UNHCR เปิดตัว “กองทุนภาวะฉุกเฉินเพื่อผู้ลี้ภัย” ส่งต่อความรักและพลังใจให้เพื่อนมนุษย์
สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) จัดมื้ออาหารกลางวัน “EMergency Party มื้อฉุกเฉินเพื่อผู้ลี้ภัย” พร้อมเปิดตัว “Empathy Emergency Fund กองทุนภาวะฉุกเฉิน” สำหรับพร้อมใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้นทั่วโลก เพื่อช่วยเหลือทุกด้านในความเป็นมนุษย์ของผู้ลี้ภัย
ในปัจจุบัน มีผู้คนที่ถูกบังคับให้หนีออกจากบ้านเกิดของตัวเอง เนื่องจากสงคราม ความรุนแรง และความขัดแย้ง พุ่งสูงกว่า 100 ล้านคน ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ขณะที่ใน พ.ศ.2564 UNHCR ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินถึง 40 สถานการณ์ ใน 29 ประเทศทั่วโลก ส่งผลให้ผู้คนราว 7.1 ล้านคน ต้องเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างประเทศเพื่อแสวงหาความคุ้มครองและความปลอดภัย ทั้งนี้ มีรายงานว่า 14.4 ล้านคน ต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นใหม่ที่อยู่ในประเทศของตัวเอง นอกจากนี้ สถานการณ์ผู้ลี้ภัยยังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเด็ก โดยเด็กเล็กกว่า 96% มีภาวะเสี่ยงสูงต่อการขาดสารอาหาร ซึ่งเป็นผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19
สถานการณ์ภายในประเทศที่ผลักให้ผู้คนต้องหลบลี้ออกจากบ้านเกิด ถูกซ้ำเติมด้วยภัยพิบัติจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศและสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้ชีวิตของผู้ลี้ภัยมีความเปราะบางมากขึ้น บางสถานการณ์ได้รับความสนใจจากคนทั่วโลก ขณะที่อีกหลายสถานการณ์กลับไม่ได้รับการพูดถึง ทว่าทุกวิกฤตและภาวะฉุกเฉินล้วนต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ด้วยเหตุนี้ UNHCR ประเทศไทย จึงเปิดตัว “Empathy Emergency Fund กองทุนภาวะฉุกเฉิน” ระดมทุนเพื่อสนับสนุนการทำงาน และให้ความช่วยเหลือในภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลก เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา ณ ร้าน Buddha & Pals พร้อมจัดมื้ออาหารกลางวัน ภายใต้ชื่อ “EMergency Party มื้อฉุกเฉินเพื่อผู้ลี้ภัย” และรับฟังเรื่องภาวะฉุกเฉินของผู้ลี้ภัย
มื้ออาหารกลางวันจากอาหารพื้นเมืองบ้านเกิดของผู้ลี้ภัย เริ่มต้นด้วยการเสิร์ฟชานมร้อน และ “อินทผลัม” ซึ่งถือเป็นผลไม้จากตะวันออกกลาง ตามมาด้วย The Missing Peace โรตีชิ้นเล็กและน้ำสะอาดเพียงเล็กน้อยสะท้อนความเป็นอยู่อันแร้นแค้นของผู้ลี้ภัย ก่อนที่ปริมาณอาหารและน้ำจะเพิ่มมากขึ้น ด้วย Hope สะท้อนถึงน้ำใจของคนทั่วโลกที่หลั่งไหลไปช่วยเหลือผู้ลี้ภัย
จากนั้น ทีมผู้จัดงานได้เสิร์ฟ “ซาโมซ่า” ผักพร้อมซอสมะขาม แป้งสอดใส่ผักคลุกเครื่องเทศ ห่อเป็นรูปสามเหลี่ยมทอดด้วยไฟแรง และ “ฟาลาเฟล” อาหารว่างจากตะวันออกกลาง มีส่วนผสมของไก่และถั่วเป็นหลัก โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมจากยี่หร่า ตามด้วยเมนคอร์ส เป็นข้าวหมกไก่ย่างสไตล์อัฟกานิสถาน และ “ฟูฟู” ทำจากหัวมัน แป้ง หรือแป้งข้าวโพด ที่เสิร์ฟพร้อมสตูถั่วบด ถั่วเลนทิลกับพริกหยวก และกระเจี๊ยบสไตล์แอฟริกัน ปิดท้ายด้วยพุดดิ้งข้าว ขนมหวานสไตล์อัฟกานิสถาน และม็อกเทล “The Difference” จากร้าน Buddha & Pals
นอกจากมื้ออาหารแล้ว ยังมีการพูดคุยเรื่องภาวะฉุกเฉินของผู้ลี้ภัยและแบ่งปันประสบการณ์การลงพื้นที่เพื่อสัมผัสชีวิตของผู้ลี้ภัยจากแขกรับเชิญพิเศษ ได้แก่ ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าวรายการข่าว 3 มิติ และผู้ก่อตั้งสำนักข่าวออนไลน์ The Reporters, นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการและบรรณาธิการบริหาร THE STANDARD, ปณิธิ จันทะยาสาคร เชฟเฉพาะกิจ เจ้าของบริษัทโฆษณา ชาวนา และอาสาสมัครเพื่อสังคม และสุชาดา ภูกิตติกุล รองผู้อำนวยการแผนกส่งเสริมความร่วมมือภาคเอกชน UNHCR
การจัดเตรียมสิ่งของบรรเทาทุกข์ไว้ล่วงหน้า พร้อมเจ้าหน้าที่จัดการภาวะฉุกเฉินเพื่อลงพื้นที่ทันที และการมีงบประมาณที่เพียงพอ คือหัวใจหลักของการช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ในวิกฤตระดับโลก และทุกคนสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ โดยเงินบริจาค 100% จะถูกนำไปเป็นความคุ้มครองชีวิตทุกด้าน รวมทั้งมอบอาหาร น้ำสะอาด สร้างโรงเรียน โรงพยาบาล ที่พักพิง และอีกมากมาย
ร่วมสนับสนุนเงินบริจาคได้ที่ www.unhcr.org/th หรือโอนผ่านธนาคาร
บัญชีธนาคาร: ชื่อบัญชี UNHCR SPECIAL ACCOUNT
- ธ.ไทยพาณิชย์ เลขบัญชี 004-2-25859-6
- ธ.กสิกร เลขที่บัญชี 030-2-88804-3
*เมื่อทำรายการเสร็จแล้วส่งสลิปโอนเงินมาที่ LINE @unhcrdonation เพื่อบันทึกการบริจาค
หรือ SMS พิมพ์ 30 ส่งมาที่ 4642789 (เพื่อบริจาคครั้งละ 30 บาท)