
“น้ำยาบ้วนปาก” ใช้ไม่ถูกวิธี เสี่ยงช่องปากพังหนักกว่าเก่า
หลังจากที่ Sanook! Health นำเสนอบทความเกี่ยวกับ 4 สัญญาณอันตราย ได้เวลารักษา “รากฟัน” แล้วมีผู้สนใจอ่านเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เราคิดว่าสุขภาพปาก และฟัน เป็นเรื่องสำคัญที่ใครหลายคนอาจมองข้าม สนใจแต่โรคหนักๆ อย่างหัวใจ เบาหวาน ไต และมะเร็ง ซึ่งอันที่จริงแล้วจุดเริ่มต้นของทุกโรคที่กล่าวมา ก็มาจากการทานอาหารผ่าน “ปาก” ของเรานั่นเอง จึงอาจพูดได้ว่าช่องปากสำคัญต่อสุขภาพโดยรวมของเราตั้งแต่ต้น
การดูแลทำความสะอาดช่องปาก ทำได้ง่ายๆ เพียงแปรงฟัน แต่ในความง่ายก็ยังมีความยากซ่อนอยู่ เพราะหลายคนยังแปรงฟันไม่สะอาด จนก่อให้เกิดโรคฟันผุ เหงือกอักเสบ และอื่นๆ ตามมา (อ่านต่อ >> 3 วิธีแปรงฟันที่คุณอาจเข้าใจผิดมาตลอด!) ดังนั้นเพื่อเพิ่มความมั่นใจเหงือก และฟันของเราได้รับการดูแลเป็นอย่างดี จึงมีนวัตกรรม น้ำยาบ้วนปาก ออกมา น้ำยาบ้วนปากก็ใช้ง่าย ไม่ยุ่งยาก แต่ยังไม่หลายคนที่ใช้น้ำยาบ้วนปากไม่ถูกต้องอีกเช่นกัน จนเสี่ยงเป็นอันตรายต่อสุขภาพในภายหลังได้
น้ำยาบ้วนปาก จำเป็นหรือไม่?
น้ำยาบ้วนปาก เป็นของเหลวที่ช่วยในการทำความสะอาดช่องปากเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่อาจทดแทนการทำความสะอาดฟัน และเหงือกจากการแปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟันได้ เพราะการบ้วนปากเพียงอย่างเดียวไม่สามารถกำจัดเศษอาหารที่ตกค้างตามซอกเหงือกซอกฟันทั้งหมดได้ น้ำตาบ้วนปากจึงมีหน้าที่ช่วยลดเชื้อโรคภายในปากบางส่วน ระงับกลิ่นปากชั่วคราว และทำให้ปากสดชื่นจากกลิ่นของน้ำยาบ้วนปากเท่านั้น หากมั่นใจว่าทำความสะอาดช่องปากได้เป็นอย่างดีแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้น้ำยาบ้วนปากค่ะ
อันตรายจากการใช้น้ำยาบ้วนปากไม่ถูกต้อง
วิธีใช้น้ำยาบ้วนปากที่ถูกต้อง
น้ำยาบ้วนปากมีหลายชนิดเหมือนยาสีฟันค่ะ หลายสูตร หลายส่วนผสม แต่ควรเลือกที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หรือมีน้อยที่สุด เพื่อป้องกันการระคายเคืองต่อเยื่อบุช่องปาก และยังอาจทำให้แสบช่องปากอีกด้วย นอกจากนี้ยังต้องระวังส่วนผสมที่เป็นกรด ที่อาจทำให้ผิวฟันกร่อน เคลือบฟันบางลง และอาจเกิดอาการเสียวฟันตามมาได้
ก่อนใช้น้ำยาบ้วนปาก ควรทำความสะอาดฟันด้วยการแปรงฟัน หรือใช้ไหมขัดฟันเพื่อกำจัดเศษอาหารออกมาจากซอกฟันเสียก่อน เพื่อให้น้ำยาบ้วนปากสัมผัสส่วนต่างๆ ของช่องปากได้ดี และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
น้ำยาบ้วนปากแต่ละสูตรอาจมีวิธีใช้ที่แตกต่างกันออกไป เช่น อมค้างไว้ 15-30 วินาทีก่อนค่อยบ้วนทิ้ง ไม่บ้วนปากด้วยน้ำเปล่าตาม หรืออาจจะมากหรือน้อยกว่านี้ รวมถึงความถี่ในการใช้น้ำยาบ้วนปากของแต่ละชนิดก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้นควรอ่านศึกษาจากฉลากข้างผลิตภัณฑ์ให้ดีค่ะ
น้ำยาบ้วนปาก ช่วยให้ช่องปากของเราหอมสดชื่น แต่ไม่ได้ช่วยรักษาโรค และอาการผิดปกติต่างๆ ในช่องปากแต่อย่างใด หากมีอาการเหงือกบวมอักเสบ ฟันผุ มีแผลในช่องปาก เหงือกร่น หรือปัญหาอื่นๆ ควรไปพบทันตแพทย์ และควรพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันทุกๆ 6 เดือนค่ะ