เนื้อหาในหมวด ข่าว

ลูกเดือดแทน พ่อป่วยมะเร็ง น้องชายเอา \

ลูกเดือดแทน พ่อป่วยมะเร็ง น้องชายเอา "ผ้าห่มเก่าๆ" มาเยี่ยม แต่เห็นข้างในร้องไห้โฮ

พ่อเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย น้องชายที่หายหน้าไป 10 ปี จู่ๆ มาเยี่ยมพร้อมผ้าห่มเก่าๆ ลูกเห็นแล้วโมโหแทน แต่เปิดดูข้างในซึ้งจนร้องไห้

เรื่องราวของคุณหลิน (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ปัจจุบันอาศัยและทำงานในมณฑลเจียงซู ประเทศจีน เป็นพนักงานบริษัทธรรมดา แม้ครอบครัวไม่ได้ร่ำรวย แต่ชีวิตค่อนข้างมีความสุข อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนที่แล้ว เนื่องจากผู้เป็นพ่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น "มะเร็งระยะสุดท้าย" ข่าวนี้ทำให้ทั้งครอบครัวช็อกอย่างมาก

วันหนึ่ง ขณะที่คุณหลินอยู่ในโรงพยาบาลเพื่อดูแลพ่อ จู่ๆ ก็ได้รับโทรศัพท์เบอร์แปลกโทรเข้ามา เมื่อลองรับปรากฎว่าเป็น "น้องชายของพ่อ" ที่ไม่ได้ติดต่อกันมาเป็นเวลา 10 ปี แต่เมื่อรู้ข่าวอาการป่วยจึงโทรมาสอบถาม และไม่นานก็มาเยี่ยมที่โรงพยาบาล โดยถือผ้าห่มผ้าฝ้ายเก่าๆ มาด้วย เขาเดินไปที่เตียงผู้ป่วย "พี่ชายฉันรู้ว่าคุณยังจำฉันได้เสมอ ฉันก็เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปีนั้นเหมือนกัน แม่ของฉันทิ้งผ้าห่มผืนนี้ไว้ ฉันเก็บไว้เพื่อมอบให้พี่ชายของฉัน" อย่างไรก็ดี พ่อของคุณหลินไม่ได้ตอบสนองใดๆ ต่อคำพูดนั้น ทำให้อีกฝ่ายต้องกลับไปหลังจากเพิ่งมาเยี่ยมได้ไม่นาน

เมื่อมองดูผ่าห่มเก่าๆ คุณหลินก็อดที่จะโกรธเคืองไม่ได้ ก่อนหน้านี้พ่อมีความขัดแย้งกับน้องชาย ในเรื่องการแบ่งทรัพย์สินมรดก ด้วยเหตุนี้ความสัมพันธ์จึงแย่ลงเรื่อยๆ ตอนนี้พ่อเหลือเวลาไม่มากแล้วแต่ก็ยังเอาผ้าห่มเก่าๆ มามอบให้ ถ้าจะทำอย่างนั้นอย่ามาเลยดีกว่า ดังนั้น หลังจากที่อีกฝ่ายกลับไปแล้ว เขาจึงนำผ้าห่มผืนนั้นไปให้พนักงานทำความสะอาดของโรงพยาบาล เพราะยังไงบ้านก็ไม่ขาดแคลนจนจำเป็นต้องใช้ผ้าห่มผืนนั้น แต่เพียงครู่เดียวพนักงานทำความสะอาดก็กลับมาด้วยใบหน้าตื่นตระหนก ถือผ้าห่มผืนเดิมไว้ในมือแล้วพูดว่า "พ่อหนุ่ม รีบเอาผ้าห่มนี้กลับไปเร็วๆ นี้ มีบางอย่างอยู่ข้างใน!"

คุณหลินตัดสินใจเปิดดูภายในผ้าห่ม และพบว่ามีสมุดบัญชีธนาคาร และจดหมายลายมือที่เขียนไว้ว่า “พี่ชาย ฉันรู้ว่าคุณยังเข้าใจฉันผิด แต่จริงๆ แล้วฉันเสียใจจริงๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้นในปีนั้น แม่ทิ้งผ้าห่มผืนนี้ไว้ ก่อนที่เธอจะจากไปเธอบอกเราทั้งคู่ให้ดูแลกันไว้ ในบัญชีนี้มีเงินอยู่ 100,000 หยวน (ประมาณ 5 แสนบาท) นี่คือเงินที่ฉันเก็บสะสมมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉันหวังว่ามันจะช่วยให้คุณผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ได้"

