เนื้อหาในหมวด สุขภาพ

ดื่มน้ำเยอะๆ ดีต่อร่างกายจริงหรือ?

ดื่มน้ำเยอะๆ ดีต่อร่างกายจริงหรือ?

“ดื่มน้ำเยอะๆ” มักเป็นหนึ่งในคำแนะนำจากแพทย์ รวมไปถึงผู้ที่ดูแลสุขภาพทั้งหลาย เพราะเชื่อว่าการดื่มน้ำเยอะๆ จะทำให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดีขึ้น ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่คำแนะนำที่ผิดอะไร

เพียงแต่คำว่า “เยอะๆ” ของทุกคนอาจไม่เท่ากัน เท่าไรถึงเรียกว่าน้อย เท่าไรถึงเรียกว่าเยอะ เราจะทราบได้อย่างไรว่าเรากำลังดื่มน้ำอย่างเพียงพอ หรือมากเกินไป เพราะหากเรากำลังดื่มน้ำมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้

 

อันตรายจากการดื่มน้ำมากเกินไป

แน่นอนว่าอะไรที่มากเกินไปมักส่งผลเสียอยู่แล้ว มีรายงานพบผู้ป่วยโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบที่ตรวจพบอาหารน้ำเป็นพิษ หลังจากพยายามดื่มน้ำในปริมาณมากเกินไปภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง เพื่อบรรเทาอาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ (ที่ทำให้เกิดอาการปัสสาวะแสบขัด) ทำให้มีอาการชักกระตุก พูดจาสับสน อาเจียน และเสียชีวิตจากภาวะโซเดียมในร่างกายต่ำเกินไป

นอกจากนี้ยังพบว่า การดื่มน้ำคราวละมากๆ จะเป็นการสร้างภาระให้กับไตที่พยายามจะน้ำส่วนที่เกินความจำเป็นต่อร่างกายออก ไตจะทำงานหนักมากขึ้น เพราะต้องทำเวลาในการขับน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย เพื่อรีบรักษาสมดุลภายในร่างกายในเวลาอันจำกัด ดังนั้นหากมีปัญหาเกี่ยวกับไตเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จะยิ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นคนที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี 100% อาจจะพบภาวะอันตรายจากการดื่มน้ำมากเกินไปได้น้อยกว่าคนที่มีปัญหาทางสุขภาพอยู่แล้ว เพียงแต่หากยังมีพฤติกรรมดื่มน้ำครั้งละมากๆ อยู่เรื่อยๆ ก็อาจเสี่ยงเป็นอันตรายต่อร่างกายได้เช่นกัน

 

ดื่มน้ำอย่างไร ถึงจะเพียงพอต่อร่างกาย ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป

ที่กล่าวกันว่า เราควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว เป็นการคาดคะแนคร่าวๆ สำหรับทุกเพศทุกวัย แต่อันที่จริงแล้ว ปริมาณน้ำที่เราควรดื่มในแต่ละคนไม่เท่ากัน เพราะขึ้นอยู่กับรูปร่าง น้ำหนัก สุขภาพโดยรวม และกิจกรรมที่เราทำในแต่ละวันด้วย

ดังนั้นวิธีสังเกตว่าเรากำลังดื่มน้ำเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวันหรือไม่ ให้สังเกตที่ “สีของปัสสาวะ” หากสีของปัสสาวะเป็นสีเหลืองเข้มออกส้ม คุณควรดื่มน้ำให้มากขึ้น หากสีของปัสสาวะเป็นสีเหลืองอ่อนเกือบใส นั่นแปลว่าคุณกำลังดื่มน้ำอย่างเพียงพอแล้ว กลิ่นของปัสสาวะก็สำคัญ หากปัสสาวะมีกลิ่นฉุนจัดจนเกินไป อาจแสดงว่าคุณกำลังดื่มน้ำน้อยเกินไปด้วย

