“ปวดหลังส่วนล่าง” อาการยอดฮิต รวมสาเหตุและวิธีแก้ให้ดีขึ้น
ปวดหลังส่วนล่างคืออะไร? เปิด 5 สาเหตุยอดฮิต พร้อมวิธีแก้และบรรเทาอาการให้หายขาด
อาการ ปวดหลังส่วนล่าง คือความรู้สึกเจ็บหรือตึงบริเวณเอวและกระเบนเหน็บ ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยมากทั้งในวัยทำงานและผู้สูงอายุ ความเจ็บปวดนี้อาจเป็นอาการชั่วคราว หรือพัฒนาเป็นอาการเรื้อรังได้ ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการ โดยอาการปวดหลังล่างอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดร้าวลงขา ชา หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง
5 สาเหตุยอดฮิตที่ทำให้ปวดหลังล่าง
อาการปวดหลังส่วนใหญ่มักมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน และการใช้งานร่างกายที่ไม่ถูกต้อง ลองตรวจสอบว่าคุณกำลังมีพฤติกรรมเหล่านี้อยู่หรือไม่:
1. นั่งนานหรือท่าทางไม่ถูกต้อง
การนั่งทำงานนาน ๆ โดยไม่ขยับร่างกาย การนั่งหลังงอ หรือการใช้เก้าอี้ที่ไม่เหมาะสม ไม่มีพนักพิงรองรับหลังอย่างเพียงพอ เป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ที่ทำให้กล้ามเนื้อหลังทำงานหนักและเกิดอาการปวดตึงได้ง่าย
2. ยกของหนักผิดวิธี
การใช้แรงหลังมากกว่าขาในการยกของหนักจะทำให้กล้ามเนื้อและหมอนรองกระดูกถูกกดทับอย่างรุนแรง ซึ่งเสี่ยงต่อการบาดเจ็บเฉียบพลัน และอาจนำไปสู่ภาวะหมอนรองกระดูกเคลื่อนได้
3. หมอนรองกระดูกเสื่อมหรือเคลื่อน
ปัญหานี้พบมากในคนวัยทำงานและผู้สูงอายุ เมื่อหมอนรองกระดูกเสื่อมสภาพหรือเคลื่อนออกมา จะไปกดทับเส้นประสาท ทำให้มีอาการปวดร้าวลงขา หรือมีอาการชาร่วมด้วย ซึ่งจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม
4. กล้ามเนื้ออักเสบจากการใช้งานเกิน
การออกกำลังกายหนักเกินไป การเล่นกีฬา หรือการยกเวทโดยไม่วอร์มอัพและยืดเหยียดร่างกายอย่างเพียงพอ อาจทำให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บและเกิดอาการปวดตึงที่หลังส่วนล่างได้
5. โรคหรือภาวะอื่น ๆ
อาการปวดหลังอาจเป็นสัญญาณของโรคอื่น ๆ เช่น โรคข้อเสื่อม กระดูกสันหลังคด หรือโรคเกี่ยวกับอวัยวะในอุ้งเชิงกราน นอกจากนี้ การตั้งครรภ์ ก็เป็นอีกภาวะที่ทำให้น้ำหนักตัวเปลี่ยนและทำให้เกิดอาการปวดหลังได้เช่นกัน
วิธีแก้และบรรเทาอาการปวดหลังล่างที่ทำได้เอง
การบรรเทาอาการปวดหลังล่างสามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ จากการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันร่วมกับการดูแลร่างกายอย่างเหมาะสม
- ปรับท่าทางการนั่งและยืน: เลือกเก้าอี้ที่มีพนักพิงรองรับหลังส่วนล่าง และฝึกยืนหรือนั่งหลังตรง ไม่ควรงอหลังเป็นเวลานานเกินไป
- การออกกำลังกายและยืดเหยียด: การฝึกโยคะท่าที่ช่วยคลายกล้ามเนื้อหลัง เช่น ท่าแมว–วัว (Cat-Cow) หรือ ท่าสะพาน (Bridge) รวมทั้งการยืดกล้ามเนื้อเอวและต้นขาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ดี
- ประคบร้อน–เย็น: ใช้เจลร้อนหรือถุงน้ำร้อนช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ตึง หากอาการปวดเกิดจากการบาดเจ็บใหม่ (เฉียบพลัน) ควรประคบเย็นในช่วง 48 ชั่วโมงแรก
- พักผ่อนให้เพียงพอ: ควรนอนบนที่นอนที่ไม่นิ่มหรือยวบเกินไป ลองเปลี่ยนท่านอนให้นอนหงายพร้อมหนุนหมอนรองใต้เข่า หรือนอนตะแคงงอเข่าเล็กน้อย เพื่อลดแรงกดทับที่หลัง
ควรปรึกษาแพทย์เมื่อไหร่?
อาการปวดหลังล่างที่เกิดขึ้นชั่วคราวมักสามารถหายได้เองจากการปรับพฤติกรรมและการดูแลตัวเอง แต่หากอาการปวดเรื้อรังเกิน 2–3 สัปดาห์ หรือมีอาการปวดร้าวลงขา ชา หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงร่วมด้วย ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและรับการรักษาอย่างถูกวิธีทันที