น้ำต้มเนื้อสัตว์มี "ฟองขาว" ปนเปื้อนสารเคมีจริงหรือ แล้วควรใส่เนื้อตอนน้ำเย็นหรือน้ำเดือด?

ไขความจริง! ฟองในน้ำต้มเนื้อ "ไม่ใช่สารพิษ" ผู้เชี่ยวชาญอธิบายชัดเจน คนกินหายวิตกกังวล

ผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะแม่บ้าน มักเข้าใจว่าฟองขาวที่ลอยขึ้นมาระหว่างการต้มเนื้อหรือกระดูก คือสัญญาณของเนื้อที่ไม่สะอาดหรือมีสารเร่งโต แต่ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า ความเชื่อนี้ไม่ถูกต้องเลย

ศ.ดร.เหงียนซวินถิ่ง (Nguyễn Xuân Thịnh) อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีฮานอย อธิบายว่า “ฟองที่ลอยขึ้นขณะต้มเนื้อหรือกระดูก แท้จริงแล้วคือโปรตีน ไขมัน และแร่ธาตุที่อยู่ในอาหาร เมื่อน้ำเดือด สารเหล่านี้จะจับตัวและกลายเป็นฟองขาวที่ลอยขึ้นมา เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่เกี่ยวข้องกับสารพิษหรือสารต้องห้ามใดๆ ในการเลี้ยงสัตว์เลย”

ท่านกล่าวเพิ่มเติมว่า ฟองขาวเหล่านี้ไม่มีรส ไม่มีกลิ่น ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด เพียงแค่ทำให้น้ำต้มดูขุ่นหรือไม่น่ารับประทาน จึงมักถูกตักออกเพื่อความสวยงามของอาหาร

นอกจากสารอาหารในตัวเนื้อเอง ฟองขาวบางส่วนยังอาจมาจากสิ่งสกปรกที่เกาะติดเนื้อหรือกระดูกในระหว่างกระบวนการฆ่า การขนส่ง หรือการเก็บรักษา เมื่อเจอความร้อน สิ่งสกปรกเหล่านี้จะลอยขึ้นพร้อมกับโปรตีนที่จับตัวกลายเป็นฟอง

ศ.ดร.ถิ่งย้ำว่า“เราไม่สามารถสรุปว่าเนื้อมีสารเคมีเพียงเพราะเห็นฟองลอยในน้ำต้มได้ สิ่งสำคัญคือควรล้างเนื้อให้สะอาด ด้วยน้ำเปล่าหรือ น้ำเกลือเจือจาง ก่อนนำมาปรุงอาหาร”

• กราบเคล็ดลับ ต่างชาติสอนวิธีใส่ "ถุงมือพลาสติก" ไม่หลุด ไม่เลอะ ไม่ต้องพึ่งหนังยางรัด!
• แพทย์อเมริกัน เตือนเครื่องครัวที่ “ควรทิ้ง” ซ่อนสารก่อมะเร็ง คนไทยหลายบ้านยังใช้!

ขณะที่ทางด้าน ดร.ทื่อเงือ (Thư Ngữ) ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ กล่าวเสริมว่า การต้มเนื้อเป็นวิธีปรุงอาหารที่ง่าย รักษารสชาติความหวานของเนื้อได้ดี และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยการต้มมี 2 วิธีหลัก ซึ่งให้ผลลัพธ์ต่างกัน

หากนำเนื้อไปต้มในน้ำเดือด ชั้นนอกจะสุกอย่างรวดเร็วและคงคุณค่าทางโภชนาการไว้ วิธีนี้จะช่วยให้เนื้อมีรสชาติเข้มข้น น้ำซุปใส และมีฟองน้อยลง

ในทางกลับกัน หากคุณใส่เนื้อลงไปขณะที่น้ำยังเย็นอยู่ โปรตีนและแร่ธาตุจะถูกปล่อยออกมาเมื่อน้ำเริ่มเดือด ทำให้น้ำมีฟองและขุ่นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม น้ำจะมีรสหวานและมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่า เหมาะสำหรับใช้เป็นซุป

ฟองขาวไม่ใช่สัญญาณของสารอันตราย แม้ปัจจุบันความกังวลเกี่ยวกับสารเร่งเนื้อแดง (เช่น clenbuterol) จะลดลง แต่สารเร่งโตในอาหารสัตว์อาจยังคงมีอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม สารเหล่านี้ไม่ได้ระเหยหรือแสดงออกมาเป็นฟองตอนต้ม ดังนั้นการดูฟองเพื่อบอกว่าเนื้อปลอดภัยหรือไม่จึง ไม่ถูกต้อง

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกเนื้อสัตว์ที่มีแหล่งกำเนิดที่ชัดเจน สังเกตความนุ่มและความยืดหยุ่นของเส้นใยเนื้อ หลีกเลี่ยงการเลือกเนื้อสัตว์ที่แห้งเกินไปหรือมีกลิ่นแปลกๆ เมื่อซื้อ ควรล้างให้สะอาดด้วยน้ำไหลผ่าน หรือใช้เกลือเล็กน้อยเพื่อขจัดคราบสกปรกที่เหลืออยู่

ท้ายที่สุดเรื่องนี้จึงสรุปได้ว่า ชั้นโฟมขณะต้มเนื้อสัตว์ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเรื่องความสะอาดหรือความปลอดภัยของอาหาร ความเข้าใจที่ถูกต้องจะช่วยให้แม่บ้านรู้สึกมั่นใจมากขึ้นในการเตรียมอาหารให้ครอบครัว