เนื้อหาในหมวด สุขภาพ

วิธีออกกำลังกาย เพื่อการลดน้ำหนัก ของคนอ้วน

วิธีออกกำลังกาย เพื่อการลดน้ำหนัก ของคนอ้วน

คนอ้วนหรือคนที่มีน้ำหนักตัวมากๆ และไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย มีวิธีออกกำลังกายเพื่อการลดน้ำหนักแตกต่างจากคนที่มีรูปร่างสมส่วนหรือออกกำลังกายเป็นประจำอยู่บ้างเล็กน้อย เพื่อให้ได้ผลและปลอดภัยต่อร่างกาย

แบบไหนถึงเรียกว่าอ้วน

คนอ้วน หมายถึงผู้ที่มีค่า BMI เกิน 30 เป็นต้นไป ส่วนใครที่เกิน 25 ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์น้ำหนักเกินมาตรฐาน และควรควบคุมน้ำหนักให้ลดลงเป็นปกติโดยเร็ว 

สูตรคำนวณ BMI เหมาะกับผู้ที่มีอายุ 20 ขึ้นไป มาจาก น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) / (ส่วนสูง (เมตร) ยกกำลังสอง ตัวอย่างเช่น หากน้ำหนัก 60 กิโลกรัม สูง 165 เซนติเมตร คำนวณได้เป็น 60/1.65²=22.03 อยู่เกณฑ์สมส่วน

คนอ้วน ลดน้ำหนักอย่างไร

คนที่อ้วนมากๆ และไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย อาจมีวิธีการออกกำลังกายเพื่อการลดน้ำหนักที่แตกต่างจากคนที่มีรูปร่างปกติ และ/หรือออกกำลังกายสม่ำเสมออยู่บ้างเล็กน้อย โดยมีวิธีแนะนำ ดังนี้

  • เช็กสภาพร่างกาย
  • คนอ้วน โดยเฉพาะคนที่อ้วน มีน้ำหนักเกินมาเป็นระยะเวลานาน อาจมีความเสี่ยงจากโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หัวใจ ความดัน ข้อเข่าเสื่อม ฯลฯ หรือความไม่พร้อมของร่างกายบางอย่าง หรืออาจไม่ทราบว่าตัวเองมีความเสี่ยงของโรคบางอย่างอยู่ ดังนั้นขั้นตอนคือการตรวจร่างกายอย่างละเอียดและปรึกษาแพทย์ว่าสามารถออกกำลังกายแบบไหนได้บ้างถึงจะเหมาะสมกับสภาพร่างกายของคุณ

  • อบอุ่นร่างกาย
  • ที่สำคัญไม่แพ้การออกกำลังกาย คือการอบอุ่นร่างกายที่เหมาะสม เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อจากการออกกำลังกาย

    วิธีอบอุ่นร่างกาย

    • ยืนยกเข่าขึ้นด้านหน้า สลับขาซ้าย ขวา 2 นาที
    • เตะขาตรงด้านหน้าและหลัง สลับซ้ายขวา 2 นาที
    • บิดเอี้ยวตัวด้านข้าง ซ้าย ขวา สลับกันช้า 1 นาที
    • กางแขนขนานหัวไหล่ หุบเข้าและกางออก ทำช้าๆ ไม่กระชาก 2 นาที

    ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ (Stretching)

    • ยืดต้นขาด้านหลัง วางส้นเท้าด้านหน้าหนึ่งข้างและค่อยๆก้มตัวเอามืดแตะหน้าแข้ง - ปลายเท้า ค้างไว้ 20 วินาที ทำสลับ ซ้ายขวา 3-5 ครั้ง
    • ยืดต้นขาด้านหน้า ยืนพับเข่า มือดึงขาไปด้านหลัง ค้างไว้ 20 วินาที ทำสลับ ซ้ายขวา 3-5 ครั้ง
    • ยืดสะโพก นั่งบนที่นั่ง นำเท้าหนึ่งข้างวางบนต้นขาอีกข้างหนึ่งเป็นเลข 4 (เหมือนไขว่ห้าง) แล้วก้มตัวลงด้านหน้า ค้างไว้ 20 วินาที ทำสลับ ซ้ายขวา 3-5 ครั้ง
  • เลือกวิธีออกกำลังกายที่ชอบ
  • สำหรับคนที่ไม่เคยออกกำลังกาย เพราะอาจไม่ชอบการออกกำลังกายเป็นทุนเดิม แต่หากได้ลองออกกำลังกายในแบบที่ชอบ ที่มีความสนุก ไม่รู้สึกว่าถูกบังคับหรือฝืนตัวเองที่จะต้องทำ จะทำให้เรามีแรงจูงใจในการออกกำลังกายมากขึ้น

