์ด) เบลดรันเนอร์ผู้มีหน้าที่เป็นสายสืบผู้ต้องคอยระวังป้องกันไม่ให้แรปลิแคนท์ละเมิดกฎในการเดินทางมายังโลกมนุษย์ เพราะแรปลิแคนท์ถูกกำหนดพื้นที่ในการทำงานให้อยู่เฉพาะบนดวงจันทร์เท่านั้น แต่เมื่อมีแรปลิแคนท์ นักฆ่า 3 ตัวเดินทางมายังโลกมนุษย์เพื่อตามหา “ผู้สร้าง” ว่าพวกมันจะหมดอายุขัยเมื่อใด ส่งผลให้ริคต้องสืบความจริงให้ได้ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้

 

 

หนังก่อนยุคสมัยและสไตล์อันโดดเด่น

โทนหนังที่เป็นหนังแนววิทยาศาสตร์ผสมกับหนังสืบสวนแบบฟิล์มนัวร์ บรรยากาศของโลกมนุษย์ในอนาคตที่ขมุกขะมัว สกปรก เต็มไปด้วยแสงนีออน สภาพอากาศแบบชื้นๆฝนตกอยู่ตลอดเวลา ทำให้บรรยากาศของหนังเรื่องนี้คล้ายกับหนังอาชญากรรม อีกทั้งบทภาพยนตร์เรื่องนี้ยังดัดแปลงมาจากนวนิยายของฟิลลิปส์ เค ดิกส์ เรื่อง Do Androids Dream of Electric Sheep

แม้จะมีองค์ประกอบที่ทำให้หนังน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นนักแสดง ผู้กำกับ หรือกกระทั่งบทภาพยนตร์ แต่ BLADE RUNNER ซึ่งใช้งบลงทุนมหาศาลในเวลานั้นกลับทำเงินทั่วโลกแค่เพียง 32 ล้านเหรียญเท่านั้น จนกระทั่ง 10 ปีให้หลังในปี 1992 ริดลีย์ สก็อตต์ได้ปล่อยภาพยนตร์ในเวอร์ชั่นไดเรกเตอร์ คัท ออกมาอีกครั้ง ทำให้หนังเรื่องนี้ได้รับการกล่าวถึงจากบรรดาผู้ชมและนักวิจารณ์ว่ามันคือหนังที่มาก่อนยุคสมัย เพราะความคลุมเครือของตัวละครที่มีลักษณะเป็น “สีเทา” มากกว่าจะแบ่งดีชั่วชัดเจน ไม่ได้มีการตัดสินผลลัพธ์ของเรื่องว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกต้อง หรือเป็นบทสรุปที่แท้จริง ซึ่งการหยิบหนังเรื่องนี้มาดูในยุคปัจจุบัน อาจจะรู้สึกว่าไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ แต่ถ้าลองนึกย้อนไปถึง 35 ปีที่แล้ว BLADE RUNNER คือหนังที่มาก่อนกาลเวลาอย่างแท้จริง อีกทั้งมันยังเป็นต้นแบบของหนังไซไฟเรื่องดังมากมายอาทิ แอนิเมชั่น Ghost in the shell, The Matrix กระทั่ง The Fifth Element เป็นต้น  

 

 

เกิดอะไรใน Blade Runner 2049

สามสิบปีหลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก เบลดรันเนอร์คนใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจเค (ไรอัน กอสลิ่ง) จากกรมตำรวจแอลเอ ได้เปิดเผยความลับที่ซ่อนไว้มานาน ที่สามารถจะทำให้ความเป็นสังคมที่ยังคงหลงเหลืออยู่ตกอยู่ในความโกลาหลได้ การค้นพบของเคได้นำเขาไปสู่การผจญภัยเพื่อตามหาริค เด็คคาร์ด อดีตเบลดรันเนอร์จากกรมตำรวจแอลเอ ผู้หายตัวไปกว่าสามทศวรรษ

 

 

คำถามที่นำมาสู่บทภาพยนตร์ภาคใหม่

“อะไรคือนิยามของความเป็นมนุษย์” นั่นเป็นคำถามที่ผู้กำกับเดนิส วิลเลอเนิฟเอ่ยถาม และคำตอบที่น่าประหลาดใจภายใน “Blade Runner 2049” ผลงานภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเขานี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการตั้งคำถามกับค่านิยมและคุณค่าของความเป็นมนุษย์ โดยในหนังภาคแรกนั้น ได้ทำนายถึงข้อกังวลทางสังคมหลายๆ อย่างที่ยิ่งเด่นชัดมากขึ้นและด้วยความที่ตอนนี้โลกของเรากำลังจะก้าวถึงช่วงเวลาเกิดเรื่องใน “Blade Runner” มันก็ยิ่งดูเหมือนจะเป็นการเปิดเผยและมีความเชื่อมโยงมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ด้วยการพยากรณ์ถึงปัญหาของความเสื่อมโทรมของสังคมเมือง ความเปลี่ยนแปลงด้านสภาวะอากาศ การตัดต่อพันธุกรรม ปัญหาประชากรล้นโลก การแบ่งแยกชนชั้นทางสังคมและเศรษฐกิจ และ ฯลฯ

