ครูช็อก เด็กอนุบาลไม่นอน ย่อง "จูบ" เพื่อนผู้หญิง เล่าทำตาม 2 สิ่งนี้ แม่ทั้งโกรธทั้งอาย!!!
ครูเห็นเต็มตา เด็กอนุบาลไม่นอนกลางวัน แอบเดินย่องไป “จูบ” เพื่อนผู้หญิงที่หลับอยู่ เชิญผู้ปกครองมาคุย แม่โกรธแค่ดุไม่ออกเพราะ “เลียนแบบ” สิ่งนี้
เด็กที่อยู่ในระยะพัฒนาการมีความสามารถในการเลียนแบบได้เร็วมาก อย่างไรก็ตาม ความตระหนักรู้ของเด็กยังไม่ครอบคลุม จึงไม่สามารถกรองข้อมูลได้ ส่งผลให้เด็กมีการกระทำที่ไม่เหมาะสมกับวัยและคำพูดที่ทำให้ผู้ใหญ่ตกใจ
เว็บไซต์ข่าว SOHA รายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนอนุบาลต่างประเทศ ในช่วงบ่ายที่เด็กๆ กำลังนอนหลับพักผ่อนหลังทานอาหารกลางวัน ครูผู้ดูแลชั้นเรียนจะคอยตรวจดู ช่วยห่มผ้าห่ม และเตือนเด็กที่ไม่ได้นอนหรือส่งเสียงดัง
ในห้องเรียนนี้มีเด็กชาย 5 ขวบคนหนึ่งที่มักจะไม่ยอมนอน มักจะถือของเล่นและเล่นตามลำพัง แม้คุณครูจะเตือนหลายครั้งแล้วก็ตาม สุดท้ายครูก็ยอมปล่อยไป เพราะเด็กชายไม่ได้ส่งเสียงดังหรือรบกวนเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ
แต่ล่าสุดครูได้ยินเสียงแปลกๆ เมื่อมองไปก็เห็นเด็กชายคนเดิมกำลังเดินย่องๆ เขย่งปลายเท้าไปหาเพื่อนผู้หญิงแล้ว “แอบจูบ” เธอ เมื่อรู้ว่าถูกจับได้ก็เขินอายหน้าแดง ในขณะที่ครูเองก็สับสนมากกับเหตุการณ์นี้ จึงค่อยๆ เกลี้ยกล่อมเด็กชายออกจากห้องเรียนเพื่อพูดคุย
ครูได้เชิญผู้ปกครองเข้าร่วมพูดคุยทันทีหลังจากนั้น ในตอนแรกพ่อแม่แสดงอาการโกรธ แต่หลังจากได้ยินลูกชายพูดออกมาดังๆ ว่า “เรียนรู้” พฤติกรรมดังกล่าวมาจากไหน ก็ตระหนักว่าเป็นความผิดของพวกเขาเอง
ปรากฎว่าผู้เป็นแม่มักจะดูละครโทรทัศน์ ซึ่งมีฉากเลิฟซีนระหว่างชายและหญิงมากมาย หลายครั้งที่เด็กชายเฝ้าดูอย่างตั้งใจแล้วหันไปถามแม่ว่า "พวกเขากำลังทำอะไรอยู่?" ผู้เป็นแม่ที่สับสนเลือกจะตอบว่า ผู้ใหญ่กำลังเล่นเกมอยู่ จากนั้นให้ลูกเล่นโทรศัพท์เพื่อหวังให้เขาลืมเรื่องนี้
นอกจากนี้ เด็กชายอายุ 5 ขวบคนนี้ ยังนอนเตียงเดียวกับพ่อแม่ บางครั้งพวกเขาไม่สามารถควบคุมการกระทำที่ใกล้ชิดบางอย่างได้ และแสดงความรักต่อกันออกมา เพราะทั้งคู่คิดว่าเด็กกำลังหลับอยู่ แต่ในความเป็นจริงมีหลายครั้งที่ลูกรับรู้ แต่คิดว่าพ่อแม่แค่เล่นเกมกันเท่านั้น
พ่อแม่ควรสอนลูกเกี่ยวกับเรื่องทางเพศอย่างไร?
พ่อแม่ชาวตะวันออกจำนวนมากยังคงหลีกเลี่ยงกับเรื่องเพศศึกษา โดยคิดว่ามันเป็นปัญหาที่ละเอียดอ่อนและยากจะพูดถึงสุดท้ายแล้วมักจะหาวิธีพูดปัดหรืออธิบายอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้จะทำให้เด็กอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น หรือมีการรับรู้เรื่องเพศที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้น ผู้ปกครองควรให้ความรู้พื้นฐานที่ถูกต้อง และคุ้นเคยที่เหมาะสมแก่พวกเขาตามแต่ละช่วงวัย
ผู้ปกครองจำเป็นต้องมีวิธีการศึกษาและให้ความรู้ที่เหมาะสม ตัวอย่างเช่น ช่วยให้เด็กๆ เข้าใจว่าร่างกายของพวกเขาเป็นของตัวเอง และไม่มีใครสามารถสัมผัสได้โดยไม่ได้รับอนุญาต