เมื่ออ่านจบคุณหลินก็ถึงกับน้ำตาไหล ปรากฎว่าอีกฝ่ายยังคงแอบห่วงใยครอบครัวของพี่ชาย แต่เขาเกือบจะทำให้พี่น้องต้องสูญเสียความสัมพันธ์อันมีค่านี้อีกครั้ง เพราะความเข้าใจผิด ดังนั้นเขาจึงรีบวิ่งกลับไปที่ห้องพักของพ่อเพื่อเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น เมื่อพ่ออ่านจนหมายก็น้ำตาไหลเช่นกัน ปรากฎว่าทั้งคู่ต่างสำนึกผิดพอๆ กัน และเข้าใจความจริงแล้วว่าความรักในครอบครัวไม่สามารถวัดได้ด้วยเงิน ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง สุขภาพ เวลา หรือทรัพย์สินที่มีค่าที่สุด ก็ล้วนไม่มีความมั่งคั่งใดเทียบได้กับความรัก

ในช่วงสุดท้ายชีวิตพ่อของคุณหลิน มีน้องชายคอยดูแลอยู่เคียงข้างเสมอ แม้ว่าเงินในบัญชีนั้นจะไม่สามารถช่วยยื้อชีวิตเอาไว้ได้ แต่มันก็เป็นสะพานที่ช่วยให้เขาใช้ชีวิตในวันสุดท้ายได้อย่างเต็มที่ และรู้ว่าไม่ว่าชีวิตจะเจอกับความสำเร็จ ความล้มเหลว ความยากลำบาก หรือความสุข ครอบครัวยังคงเป็นที่ให้เรากลับมา เพื่อใช้ชีวิตทุกวันอย่างรู้คุณค่า และมีความสุขมากกว่าเมื่อวาน

ชายกินดี กลับตายเพราะมะเร็งลำไส้ หมอเผย 3 นิสัยเสี่ยงโรค อย่าโทษแต่อาหาร

ชายกินดี กลับตายเพราะมะเร็งลำไส้ หมอเผย 3 นิสัยเสี่ยงโรค อย่าโทษแต่อาหาร

ชายกินดีใส่ใจรักษาสุขภาพ แต่กลับตายเพราะมะเร็งลำไส้ใหญ่ หมอเผย 3 พฤติกรรมเสี่ยง นิสัยที่หลายคนเคยชิน อย่าโทษแต่อาหาร

เช็กข่าวชัวร์ : กินถั่วเหลือง น้ำเต้าหู้ เสี่ยงมะเร็งเต้านมจริงหรือไม่? หมอเจดมาเฉลยแล้ว

เช็กข่าวชัวร์ : กินถั่วเหลือง น้ำเต้าหู้ เสี่ยงมะเร็งเต้านมจริงหรือไม่? หมอเจดมาเฉลยแล้ว

เช็กให้ชัด กินถั่วเหลือง น้ำเต้าหู้ ทำให้เสี่ยงมะเร็งเต้านม จริงหรือไม่? หมอเจดไขทุกข้อสงสัยให้แล้ว

นิ่วในถุงน้ำดี กลายเป็นมะเร็งได้ไหม? สังเกต 4 สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

นิ่วในถุงน้ำดี กลายเป็นมะเร็งได้ไหม? สังเกต 4 สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

นิ่วในถุงน้ำดี กลายเป็นมะเร็งได้ไหม? สังเกต 4 อาการเบื้องต้นของนิ่วในถุงน้ำดี สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

ฉี่แบบไหนเสี่ยง \

ฉี่แบบไหนเสี่ยง "มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ" เช็ก 7 สัญญาณเตือนที่อาจมาเงียบๆ

ฉี่แบบไหนเสี่ยง "มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ" มะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในระบบทางเดินปัสสาวะ เช็ก 7 สัญญาณเตือนที่อาจมาเงียบๆ

ประเทศที่ป่วย \

ประเทศที่ป่วย "โรคมะเร็ง" มากที่สุดในโลก ไทยอยู่อันดับน่ากลัว ปีเดียวเพิ่ม 1.8 แสน

ประเทศที่มีผู้ป่วยใหม่ "โรคมะเร็ง" มากที่สุดในโลก ไทยอยู่อันดับน่ากลัว ปีเดียวเพิ่ม 1.8 แสน