    อย่างไรก็ตาม สำหรับวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับคนอ้วน หรือคนที่มีน้ำหนักเกิน ควรเลือกวิธีออกกำลังกายที่ไม่ต้องมีแรงกระแทกสูง กระโดด หรือทำอะไรที่เคลื่อนไหวเร็วเกินไป และแนะนำให้ออกกำลังกายทั้งแบบเผาผลาญไขมันและเสริมความแข็งแรงกล้ามเนื้อ

    ตัวอย่างวิธีออกกำลังกายแบบเผาผลาญไขมัน

    • เดินเร็ว
    • ปั่นจักรยาน
    • ว่ายน้ำ
    • กิจกรรมที่ไม่เหนื่อยมาก แต่ต้องออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 20-30 นาทีเป็นอย่างน้อย

    ตัวอย่างวิธีออกกำลังกายเสริมความแข็งแรงกล้ามเนื้อ

    ในคนโครงร่างใหญ่ หรือ ต้องการลดไขมัน ยิ่งมีกล้ามเนื้อมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งเพิ่มการเผาผลาญไขมันได้เยอะขึ้นเท่านั้น และกล้ามเนื้อที่แข็งแรงช่วยทำให้เราทำกิจกรรมได้นานขึ้น

    เราสามารถเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ด้วยการเพิ่มแรงเสียดทานให้กับกล้ามเนื้อได้หลายวิธี เช่น วิดพื้น สควอท ยกน้ำหนัก ฯลฯ

  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • ความสม่ำเสมอเป็นเรื่องสำคัญ ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 3-5 วันต่อสัปดาห์ ครั้งละอย่างน้อย 20-30 นาที และควรเลือกวิธีออกกำลังกายที่หลากหลาย ไม่ซ้ำซากจำเจ เพื่อไม่ให้ตัวเองเบื่อ สนุกไปกับการออกกำลังกายมากขึ้น และได้ออกกำลังกายให้กับกล้ามเนื้อหลายๆ ส่วนในร่างกาย

    นอกจากการออกกำลังกาย การควบคุมอาหารก็เป็นเรื่องสำคัญที่ควรทำควบคู่กันไป สามารถเลือกกินโปรตีนไขมันต่ำ ผักและผลไม้น้ำตาลน้อย การลดน้ำหนักต้องใช้เวลา ใจเย็นๆ และตั้งใจทำติดต่อกันเป็นเดือนๆ การลดน้ำหนักที่ปลอดภัยและยั่งยืน ควรลดได้ราวๆ 1-1.5 กิโลกรัมต่อหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น ไม่ควรหักโหมมากจนเกินไปจนอ่อนเพลีย และอย่าลืมกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดสารอาหาร และพักผ่อนให้เพียงพอด้วย

    วิ่ง VS เดินเร็ว แบบไหนเผาผลาญพลังงานได้มากกว่ากัน?

    วิ่ง VS เดินเร็ว แบบไหนเผาผลาญพลังงานได้มากกว่ากัน?

    วิ่ง VS เดินเร็ว แบบไหนเผาผลาญพลังงานมากกว่า? ไขคำตอบถ้าวิ่งกับเดินเร็วในระยะทางเท่ากัน พลังงานที่ใช้จะต่างกันหรือไม่

    เดินเร็ววันละ 15 นาที กุญแจสู่ชีวิตยืนยาวและสุขภาพดี

    เดินเร็ววันละ 15 นาที กุญแจสู่ชีวิตยืนยาวและสุขภาพดี

    เดินเร็ววันละ 15 นาที ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ เสริมภูมิคุ้มกัน ควบคุมน้ำหนัก และยืดอายุ งานวิจัยยืนยันสุขภาพดีเริ่มได้ง่าย ๆ แค่เดินเร็วทุกวัน

    วิธีบรรเทาอาการ “ปวดหลัง” ตั้งแต่ยืน เดิน นั่ง นอน

    วิธีบรรเทาอาการ “ปวดหลัง” ตั้งแต่ยืน เดิน นั่ง นอน

    อาการปวดหลัง อาจไม่ได้มาจากโรคร้าย แต่อาจเกิดจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการเดิน นั่ง หรือแม้แต่นอนผิดท่า รู้ไว้ก่อนปวดเรื้อรัง