นอกจากนี้ จำนวนครั้งในการปัสสาวะในแต่ละวันก็สำคัญด้วยเช่นกัน ตามปกติแล้วเราควรปัสสาวะทุกๆ 3-4 ชั่วโมง หากใน 1 วันเราปัสสาวะน้อยกว่า 3-4 ครั้ง แสดงว่าคุณกำลังดื่มน้ำน้อยเกินไป ซึ่งส่งผลอันตรายต่อกระเพาะปัสสาวะ และส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้

>> 8 สัญญาณเตือนว่าคุณกำลัง “ดื่มน้ำน้อยเกินไป”

>> รู้ได้อย่างไร “ดื่มน้ำ” เพียงพอแล้วหรือยัง

 

เคล็ดลับในการดื่มน้ำให้เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

  • ควรดื่มน้ำ 1 แก้วหลังตื่นนอนตอนเช้า เพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบต่างๆ ภายในร่างกายให้เริ่มทำงานได้อย่างเป็นปกติ

  • ดื่มน้ำ 1 แก้วหลังอาบน้ำ ช่วยลดความดันโลหิตได้

  • ดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนมื้ออาหารราว 30 นาที ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดียิ่งขึ้น

  • ดื่มน้ำ 1 แก้ว หลังมื้ออาหาร ช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดียิ่งขึ้น

  • ดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนนอน ช่วยเพิ่มน้ำให้กับร่างกายก่อนการพักผ่อนอย่างยาวนานหลายชั่วโมงโดยไม่ได้ดื่มน้ำเลย (แต่มาควรดื่มน้ำมากกว่า 1 แก้ว เพราะจะทำให้ต้องลุกขึ้นมาปัสสาวะกลางดึก รบกวนการพักผ่อนยามค่ำคืน)

  • ระหว่างวัน ควรค่อยๆ จิบน้ำทีละนิด ทีละอึก ไม่ควรดื่มน้ำมากๆ ในครั้งเดียว เพราะเสี่ยงภาวะน้ำเป็นพิษ และเสี่ยงไตทำงานหนักมากเกินไป

  • หมั่นสังเกต สีและกลิ่นของปัสสาวะของตัวเองให้เป็นสีเหลืองอ่อนเกือบใส และไม่มีกลิ่นฉุนจนเกินไปเป็นประจำ

  • แม้ว่าดื่มเครื่องดื่มต่างๆ มากมายในแต่ละวัน แต่อย่างไรก็อย่าลืมว่า น้ำเปล่า เป็นน้ำที่เราควรดื่มมากที่สุด
  • คนจีนกับการดื่มน้ำอุ่น ปรับหยิน–หยางสมดุลธาตุในร่างกาย

    คนจีนกับการดื่มน้ำอุ่น ปรับหยิน–หยางสมดุลธาตุในร่างกาย

    การดื่มน้ำอุ่นตามความเชื่อของคนจีนช่วยปรับสมดุลธาตุในร่างกาย กระตุ้นการย่อยอาหาร และส่งผลดีต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด

    ดื่มน้ำก่อนนอน ไม่ดีจริงไหม? เฉลยข้อเท็จจริงจากนักโภชนาการ

    ดื่มน้ำก่อนนอน ไม่ดีจริงไหม? เฉลยข้อเท็จจริงจากนักโภชนาการ

    หลายคนเชื่อว่าการดื่มน้ำก่อนนอนอาจไม่ดีต่อสุขภาพ บทความนี้ชวนวิเคราะห์ข้อเท็จจริงทางโภชนาการ พร้อมคำแนะนำที่คุณควรรู้ก่อนนอน

    แพทย์แจง ไม่ดื่มน้ำเปล่า อาจไม่ใช่สาเหตุหลักของอัมพฤกต์-เส้นเลือดในสมองตีบ

    แพทย์แจง ไม่ดื่มน้ำเปล่า อาจไม่ใช่สาเหตุหลักของอัมพฤกต์-เส้นเลือดในสมองตีบ

    จากข่าวคนไม่ดื่มน้ำเปล่าหลายปี ทำให้เลือดข้นหนืดจนเป็นอัมพฤกษ์ เส้นเลือดในสมองตีบ สมองบวม ที่จริงแล้วเป็นอย่างไร