 

 

‘Blade Runner 2049’ จะพาคนดูไปสำรวจคุณภาพของชีวิตทั้งมนุษย์และมนุษย์เทียม และแม้ว่าพวกเขาจะมีรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกันมากๆ แต่พวกเขาก็แตกต่างกันมากๆ ด้วยเพราะฝ่ายหนึ่งถือกำเนิดขึ้นมา ส่วนอีกฝ่ายถูกสร้างขึ้นมา และความแตกต่างสำคัญระหว่างพวกเขาคือเชื่อกันว่ามนุษย์ที่ถือกำเนิดขึ้นมาจะมีจิตวิญญาณ แต่อะไรคือธรรมชาติของจิตวิญญาณนั้นและมันเป็นเอกลักษณ์ของมนุษย์จริงๆ น่ะหรือ

 

 

ถ้าไม่เคยดูหนังภาคแรกจะดูภาคนี้รู้เรื่องไหม

ทีมผู้สร้างได้เน้นย้ำว่า แม้ว่า “Blade Runner 2049” จะตามรอยเท้าของต้นฉบับ แต่มันก็สามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเองเช่นกัน “แม้ว่าคุณจะไม่เคยดูภาคแรก คุณก็จะไม่มีปัญหาในการเข้าใจเรื่องราวเลย ด้วยลักษณะที่มันเขียนบทและถูกนำเสนอ คุณจะเพลิดเพลินและดื่มด่ำไปกับดรามาโดยไม่จำเป็นต้องรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้” เพียงแค่ถ้าหากคนี่เคยชมภาคแรกมาก่อนอาจจะเชื่อมโยงได้ถึงปมประเด็นบางอย่างของตัวละครเพิ่มมากขึ้น แบบเดียวกันกับที่คุณไม่เคยดู Jurassic Park มาก่อน ก็สามารถเข้าใจ Jurassic World ได้นั่นเอง

 

 

 

 

ควรรู้อะไรก่อนไปดู DUNE หนังอวกาศไกลโพ้นสะท้อนสังคมจักรวรรดินิยม

ควรรู้อะไรก่อนไปดู DUNE หนังอวกาศไกลโพ้นสะท้อนสังคมจักรวรรดินิยม

คนดูหนังทั่วไปอาจจะพิจารณาดูหนังสักเรื่องเพียงแค่การชมตัวอย่างภาพยนตร์เพียงไม่กี่นาที บางครั้งตัวอย่างที่อุดมไปด้วยสเปเชียลเอฟเฟ็คสุดตื่นตาตื่นใจ ฉากยานอวกาศและห้วงจักรวาล อาจจะทำให้ผู้ชมคิดไปก่อนแล้วหนังเรื่องนั้นจะต้องเต็มไปด้วยการผจญภัยหรือสงครามอวกาศอันตื่นเต้นเร้าใจ แต่นั่นอาจจะไม่ใช่ (ทั้งหมด) สำหรับ DUNE

รีวิว BLADE RUNNER 2049 - เมื่อมนุษย์จำลองพยายามทำความเข้าใจมนุษย์

รีวิว BLADE RUNNER 2049 - เมื่อมนุษย์จำลองพยายามทำความเข้าใจมนุษย์

คนทั่วไปอาจจะรู้สึกไม่คอนเนคกับหนังเพราะหน้าหนังอาจจะทำให้คนดูทั่วไปที่ไม่เข้าใจว่า BLADE RUNNER นั้นไม่ใช่หนังแอ็คชั่นตูมตามโลกอนาคตแบบ Ghost in the shell แต่อันที่จริงมันเป็นหนังฟิล์มนัวร์ สืบสวนสอบสวน ที่ซ้อนทับด้วยปรัชญาและแนวคิดการตั้งคำถามถึงจิตวิญญาณของมนุษย์

Blade Runner 2049 ส่อแววเจ๊งตามรอยภาคแรก

Blade Runner 2049 ส่อแววเจ๊งตามรอยภาคแรก

จะเรียกว่าเป็นหนังที่ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยกับหนังภาคแรกอย่าง Blade Runner เมื่อ 35 ปีที่แล้วก็ไม่น่าจะผิดนัก ทั้งที่หนัง Blade Runner 2049 กอบโกยคำวิจารณ์ในแง่บวกอย่างเอกฉันท์จากบรรดานักวิจารณ์ งานโปรดักชั่นการออกแบบที่พูดได้คำเดียวว่าเมื่อถึงช่วงเทศกาลรางวัลจะต้องมีรายชื่อหนังเรื่องนี้ติดโผอย่างแน่นอน ยังไม่รวมไปถึงทีมนักแสดงระดับเอลิสท์ด้วย